บทที่ 4 หนักหน่วง [2/2]

1032 Words
เขากระแทกกระทั้นเข้ามาในร่างกายของฉันไม่หยุดหย่อนในจังหวะที่แสนหนักหน่วงสลับกับเนิบนาบ ฉันนอนครวญครางใต้ร่างหนาของเขาโดยที่ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว รู้แค่ว่าฉันเจ็บน้อยลงคล้ายปรับตัวได้แล้ว ความเจ็บปวดเริ่มมลายหายไปและมีความรู้สึกอื่นเข้ามาแทนที่ หลังปลดปล่อยครั้งแรกเสร็จ เขาถอดถอนตัวตนออกไป ก่อนที่จะขยับไปเปิดไฟที่หัวเตียง ทำให้ทั้งห้องสว่างไสวจนเห็นเรือนร่างที่ไร้การปกปิด รวมทั้งเห็นทุกการกระทำของสองเรา “เลือดซิงของคุณน่าหลงใหลดีนะ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน อ๊าส์~...มันทำให้เลือดในกายของผมสูบฉีดและไหลเวียนดี” เขาพูดพลางหลุบตามองต่ำที่ส่วนกลางกายของฉัน แล้วกระตุกยิ้มอย่างชอบใจ “ต่อยกสองเลยละกัน” ซองถุงยางอนามัยสีเงินถูกฉีกโดยเขี้ยวฟันแหลมคม ก่อนที่เขาจะเอามันไปสวมใส่ที่ส่วนแข็งขืนที่กำลังชี้โด่มาทางฉัน จากนั้นเขาก็เริ่มต้นบรรเลงกิจกรรมอันแสนเร่าร้อนเพื่อให้คุ้มกับเงินที่จะเสียให้ฉัน กิจกรรมนี้ผ่านไปกี่ครั้งคราหรือใช้เวลานานเท่าไหร่แล้วฉันไม่รู้ได้ รู้แค่ว่าคนบนร่างไม่ปล่อยให้ฉันได้พักเกินห้านาที เขาต่อเนื่องจนฉันได้แต่นอนร่วงโรยใต้ร่าง เปลือกตาอ่อนล้าจนจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ ครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะหยุดทุกอย่างฉันเห็นแสงสว่างลอดเข้ามาผ่านผ้าม่านสีขาวสะอาดตา ก่อนที่ฉันจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยเพลีย หลังจากนอนหลับไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ฉันก็ปรือตาตื่นขึ้นมาด้วยเปลือกตาและร่างที่แสนหนักอึ้ง หยัดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมคว้าเอาผ้าห่มมาคลุมร่างเปลือยเปล่า เหล่ตามองคนที่นอนฟุ่บหน้าข้างกายอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลุกลี้ลุกลนเพื่อหาชุดเดรสของตัวเองมาสวมใส่ แต่ทว่ามันกลับใส่ไม่ได้แล้ว เพราะถูกฉีกจนขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดี จึงทอดถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างคิดหนักเมื่อไม่มีเสื้อผ้าที่ใช้ปกปิดร่างกายได้ และตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่ก็คือเสื้อผ้าของเจ้าของห้อง “คุณจะไปแล้วเหรอ?” “ค่ะ...ฉันขอยืม...” ฉันพยักหน้าตอบแบบไม่มองหน้าสบตาเขาเพราะรู้สึกเขินอาย ขณะที่กำลังจะพูดขอยืมเสื้อผ้าของเขามาใส่ ฉันก็ชะงักปากเมื่อคิดขึ้นมาได้ เพราะถ้าหากยืมไปฉันก็ต้องเอามาคืนเขา แบบนี้เราก็ต้องเจอกันอีก ซึ่งมันไม่ดีแน่ “ยืมอะไร?” เขาเอียงคอเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย “เอ่อ...” ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี อึกอักเหมือนน้ำท่วมปาก เรียบเรียงคำที่จะพูดออกไปไม่ถูกด้วย และเหมือนว่าเขาจะอ่านความคิดและความต้องการของฉันออก จึงเอียงคอถาม “เสื้อผ้า?” “ค่ะ ฉันยืมเสื้อผ้าของคุณก่อนได้ไหมคะ เดี๋ยวให้แมสเซ็นเจอร์ส่งของเอามาคืน แต่ขอที่อยู่ให้ฉันด้วยนะคะ” “ไม่เป็นไร ผมให้คุณเลย จะเอาไปทิ้งหรือเอาไปทำอะไรต่อก็ได้” เขาบอกอย่างไม่ยี่หระก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นออกมาให้ฉัน “ขอบคุณค่ะ” ฉันรับเสื้อผ้าของเขามา แล้วค่อย ๆ แบกร่างอันแสนระบมของตัวเองเดินเข้ามาในห้องน้ำ จากนั้นก็จัดการสวมใส่ แม้จะตัวโคร่งไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรใส่ พอเปิดประตูห้องน้ำออกมาฉันก็เห็นเจ้าของห้องยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงห้อง เมื่อเขาเห็นฉันก็บี้บุหรี่ลงกับที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ฉัน “นอนต่ออีกสักพักก่อนสิ สภาพคุณแบบนี้ดูไม่น่าไหว” “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอเงินห้าหมื่นให้ฉันด้วยค่ะ” ฉันว่าพลางแบมือตรงหน้าของเขาเหมือนเด็กขอค่าขนมจากพ่อแม่ เขามองฝ่ามือของฉันครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปหยิบอะไรบางอย่างที่บนหัวเตียง ไม่นานเช็กจำนวนแปดหมื่นบาทก็ถูกวางลงบนมือของฉัน ทำเอาฉันรีบเงยหน้าถามเขาอย่างอึ้ง ๆ ทันที “ทำไมคุณให้เกินมาสามหมื่นละคะ?” “ทิปน่ะ ขอบคุณที่ทำให้ผมมีความสุขตลอดทั้งคืน ผมไม่ได้ปลดปล่อยตัวเองหนักหน่วงแบบนี้มานานแล้ว” ฉันมองหน้าเขาพร้อมเกิดคำถามในหัวว่า ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย แค่นอนนิ่ง ๆ แข็งทื่อเหมือนท่อนไม้มันสามารถทำให้เขามีความสุขจริง ๆ เหรอ? แต่ถึงกระนั้นฉันก็ไม่ปฏิเสธน้ำใจของเขา เพราะฉันอยู่ในสภาพที่เลือกอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเงินจำเป็นและสำคัญต่อการดำรงชีวิตของฉันมาก “ขอบคุณค่ะ” “เอาเงินไปทำอะไรนะถึงได้ยอมขายศักดิ์ศรีของตัวเองทำเรื่องแบบนี้เพื่อแลกเงิน?” เขาพยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยถามด้วยใบหน้าสงสัย และในเมื่อเสร็จงานและได้เงินแล้วฉันก็ไม่คิดที่จะปิดบัง “จ่ายค่าเทอมค่ะ อีกสองวันก็จะถึงวันจ่ายค่าเทอมของมหา’ลัยแล้ว” “อยู่ปีไหนแล้วล่ะ?” “ปี...ช่างมันเถอะค่ะ เราไม่จำเป็นต้องรู้อะไรพวกนี้นี่คะ เพราะยังไงเราสองคนก็จะไม่มีทางได้เจอกันอีกแล้ว ขอบคุณที่ใช้บริการฉันค่ะ” ฉันเกือบจะบอกเรื่องส่วนตัวของตัวเองไปแบบลืมตัวแล้ว แต่โชคดีที่รู้ตัวและชะงักปากไว้ได้ทันซะก่อน “...อืม ขอให้โชคดี” “ค่ะ ฉันไปแล้วนะคะ” ฉันโค้งหัวให้เขาไปเล็กน้อย ก่อนจะฝืนแบกสังขารอันแสนหนักอึ้งออกมาจากห้อง แม้จะยังเจ็บร้าวระบมไปทั่วทั้งร่างกายก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD