EP. 2 จุดเริ่มต้นระหว่างเราสองคน

2738 Words
รณพีร์สะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องที่แสบแก้วหูของคนที่ไม่ยอมดึงมือที่โอบกอดเขาอยู่ออกไปทั้ง ๆ ที่ตัวเองลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วก่อนที่มือใหญ่ที่กำลังจับมือบอบบางของอีกฝ่ายอยู่จะยกขึ้นมาปิดปากที่กำลังส่งเสียงกรีดร้องของเด็กสาวเอาไว้ด้วยความเอือมระอาปนรำคาญใจเล็กน้อย หมับ “ถ้าเธอยังร้องไม่หยุดฉันจะทำให้เธอเปลี่ยนจากเสียงร้องกรี๊ดเป็นเสียงร้องครางแทนอยากลองดูก็เชิญร้องได้ตามสบาย” แววตาตื่นตระหนกของไอรีนพลันเปลี่ยนไปถึงเธอจะยังเด็กแต่เธอเข้าใจดีถึงความหมายในคำพูดของอีกฝ่ายเปลี่ยนจากเสียงร้องกรี๊ดเป็นเสียงร้องครางก็มีแต่เรื่องแบบนั้นนั่นแหละที่จะทำให้เกิดเสียงลามกแบบนั้นได้ถึงเธอจะยังเด็กแต่ก็ไม่ได้ไร้เดียงสาสักหน่อย เพื่อนในชั้นเรียนของเธอก็มีไม่น้อยที่ชอบเล่าเรื่องบนเตียงของตัวเองกับแฟนให้ฟังบางคนถึงขั้นถ่ายคลิปมาให้เธอดูจนได้ยินเสียงร้องครางดังๆเชียวล่ะภายใต้ฝ่ามือใหญ่ที่ค่อนข้างหยาบกระด้างขาดความนุ่มนวลไอรีนพยักหน้ารับเล็กน้อยส่งสัญญาณบอกผู้ชายที่เธอกำลังโอบกอดเขาอยู่ว่าเธอเข้าใจก่อนที่มือเล็กบอบบางจะดึงออกจากเอวสอบของอีกฝ่ายด้วยความอับอาย หลักฐานที่เห็นอยู่คาตาแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นฝ่ายเข้าไปโอบกอดเขาก่อนแต่เธอที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้ายดันเข้าใจผิดเขาที่กำลังดึงมือเธอออกว่าเขากำลังโอบกอดตัวเองอยู่ งื้อ ช่างน่าขายหน้าจนเธอแทบอยากจะให้บนเตียงกว้างปรากฏหลุมใหญ่เธอจะได้แทรกตัวเองเข้าไปเพื่อปกปิดความอับอายจากสายตาที่กำลังมองมาอย่างหยอกล้อของเขา “ว้า แย่จังนึกว่าจะดื้อกว่านี้ซะอีกฉันจะได้พาเธอบริหารร่างกายโต้ความหนาวสักหน่อยร่างกายของเราสองคนจะได้อบอุ่นจนร้อนแทบไหม้เชียวล่ะ” คำพูดไร้ยางอายที่แสดงออกถึงความเสียดายของอีกฝ่ายทำให้ใบหน้างดงามของไอรีนบูดบึ้งด้วยความไม่พอใจเขายังมีหน้ามาพูดจาล้อเลียนเธออีกนะคนบ้า !! “คุณ...” “ถ้าคิดจะด่าฉันที่พูดจาไม่น่าฟังล่ะก็หุบปากไปเลยคนสวยฉันคือคนที่ช่วยเธอไม่ให้ไอ้ฝรั่งขี้นกสารเลวคนนั้นข่มขืนนะเพราะฉะนั้นเธอจะด่าผู้มีพระคุณแบบฉันไม่ได้เข้าใจ” ไอรีนได้แต่ข่มกลั้นความไม่พอใจเอาไว้เมื่ออีกฝ่ายยกเรื่องบุญคุณช่วยชีวิตขึ้นมาพูดแต่จะว่าไปแล้วก็ถูกถ้าเธอไม่ได้เขาเข้ามาช่วยเอาไว้ตอนนี้หัวใจของเธอที่แตกสลายอยู่แล้วคงพังย่อยยับไม่มีชิ้นดีและคงจะคิดสั้นฆ่าตัวตายหนีความอับอายนี้ไปแล้ว แต่ในเมื่อตอนนี้เธอปลอดภัยแล้วก็ไม่ควรจะไปถือโทษโกรธเคืองคำพูดไร้ยางอายของอีกฝ่ายเพราะเขาคือผู้มีพระคุณที่เธอจะต้องจดจำเอาไว้ชั่วชีวิตคิดได้ดังนั้นความหัวร้อนของไอรีนก็พลันลดฮวบลงจนถึงขั้นไม่หลงเหลือความโกรธใดๆก่อนที่เธอจะเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายด้วยความจริงใจ “ขอบคุณนะคะที่ช่วยเอาไว้ถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้ฉันคง...” คำพูดที่เหลือไอรีนพูดไม่ออกเพราะมันคือความคิดด้านลบที่เธอคิดเอาไว้ในตอนที่ถูกลากเข้าไปในพงหญ้าข้างไนท์คลับว่าถ้าหากเธอถูกข่มขืนจริงๆเธอก็คงไม่มีหน้ามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว “ก็แค่สงสารน่ะเห็นว่าเป็นคนไทยด้วยกันเลยไม่อยากให้ต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนั้น” คำว่า ‘คนไทยด้วยกัน’ สะกิดใจไอรีนเข้าอย่างจังเธอเพิ่งเอะใจตอนนี้นี่เองว่าภาษาที่เธอกับเขาใช้พูดคุยกันคือภาษาไทยภาษาบ้านเกิดเมืองนอนที่เธอจากมาเพื่อมาเรียนไฮสคูลที่นี่ “คุณเป็นคนไทยเหรอคะ?” ไอรีนถามขึ้นด้วยความไม่แน่ใจเผื่อว่าเธอเกิดหูแว่วแล้วฟังผิดไปว่าเขาเป็นคนไทยเหมือนกันในขณะที่รอคำตอบของอีกฝ่ายร่างสูงของรณพีร์พลันขยับออกห่างก่อนที่เขาจะกดปุ่มที่อยู่บนหัวเตียงทำให้ห้องนอนที่ตกอยู่ในความมืดสลัวพลันสว่างไสวใบหน้าหล่อเหลาคมคายที่ไอรีนเคยเห็นผ่านม่านน้ำตาที่พร่ามัวปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธออีกครั้ง “อืม ไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์” ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก คำพูดของผู้ชายตรงหน้าไอรีนฟังไม่เข้าหัวเลยสักนิดว่าเขาพูดว่าอะไรเพราะตอนนี้เธอกำลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยแววตาเหม่อลอยคล้ายกำลังตกอยู่ในภวังค์ที่ไม่สามารถดึงตัวเองออกมาได้ราวกับถูกมนต์สะกดนี่คือครั้งแรกในชีวิตที่เธอเห็นผู้ชายที่หล่อเหลาราวกับไม่เคยมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ ใบหน้าขาวสะอาดตัดกับริมฝีปากได้รูปสีชมพูอ่อนนุ่มจมูกโด่งที่รับกับโครงหน้าหล่อเหลาอย่างเหมาะเจาะทำให้ไอรีนที่ไม่เคยชายตามองผู้ชายคนไหนมาก่อนเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความรู้สึกตกตะลึงก้อนเนื้อเล็กข้างในอกข้างซ้ายของเธอพลันเต้นแรงไม่หยุดราวกับว่ากำลังเจอเรื่องที่ชวนให้รู้สึกตื่นเต้น “จ้องขนาดนี้ถ้าเป็นปลากัดเธอคงท้องลูกของฉันไปหลายคนแล้วล่ะ” คำพูดหยอกล้อของผู้ชายแปลกหน้าทำให้สติที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของไอรีนพลันถูกดึงกลับคืนมาเด็กสาวกลอกตามองบนให้กับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ชอบพูดจาหยอกล้อเธออย่างนึกสนุกด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยในขณะที่อีกฝ่ายยกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจเป็นอย่างมากที่สามารถยั่วโมโหเด็กสาวตรงหน้าได้ “ปกติตื่นเช้าขึ้นมาชอบพูดจาเรื่องใต้สะดือแบบนี้กับผู้หญิงที่นอนด้วยทุกคนหรือเปล่าคะ ?” เพราะไม่อยากถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียวไอรีนจึงเหน็บอีกฝ่ายกลับคืนบ้างโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าคำพูดที่หลุดออกมาเพราะความโมโหทำให้รณพีร์สบช่องโหว่หาเรื่องหยอกล้อเจ้าของใบหน้างดงามที่ตรงสเปคเขาทุกอย่างตรงหน้าต่อไปได้ “ผู้หญิงที่นอนด้วยกันทุกคนนี่เธอหมายความว่าเมื่อคืนเราสองคน...” รณพีร์ไม่ได้พูดให้จบประโยคแต่จากท่าทางที่ยกนิ้วชี้สองข้างขึ้นมาจรดกันพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ระบายอยู่บนใบหน้าต่อให้ไอรีนจะไร้เดียงสาเรื่องอย่างว่าเธอก็เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้กำลังตีความหมายคำพูดของเธอไปถึงเรื่องอะไรใบหน้าเนียนใสพลันแดงก่ำด้วยความอับอายทันทีเมื่อเผลอตัวพูดจาคลุมเครือให้อีกฝ่ายเอาคำพูดของตัวเธอเองมาหยอกล้อเธอได้อีกแล้ว “มะ-ไม่ใช่นะฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” ไอรีนรีบเอ่ยแก้ตัวด้วยท่าทีลนลานเธอไม่ได้คิดไปถึงเรื่องแบบนั้นสักหน่อยเขาจะช่วยคิดให้มันตื้นๆเหมือนเธอบ้างไม่ได้หรือไงนะ (◕‘_’◕) “แล้วเธอหมายความว่าแบบไหนสภาพเธอที่ตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกันกับฉันเราสองคนไม่ได้นอนด้วยกันตรงไหนอีกอย่าง...” สายตาเจ้าเล่ห์ที่หลุบมองเสื้อเชิ้ตตัวบางบนร่างกายของเธอทำให้ไอรีนเพิ่งรู้สึกผิดสังเกตเธอหลุบตาลงมองบนร่างกายของตัวเองก่อนจะพบว่าชุดเที่ยวที่แสนเซ็กซี่ของเธอนั้นหายไปกลายเป็นเสื้อเชิ้ตของผู้ชายมาสวมบนร่างกายแทน “ทำไมฉันถึงใส่ชุดนี้ได้นี่อย่าบอกนะว่าคุณ...” ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนที่มือบางจะกระชากผ้าห่มผืนหนาที่อยู่บนร่างของอีกฝ่ายดึงมาอย่างแรงส่งผลให้คนที่ไม่ทันระวังตัวถูกแย่งผ้าห่มไปทั้งผืนดวงตาคู่คมสบสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงของลูกกวางน้อยที่ใช้ผ้าห่มผืนหนาห่อหุ้มร่างกายของตัวเองราวกับมัมหมี่ด้วยความขบขัน เขาที่หวงซิงยิ่งกว่าอะไรไม่มีทางทำมิดีมิร้ายหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างกันเด็ดขาดต่อให้คนๆนั้นจะตรงตามสเปคเขาทุกอย่างก็เถอะ อ้อ สเปคที่ว่าหมายถึงหน้าตานะไม่ใช่นิสัย “คิดไปถึงไหนกันฉันไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่ช่วยคนอื่นเพื่อมาย่ำยีเองหรอกนะถึงเธอจะสวยโดนใจฉันแค่ไหนแต่ฉันคนนี้ก็หวงตัวเองเหมือนกันซิงของฉันมีค่าไม่ยกให้ใครง่ายๆหรอกนะสาวน้อยยกเว้นเสียแต่ว่าเธอเป็นเมียฉันเมื่อไหร่ก็เอาไปเลยฉันยกให้ฟรีไม่คิดตังค์แค่คลอดลูกสักคนสองคนตอบแทนค่าซิงฉันก็พอ” ความหวาดระแวงในแววตาของไอรีนพลันคลายลงแต่เธอยังคงคิดถึงสภาพของตัวเองที่สวมเสื้อเชิ้ตตัวบางเพียงตัวเดียวส่วนร่างกายข้างในกลับว่างเปล่าในหัวตอนนี้พลันคิดว่าคนที่เปลี่ยนชุดให้เธอนั้นเป็นเขาหรือใครกันแน่ ? โดยลืมความรู้สึกที่ควรจะโกรธเพราะคำพูดไร้ยางอายของเขาไปเสียสิ้น “แล้วชุดนี้มาแทนชุดที่ฉันสวมได้ยังไง ?” “ถามแปลกๆในห้องนี้มีแค่เธอกับฉันสองคนถ้าฉันไม่ใช่คนถอดเปลี่ยนให้เธอแล้วจะเป็นใครอีกอย่างฉันเป็นหมอสูติมีร่างกายผู้หญิงส่วนไหนบ้างที่ฉันไม่เคยเห็น” รณพีร์ยังคงพูดจาไร้ยางอายอย่างไม่รู้สึกรู้สาตรงกันข้ามกับไอรีนที่ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความอับอายแต่มากกว่าความอับอายคือความตกใจที่ได้ยินเขาบอกว่าตัวเองเป็นหมอเสียงในหัวที่ร้องขึ้นว่าไม่อยากจะเชื่อจึงพ่นออกไปเป็นคำถามทันทีอย่างอดไม่ไหว “หน้าอ่อนแบบนี้เหรอเป็นหมอ ?” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของรณพีร์พลันแข็งค้างดวงตาคู่คมหรี่ลงเล็กน้อยทำให้ไอรีนรับรู้ได้ถึงอันตรายก่อนที่เธอจะทันตั้งตัวใบหน้าหล่อเหลาที่สะกดสายตาของเธอในครั้งแรกก็พลันขยับเข้ามาใกล้จนเธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขา “ถ้าฉันไม่ใช่หมอแล้วจะเป็นอะไรหรือเป็นผัวเธอดีปีนี้ฉันอายุ 18 ถึงจะยังไม่พร้อมแต่ถ้าเธอต้องการฉันจัดให้ได้นะ” อารมณ์อับอายของไอรีนพลันเปลี่ยนเป็นกรุ่นโกรธเธออยากจะพ่นคำด่าไฟแลบที่เธอมักจะใช้ด่าคู่อริก่อนตบตีกันใส่ผู้ชายตรงหน้าสักสิบยี่สิบประโยคแต่เมื่อคิดถึงว่าเขาเป็นคนช่วยชีวิตเธอให้รอดพ้นจากเงื้อมมื้อของสารเลวหัวทองคนนั้นความโกรธที่พุ่งขึ้นหัวก็ดูเหมือนจะค่อยๆลดลงจนจางหายไปในที่สุด ไอรีนตั้งสติก่อนจะสูดลมหายใจเข้าท้องเฮือกใหญ่แค่ก แค่ก แค่ก ก็แค่ถูกเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แบบที่ไม่รู้ว่าเขาเห็นร่างกายของเธอไปมากแค่ไหนก็ดีว่าถูกไอ้สารเลวหัวทองคนนั้นข่มขืนเป็นไหน ๆถึงจะเป็นความคิดที่ไม่ค่อยแยแสสักเท่าไหร่แต่ก็ถือว่าช่างหัวมันเถอะ “ไม่ล่ะฉันก็เพิ่ง 18 ยังไม่อยากมีผัวก่อนเข้ามหา’ลัย เอ๊ะ! เดี๋ยวนะไม่ใช่สิอายุ 18 แล้วเป็นหมอได้ไงไม่ใช่ว่าเพิ่งเรียนเกรด 12 เหมือนกันหรอกเหรอ ?” ไอรีนคล้ายเพิ่งฉุกคิดได้ว่าเขาบอกว่าตัวเขาอายุ 18 ส่วนเธอเองก็อายุ 18 ในเมื่อ 18 เท่ากันก็ควรจะเรียนเกรด 12 เหมือนกันไม่ใช่หรือไงส่วนหมอหมา เอ๊ย ! ไม่ใช่สิหมอสูติอะไรนั่นเขาก็คงจะโกหกแน่ ๆ “ก็คนมันเรียนเก่งอะทำไมหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่นะไม่ได้บังคับเอาล่ะในเมื่อตื่นก็ลุกได้แล้ว” รณพีร์ตัดจบบทสนทนาเพียงแค่นั้นก็ลุกขึ้นเดินลงจากเตียงเพื่อไปเตรียมทำมื้อเช้าส่วนสาวสวยบนเตียงจะอะไรยังไงต่อไปหลังจากนี้ไม่เกี่ยวกับเขาแล้วเพราะการทำตัวเป็นคนดีของเขาสิ้นสุดลงตั้งแต่วินาทีที่เขาและเธอลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว “นี่คุณ !เดี๋ยวสิ” ไอรีนผุดลุกขึ้นเตรียมจะวิ่งตามไปแต่เมื่อคิดถึงสภาพภาพที่เปล่าเปลือยภายใต้เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่เธอก็ได้แต่จำใจนั่งลงบนเตียงต่อไปคล้ายว่าทำอะไรไม่ถูก ครืด ครืด ครืด เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือทำให้ไอรีนที่จมอยู่ในความคิดเรื่อยเปื่อยหันมองซ้ายมองขวาหาที่มาของเสียงของก่อนที่จะเห็นกระเป๋าใบเล็กของตัวเองวางอยู่บนโต๊ะข้างๆโซฟาที่อยู่ริมหน้าต่างร่างบอบบางผุดลุกขึ้นทันทีอย่างไม่ลังเลแต่ก่อนที่เธอจะก้าวลงจากเตียงดวงตาคู่สวยก็หันมองซ้ายมองขวาอีกครั้งเพื่อดูว่าเขายังอยู่ในห้องไหมเมื่อเห็นว่าภายในห้องมีเธออยู่เพียงลำพังไอรีนก็รีบกระโดดลงจากเตียงเพื่อวิ่งไปรับโทรศัพท์ทันที “ฮัลโหลค่ะพี่อาย” ไอรีนกดรับด้วยความดีใจเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือพี่สาวคนโตที่เธอสนิทสนมด้วยมากที่สุด “ไออาทิตย์หน้าพ่อจะแต่งงานใหม่น่ะพี่จองตั๋วเครื่องบินไว้ให้เราแล้วพรุ่งนี้เก็บของเสร็จก็บินกลับมาได้เลยนะรายละเอียดต่างๆพี่ส่งให้เราทางเมล์แล้ว” รอยยิ้มดีใจของไอรีนหุบลงอย่างช้าๆหัวใจที่แตกสลายคล้ายถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นบีบจนรู้สึกแตกสลายลงไปอีกครั้งซึ่งครั้งนี้หัวใจดวงน้อยที่เธอเฝ้าทะนุถนอมและประกอบขึ้นมาใหม่แหลกสลายไม่มีชิ้นดีเมื่อเรื่องที่เธอไม่อยากรับรู้มากที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว หยดน้ำสีใสที่เอ่อคลอล้นดวงตาพลันไหลลงมาอาบแก้มช้าๆมือที่ถือโทรศัพท์ค้างไว้ทิ้งลงข้างลำตัวอย่างหมดแรงส่งผลให้โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดตกลงบนพื้นจนเกิดรอยร้าว “ไอ ยัยไอ ไอรีน ได้ยินที่พี่พูดใหม่ ?” อายตาส่งเสียงร้องเรียกน้องสาวด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าปลายสายเงียบไปแต่ไม่ว่าเธอจะร้องเรียกเท่าไหร่ไอรีนก็ไม่มีทีท่าว่าจะตอบรับดวงตาคู่โตค่อย ๆ หม่นแสงลงด้วยความรู้สึกเจ็บปวดใจก่อนที่อายตาจะตัดใจกดวางสายในที่สุดส่วนไอรีนที่กำลังร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดใจค่อยๆทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยแววตาเหม่อลอย เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้เสียงเปิดประตูห้องที่ดังขึ้นทำให้ไอรีนรีบยกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำตาที่เลอะอยู่บนหน้าออกอย่างลวกๆก่อนที่เธอจะลุกขึ้นหันกลับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ชวนหลงใหลของผู้ชายแปลกหน้าที่ช่วยชีวิตเธอไว้พร้อมเอ่ยประโยคที่ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอพูดแบบนั้นออกไป “สนใจไปเที่ยวทะเลด้วยกันไหมฉันกำลังหาเพื่อนเที่ยวอยู่น่ะ ?” คิ้วเข้มของรณพีร์เลิกขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจสายตาคู่คมกวาดมองใบหน้างดงามที่ดวงตาแดงช้ำเล็กน้อยคล้ายว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง “อืม ได้สิ” รณพีร์หลุดปากตอบตกลงออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจมาคิดได้ว่าตัวเองทำบ้าอะไรลงไปก็ในตอนที่สาวสวยตรงหน้าเผยรอยยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD