ตอนที่ 1 ก็ทำทุกที่ที่ได้เงิน
ตอนที่ 1 ก็ทำทุกที่ที่ได้เงิน
สถานบันเทิงในยามราตรีซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีและเสียงเพลงขับกล่อม หลากหลายเหตุผลที่ผู้คนจะเข้ามาในที่แห่งนี้เพื่อมาผ่อนคลายตัวเอง บ้างก็เข้ามาเพื่อดื่มให้ลืมความทุกข์ แต่บ้างก็เข้ามาเพื่อหาเงินในความสามารถอันน้อยนิดที่มี
‘ศรวณีย์’ หญิงสาววัยยี่สิบสามปีผู้เคยมีทุกอย่างเพียบพร้อม บ้าน รถ เงินทอง ทุกอย่างสำหรับเธอเป็นสิ่งที่เพียบพร้อม แต่มันเป็นแค่เมื่อก่อนหน้านี้ราวหกเดือน ก่อนที่เธอและครอบครัวจะล้มละลายเหลือแต่ตัวเท่านั้น
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อเงินก้อนสุดท้ายที่พ่อต้องการจะเอาไปเพื่อใช้หนี้และเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว แต่พี่สาวที่คลานตามกันมาก็ได้ขโมยเงินก้อนนั้นไปอยู่เมืองนอกกับสามี ทิ้งเธอและพ่อแม่ให้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก
งานเดียวที่ศรวณีย์อดีตดาราที่เรื่องมากเอาแต่ใจอย่างเธอจะทำได้คือร้องเพลงกลางคืน ส่วนงานอื่น ๆ เธอมองไม่เห็นอนาคต ด้วยเธอเรียนไม่เก่งและหัวไม่เอาไหน สิ่งเดียวที่เธอชอบคือการแสดงและร้องเพลง มันจึงพอจะช่วยให้เธอเอาตัวรอดในช่วงนี้ด้วยเงินไม่กี่บาท
“พี่สิง!” หญิงสาวมองเห็นใครบางคนที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ เขาดื่มอย่างหนักและต่อเนื่องราวกับมันคือน้ำเปล่า การดื่มที่บ่งบอกว่าหนุ่มใหญ่วัยสามสิบเจ็ดปีกำลังเครียดด้วยเรื่องบางเรื่อง
ศรวณีย์เคยพบกับ ‘สิงหา’ หลายครั้งด้วยแม่ของเธอต้องการให้สนิทสนมกับเพื่อนของเขา หรือพูดง่าย ๆ คือต้องการให้เธอใช้ร่างกายเพื่อทำให้ครอบครัวอยู่รอด แต่เธอหยิ่งในศักดิ์ศรีและไม่ยอมทำแบบนั้น โชคดีที่ ‘อริเมท’ เพื่อนของสิงหาก็ไม่ได้สนใจเธอ ไม่เช่นนั้นคงเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ
“อยากได้เพื่อนดื่มไหม” ศรวณีย์รับแก้วเหล้ามาหมุนวน เธอเองก็อยากดื่มหนัก ๆ เพื่อลืมความเครียดในช่วงเวลานี้เช่นกัน
แม่ของเธอไม่สามารถปรับตัวได้กับการไม่มีเงินให้ใช้อย่างล้นมือ ทั้งที่เธอกับพ่อทำงานอย่างหนัก พ่อที่เคยใส่สูททำงานต้องไปใส่ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยซึ่งได้เงินวันละไม่กี่ร้อย ส่วนเธอต้องใช้เสียงเพื่อแลกเงิน
“...ศร” สิงหามองหญิงสาวข้างกาย เขารู้จักเธอ แต่เขาไม่เคยสนใจเธอมาก่อน รวมถึงไม่มีความคิดว่าหากพบเธอแล้ว จะเข้าไปทักทาย ไม่ใช่ว่าเธอไม่สวยสดงดงามแต่เพียงเขารู้สึกว่าเธอเป็นคนนิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ในสายตาของเขา
“ชนสักแก้วก่อนละกัน ก่อนที่จะไปร้องเพลงอีกร้าน” หญิงสาวว่าพลางเอาแก้วของตัวเองไปชนกับแก้วของชายหนุ่ม เธอยกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นดื่มจนหมดแก้ว เธอรู้สึกดีกับการที่แอลกอฮอล์จัด ๆ หลั่งไหลเข้าไปในร่างกาย
“ทำงานที่นี่เหรอ” สิงหาเอ่ยถาม
“ก็ทำทุกที่ที่ได้เงิน” มือเรียวของหญิงสาวหมุนวนแก้วเหล้า เธอถอนหายใจออกมาแรง ๆ แล้วจึงลุกออกจากเก้าอี้ “ต้องไปต่ออีกร้าน ไปก่อนนะพี่สิง”
สิงหาไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ศรวณีย์ก็เดินออกไป เขาเพียงมองเธอจนพ้นสายไปเท่านั้น ก่อนที่จะหันมายกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นดื่ม
วันนี้เขาเครียดจัดด้วยมีปัญหาทะเลาะกับภรรยามาหลายวันแล้ว เขาพยายามไม่เจอหน้าภรรยาต่อหน้าลูกให้ต้องทะเลาะกัน แต่ก็ไม่วายที่จะมีปัญหากันเสมอ ภรรยาของเขาต้องการกลับไปมีชีวิตในวงการบันเทิง และยังมีลูกชายอย่างศิลาวัยหกขวบ เขาเองก็ต้องทำงาน หลายเรื่องรุมเร้าในหัวจนทำให้เขารู้สึกเครียด
โดยนิสัยสิงหาเป็นคนอารมณ์ดี เขาชอบทำให้คนอื่นสบายใจ ผิดกับความเป็นจริงที่เขาต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ และมันพร้อมที่จะปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ
ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่เขาได้พบรักกับ ‘พิมพ์ดารา’ เธอเป็นดาราสาวที่กำลังเข้าวงการมาใหม่ ๆ เธอเป็นดอกไม้หอมที่หลายคนให้ความสนใจ รวมทั้งตัวสิงหาด้วย แต่เขาก็ไม่คิดว่าการเดินทางของเขาและเธอจะมาไกลถึงการแต่งงาน เพราะการคบหากันเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ก็พบว่าเธอตั้งท้อง และเขาก็ยินดีที่จะรับผิดชอบ จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจแต่งงานกับเธอ
มุมหนึ่งของบ้านหรูสองชั้นซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นบ้านของครอบครัวที่สิงหาซื้อไว้ตามที่ภรรยาของเขาต้องการ ซึ่งมันเต็มไปด้วยความสะดวกสบายรวมไปถึงสาวใช้และพี่เลี้ยงที่คอยดูแลลูกชายของเขา
แต่การมีลูกไม่ใช่ความสุขของพิมพ์ดารา
เพราะเธอเกลียดเด็ก! รวมทั้งเด็กที่ออกมาจากท้องของเธอคนนี้ด้วย เกือบเจ็ดปีที่เธอคลอดเด็กคนนี้ออกมาเด็กคนนี้ไม่เคยทำให้เธอมีความสุข เธออยากกลับไปอยู่ในโลกของวงการมายา หลังแสงไฟและหน้ากล้องซึ่งเป็นความฝันของเธอ อีกนิดเดียวเธอก็จะได้เป็นนางเอกเบอร์หนึ่งของช่อง แต่ก็เพราะต้องมาท้องเด็กที่เธอไม่ต้องการ ชีวิตของเธอจึงต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงลูกอยู่บ้านแบบนี้
“แม่ครับ ศิลาอยากนอน” เด็กชายในชุดนอนสีฟ้าเดินกอดตุ๊กตาออกมาหาแม่ มันดึกแล้วแต่เด็กชายนอนไม่หลับ เขาอยากกอดแม่ ปกติพ่อจะเลิกงานมานอนกอดเขา แต่วันนี้พ่อของเขายังไม่กลับมา เขาจึงอยากจะขอให้แม่ไปกอดเขาเสียหน่อย
“อยากนอนก็ไปนอนสิ จะมาเรียกทำไม!” พิมพ์ดาราพูดอย่างไม่ใส่ใจ ดวงตาของเธอกำลังจับจ้องไปยังหน้าจอโทรศัพท์ วันก่อนเธอได้บังเอิญไปเจอเข้ากับ ‘เจนสิทธิ์’ ที่ห้างสรรพสินค้า และได้ทาบทามให้เธอกลับไปเล่นหนังที่เขากำลังลงทุน
“ศิลาอยากกอดแม่ครับ”
“โอ๊ย! ทุกวันก็ไม่เห็นจะกอด ไปนอนไปศิลา!”
“วันนี้พ่อยังไม่กลับครับ” เด็กชายบอกคนเป็นแม่ เขาอยากให้แม่ใจดีกับเขาบ้าง ตั้งแต่จำความได้แม่ของเขาไม่เคยใจดีกับเขาเลย มีแต่พ่อที่ใจดีกับเขาเสมอ
“......” พิมพ์ดาราละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ เธอมองไปยังหน้าบ้านซึ่งไม่มีรถของสิงหาจอดอยู่จริง ๆ เมื่อมองแล้วก็ทำให้เธอหงุดหงิดที่เขาไม่รู้จักกลับมาดูแลลูกให้หลับนอน “ส้ม! ส้ม! อยู่ไหนเนี่ย มาเอาคุณศิลาไปนอนซิ!”
พิมพ์ดาราตะโกนเรียกพี่เลี้ยง แต่เธอไม่รู้เลยว่าส้มได้ลางานกลับบ้านต่างจังหวัดมาสามวันแล้ว เด็กชายศิลาจึงต้องเป็นคนบอกแม่เอง “พี่ส้มไม่อยู่ครับ พี่ส้มกลับบ้าน บ้านพี่ส้มอยู่ไกล ๆ”
“งั้นศิลาก็ไปนอนเอง! หมอนข้าง ตุ๊กตานั่นไง กอดไปสิ! แม่ไม่ว่างเข้าใจไหม!!” พิมพ์ดาราตวาดเสียงดังใส่ลูกชายก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง ทิ้งให้เด็กชายน้ำตาคลอเต็มหน่วย
เด็กชายศิลาเดินไปนั่งกอดตุ๊กตาที่โซฟาตัวหนึ่งเพื่อรอพ่อของเขา จนเวลาผ่านไปดึกดื่นพ่อของเขาจึงกลับมา สิงหามีอาการมึนเล็กน้อยเพราะเขาเพิ่งดื่มมา เมื่อเข้ามาในบ้านและเห็นว่าลูกชายนั่งรอก็แทบจะสร่างจากอาการเมา
“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะครับศิลา ทำไมไม่ไปนอนครับ” คนเป็นพ่อถามลูกชาย เขาโยนเสื้อสูทพาดไว้กับโซฟาแล้วจึงอุ้มเด็กชายวัยหกขวบขึ้นมาสู่อ้อมอก
“ศิลานอนไม่หลับครับ ศิลารอพ่อมากอด”
“แล้วแม่ล่ะครับ” สิงหาเช็ดน้ำตาของลูกชาย คิดโกรธที่คนเป็นแม่อยู่บ้านแท้ ๆ แต่กลับไม่สนใจไยดีลูก หากส้มซึ่งเป็นพี่เลี้ยงไม่ได้ลางานกลับบ้านเพราะแม่ป่วย ลูกชายของเขาก็คงไม่ต้องมาเศร้าและเหงานั่งรอเขาอยู่แบบนี้
“แม่ไม่ว่างครับ” เด็กชายตอบอย่างใสซื่อ
สิงหากัดฟันแน่นเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายบอก อยู่บ้านหลังนี้ไม่ต้องทำงานบ้านอะไรสักอย่าง งานก็ไม่ได้ทำ เงินก็มีให้ใช้ แต่กลับบอกลูกว่าไม่ว่าง สิ่งเดียวที่สิงหาทำได้คือการพาลูกชายไปนอน ดีที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดไม่อย่างนั้นเด็กชายศิลาคงตื่นไปโรงเรียนไม่ไหวแน่
หลังจากพาลูกเข้านอนแล้ว สิงหาจึงได้เข้าไปหาพิมพ์ดาราที่ห้องนอน เธอยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียงด้วยความสบายใจ มากไปกว่านั้นคือเธอกำลังพูดเสียงอ่อนหวานกับปลายสายที่ชื่อ ‘เจนสิทธิ์’
“จริงเหรอคะคุณเจนสิทธิ์ อย่าหลอกดาราเล่นนะคะ คุยได้ค่ะ ยังไม่ดึกเลย ค่ะ..ว้าย!!...”
เพล้ง!!!!
โทรศัพท์ของพิมพ์ดาราถูกกระชากจากด้านหลังก่อนที่มันจะถูกปาลงสู่พื้นอย่างไม่ไยดี มือหนาของสิงหาหมุนร่างกายของภรรยาเข้ามาหา เจ็ดปีที่แต่งงานกันมามันเต็มไปด้วยคำถาม และคำพูดในใจที่เขาอยากจะบอกว่าเขาคิดผิด
“สิงหา!! ทำบ้าอะไรเนี่ย ดารากำลังจะคุยงานนะ!!” พิมพ์ดาราตวาดเสียงใส่สิงหาผู้เป็นสามีอย่างไม่ไยดี เธอเบื่อชีวิตที่นี่เต็มทน เธอต้องการทำตามความฝัน เธอต้องการเป็นนางเอกที่โด่งดังที่สุด ไม่ใช่เป็นคุณแม่ที่มันน่าเบื่อแบบนี้
“คุยงานเหรอ งานอะไร!! งานหรือคบชู้!!”
“อย่ามาพูดแบบนี้นะ!! แค่นี้ก็เบื่อจะตายอยู่แล้ว ลูกก็น่าเบื่อน่ารำคาญ ไม่รู้จะอะไรนักหนา! ผัวก็ยังจะมางี่เง่า มันเบื่อเข้าใจไหม!!!”
“เบื่อนักใช่ไหม เบื่อนักก็เลิกกันไปเลย!! ผมเองก็เบื่อคุณเต็มทน เคยไหมที่คุณจะทำหน้าที่แม่ นอกจากความสวยแล้วเนี่ย!! ในตัวคุณมีอะไรดีอีกไหม!! ห้ะ!!!”
เพียะ!!!
มือเรียวของพิมพ์ดาราฟาดเข้าที่หน้าของสิงหาอย่างเต็มแรง เธอผลักอกของเขาจนเขาถอยหลังไปสามก้าว “ฉันก็อยากเลิกกับคุณใจจะขาด น่าเบื่อ วัน ๆ เลี้ยงแต่ลูกแล้วก็ทำงาน พรุ่งนี้ไปเซ็นใบหย่ากับฉันที่อำเภอได้เลย!!”
พิมพ์ดาราชี้หน้าสิงหาด้วยความโกรธ เธอไม่เคยถูกใครต่อว่าแรงขนาดนี้ โดยเฉพาะผู้ชาย ที่มักจะชื่นชมเธอเสียมากกว่า
กลางดึกของคืนวันนั้น พิมพ์ดาราขับรถออกไปจากบ้านพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า สิงหาไม่ห้ามหรือเรียกร้องให้เธออยู่ต่อเพื่อลูกแม้แต่น้อย มันเป็นเรื่องที่วกวนอยู่ในใจของเขามานานกว่าเจ็ดปี และวันนี้มันทำให้เขารู้สึกว่าเขาคิดถูกแล้วที่ให้เธอออกไปจากชีวิต
วันนี้เขาดื่มเหล้าเข้าไปมากแต่ก็ไม่ถึงกับเมา เขามีสติและรับรู้ทุกอย่าง หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมใส่ชุดนอนที่สบายตัว สิงหาก็เดินไปยังห้องของลูกชายและทิ้งตัวนอนกอดเด็กชายเอาไว้
ความจริงแล้วเขามีความสุขเหลือเกินในวันที่รู้ว่าพิมพ์ดาราตั้งท้อง เขาอยากมีครอบครัว เขาอยากมีเด็กน้อยสักคนที่เรียกเขาว่าพ่อ แต่ศิลาก็คือดวงใจของเขา
สิงหานอนกอดลูกชายและนอนหลับอย่างมีความสุข เขารู้สึกว่าวันนี้เขามีความสุขกว่าทุกวันก็ว่าได้ รู้สึกว่าดวงตาที่หลับลงมันปิดสนิทกว่าทุกครั้ง หรือมันจะเป็นเพราะคนที่รู้สึกว่าหนักใจได้ออกไปจากชีวิตเขาแล้ว
ริมฝีปากหนากดจูบลงที่แก้มของเด็กชาย กลิ่นหอมของแป้งเด็กลอยเข้ามาในจมูก ให้รู้สึกฝันดีมาก “พ่อรักลูกนะศิลา”
เช้าของวันใหม่เด็กชายวัยหกขวบย่างเข้าปีที่เจ็ดปีนไปนั่งบนตัวของพ่อ เมื่อคืนพ่อของเขามานอนด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตื่นเช้ามาก็เห็นว่าชายตัวโตผู้เป็นพ่อหลับสนิท ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว แต่กำลังจะตื่นเพราะแรงกดของน้ำหนักตัวที่อยู่บนหน้าท้อง
“พ่อไม่ต้องไปทำงานเหรอ” เด็กชายศิลาเอ่ยถามเมื่อพ่อของเขาลืมตาตื่นและขยี้ตาของตัวเองก่อนที่จะมองหน้าลูกชาย เด็กชายยิ้มจนแก้มกลมทั้งสองข้าง ก่อนที่เขาจะนอนลงโดยเอาแก้มไปแนบกับอกของพ่อ เขาอยากบอกกับพ่อว่าเขาชอบที่พ่ออยู่กับเขาในวันหยุด เขาไม่ชอบอยู่กับแม่ที่ชอบอารมณ์เสียใส่เขา
“อ้อนอะไรแต่เช้า วันนี้พ่อจะอยู่เล่นกับศิลาไง” สิงหากอดตัวลูกชายไว้และลุกขึ้นนั่ง เขาอิงตัวกับหมอนจ้องมองเด็กชายตรงหน้า ศิลาเป็นเด็กฉลาดและหัวไวมาตั้งแต่เด็ก
“ศิลาอยากเล่นกับพ่อ ศิลาไม่อยากเล่นกับแม่ครับ”
“เหอะ!” สิงหาสบถเสียงในลำคอ ความผูกพันของสายใยแม่ที่ให้กำเนิด ไม่มีต่อลูกแม้แต่น้อย ถึงจะอยู่บ้านหลังเดียวกัน คลอดศิลาออกมาเอง แต่พิมพ์ดาราก็ไม่เคยเลี้ยงดูลูก แค่นมจากอก เธอยังไม่ยอมให้เด็กชายได้ดูด ด้วยห่วงร่างกายจะไม่สวยสมบูรณ์แบบ
“พ่อครับ ทำไมอาทิวสนไม่มาหาพวกเราเลย” เด็กชายเอ่ยถาม เขาเจอกับอริเมทได้ไม่กี่ครั้งแต่กลับจำชื่อเพื่อนสนิทของพ่อได้ขึ้นใจ
“งั้นวันนี้เราไปหาอาทิวสนกันไหม” สิงหาเสนอ อย่างน้อยการไปที่บ้านของย่าจันทร์ก็มีอะไรมากมายให้ลูกชายของเขาได้เล่นแน่ อย่างไรซะวันนี้ก็เป็นวันหยุด เรื่องที่จะต้องหย่ากับพิมพ์ดาราก็ทำวันนี้ไม่ได้แน่ หวังว่าคนอย่างพิมพ์ดาราจะยังไม่อกแตกตายไปเสียก่อน
“ไปครับ เย้!...” เด็กชายดูจะดีใจมาก เพราะนอกจากโรงเรียนเขาก็ไม่ค่อยได้ไปไหน พ่อของเขาก็ทำงานตลอดเวลา ส่วนแม่เวลาจะไปไหนก็ไม่พาเขาไปด้วย
“งั้นศิลาไปอาบน้ำก่อนเลย ให้พ่ออาบให้เปล่า”
“ไม่ต้องครับ ศิลาเก่งแล้ว” เด็กชายที่กำลังปีนลงจากที่นอนหันมาบอกกับพ่อ หลังจากนั้นเขาจึงวิ่งเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูผืนหนึ่ง
คนเป็นพ่อที่ยังนั่งอยู่บนที่นอนส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะกลับไปยังห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำแต่งตัวบ้าง
เวลาผ่านไปไม่นานศิลาก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ศิลาอาบน้ำเสร็จก่อนพ่อและเข้าไปรอพ่อในห้องนอน เขาไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าแม่ของเขาไม่อยู่ในห้อง จนสิงหาอาบน้ำเสร็จและเห็นลูกชายกำลังนั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบเก่ง เขาคิดว่าลูกชายจะถามถึงแม่ แต่ไม่เลย เด็กชายส่งยิ้มมาให้และรอคอยให้พ่อแต่งตัว
“เรากินข้าวก่อนแล้วค่อยไปนะครับศิลา”
“ครับ” เด็กชายตอบรับอย่างว่าง่าย คนที่กำลังสวมนาฬิกาข้อมือจึงหันมามองหน้าเด็กชายยิ้ม ๆ
“แล้ววันนี้เอาอะไรใส่กระเป๋าไปบ้าง”
“สมุดการบ้าน สมุดวาดรูป ดินสอ และสีครับ พี่ส้มบอกว่าให้พกติดเอาไว้ ไปไหนกับพ่อจะได้ไม่เหงา” จะมีก็แต่พี่เลี้ยงเท่านั้นที่เด็กชายจะเอ่ยถึง “และศิลาก็เอาโทรศัพท์ไปด้วย เวลาหลงกับพ่อจะได้โทรหา”
“เก่งจริง ลูกใครเนี่ย” สิงหาเดินเข้ามาอุ้มลูกชายขึ้นแนบอก ก่อนที่เขาจะหอมแรง ๆ ไปที่แก้มหนึ่งที เด็กชายเอียงหน้าหนีเพราะไรหนวดอ่อน ๆ ของพ่อทิ่มหน้าของเขา “ได้เวลากินข้าวและเดินทางแล้วไอ้คนเก่ง”
“ค้าบโผม!!!”