เพียงแต่สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น..
" ..อึก " จะ เจ็บจังเลย..
ร่างบางของคนที่พึ่งหายป่วย พลันถูกโยนอย่างแรงใส่เขตแดนของค่ายกล เพียงแต่ไม่รู้เพราะเหตุอันใด นอกจากจะไม่สามารถโยนร่างอ่อนแอนั่นออกไปได้แล้ว นางยังกระอักเลือดออกมาคำโตเพราะบอบช้ำภายใน ได้แต่มองชายหนุ่มด้วยสายตาตัดพ้อ
นอกจากนอนนิ่งมองคนใจร้ายแล้ว เจ้าขิมไม่สามารถด่าคนบ้า ที่อยู่ดี ๆ ก็มาทำร้ายกันแบบนี้ได้เลย
" ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านบ้าไปแล้วรึ! "
หมิงซานที่พึ่งตามมาถึงตะโกนต่อว่าเสียงดัง นั่นเพราะหญิงสาวผู้นี้มีร่างกายบอบบางมาก อีกทั้งนางยังไม่ใช่ผู้ฝึกตน เขารีบเข้าไปจับชีพจรอย่างเร่งรีบ
เห็นแล้วว่านางเพียงบอบช้ำภายในเฉย ๆ
ไม่มีกระดูกแตกหักที่ใด เขาจึงโน้มกายช้อนร่างบาดเจ็บขึ้นมา แล้วเร่งเดินไปยังห้องที่ตนเองรักษานางตั้งแต่แรก โดยไม่หันมองผู้ลงมือสักนิด
..นางพึ่งจะหายดี สามารถออกไปจากที่นี่ได้แล้วเชียว
หมิงหย่งเล่อมองน้องสามอุ้มร่างหญิงสาวผู้นั้น เข้าไปในห้องทำงานของเจ้าตัวอย่างแสนเสียดาย
ภายในใจกำลังก่อเกิดความรู้สึกบาง อย่างนี้เรียกว่าเป็นความหวาดกลัวต่อการกระทำ และสิ่งเปลี่ยนแปลง
น้องสามเป็นผู้นำพาเข้ามา ไม่รู้ว่าในภายภาคหน้าจะต้องเกิดสิ่งใดขึ้น แต่เชื่อว่าสิ่งที่เขาคิดอยู่นี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ในการนึกคิดอย่างแน่นอน
อย่างไรเขาก็เป็นศิษย์เอกอันดับหนึ่ง ความคิดอ่านต่าง ๆ ไม่ได้ด้อยกว่าว่าที่กุนซือผู้เป็นศิษย์น้องสักนิด
" ข้าจะต้องขับไล่หญิงสาวผู้นี้ออกไปให้ได้ น่าแปลกจริงเชียว ทำไมนางถึงได้ชนเข้ากับกำแพงได้ " มั่นใจว่าในขณะที่โยนนางออกไป ตนเองเป็นผู้เปิดประตูอักขระออกแล้ว
คงเพราะหญิงสาวนางนั้นทำสิ่งใดเป็นแน่ เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ถ้าไม่ระวัง..
อาจเกิดอันตรายกับพวกเขาได้ในภายหน้า
เพราะไม่รู้ว่าหญิงสาวผู้นี้เป็นใครมาจากไหน และต้องการสิ่งใดกับน้องสาม ถึงได้ใช้วิธีการอันต่ำช้า ด้วยการใช้สรีระของตนเองมายั่วยวนเพื่อให้ชายหนุ่มตกหลุมพราง
" อ้าวพี่ใหญ่..เหตุใดถึงมายืนอยู่นี่ แล้วน้องสามเล่า? "
พี่ใหญ่ของเขากล่าวตอบด้วยน้ำเสียงโมโห " เป็นห่วงกันนักก็ไปถามกันเอาเอง ไปดูกันเอาเอง! "
..พูดเพียงเท่านั้น
ก็เดินออกไปจากเขตแดนเรือนกลางป่าไม่เหลียวหลัง
โกรธอะไรของเขา?
หมิงเยวี่ยนคิดเกี่ยวกับการกระทำของศิษย์พี่ใหญ่ซ้ำ ๆ
ภายในห้องที่หญิงสาวใช้เป็นที่พักมาหลายวัน คาดไม่ถึงเพียงแค่พวกเขากลับมาไม่นาน ก็ต้องมานอนเจ็บอีกแล้ว
ในหัวของหญิงสาวเอาแต่คิดซ้ำไปซ้ำมา ว่าตนเองไปทำสิ่งใดให้ผู้อื่นโกรธเคืองนักหนา ทำไมถึงได้โดนทำร้ายหนักเพียงนี้ นัยน์ตาสะท้อนความไม่ยุติธรรม ถูกกระทำทั้งที่ตนเองไม่ได้มีความผิด
หมิงซานเพียงสบเข้ากับนัยน์ตาที่เคยใส่กระจ่าง บัดนี้พลันพร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำใส ในใจของเขารู้สึกไม่มีความสุข จึงได้กล่าวกับนาง ทั้งที่ตนเองเตรียมยาและบดสมุนไพรอยู่
" เจ้าอย่าได้โกรธเคืองพี่ใหญ่เลย คงเป็นเพราะตอนนี้มีสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร ข้าเชื่อว่าถ้าเขาได้รู้จักว่าเจ้าเป็นหญิงสาวที่น่ารักผู้หนึ่ง ..ข้าว่า เขาจะต้องอยากพูดจาดีกับเจ้าเป็นแน่ "
แล้วคุณหมอรู้จักเธอหรือยังไง ถึงได้บอกว่าคนอื่นน่ารัก..
เจ้าขิมเพียงหลับตาลง ภายในใจโต้ตอบเขามากมาย แต่สิ่งที่เป็นความนึกคิดในใจมากที่สุดก็คือ ชายผู้โหดร้ายคนนั้นน่ะหรือที่จะเห็นว่าเธอน่ารัก
นอกจากนางเอกของเรื่องแล้ว ก็นึกไม่ออกว่าเขาสามารถมองหญิงสาวที่ไหนน่ารักเป็น
..ฝันกลางวันอยู่หรือยังไง
ไม่ตอบอะไรเขาทั้งสิ้น หลับตาลงหลังจากหมิงซานลงมือรักษาเสร็จแล้ว ไม่ไล่ก็เหมือนไล่..
เริ่มบทที่หนึ่ง..
[[ บทที่ 1 ความคืบหน้า >> 20/100 ]]
ไม่ทันได้สังเกตจริง ๆ ว่าเรื่องราวมันได้เริ่มเดินตั้งแต่ตอนไหน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือจำนวนตัวเลขนั่นเอง เมื่อแรกตอนเช้ายังเป็นศูนย์
แต่ตอนนี้กลับขึ้นเป็นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ คงเป็นหลังจากที่ตัวเอกของเรื่องเดินเข้ามาในเขตแดนของระบบ
เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตนเองกำลังอยู่ในนิยายรัก หรือเป็นนิยายแนวแก้แค้นกันแน่
ภารกิจระบบเริ่มแล้วเหรอ...
หมิงซานหยุดมองเรือนหลังเล็กที่ตนเองใช้เป็นที่ทำงานแห่งนั้นนิ่ง เขาพอรับรู้ได้จากสายตา ว่าหญิงสาวนางนั้นกำลังต้องการจะกล่าวสิ่งใด
แต่เพราะเรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มต้นที่เขาเอง
..จะให้ยอมแพ้ง่าย ๆ มันยังเร็วไป
หมิงซานไม่ได้อยากดึงนางเข้ามาเช่นนี้สักนิดเดียว แต่เพราะภายนอกนั่นวุ่นวายเป็นอันมาก ถ้าเขาไม่ลงมือทำสิ่งใดเลยเกรงว่าจะไม่ทันการณ์
สูดหายใจลึกเข้าเพียงครั้ง แล้วจึงเดินไปยังทิศทางหนึ่ง คาดว่าศิษย์พี่ทั้งสองของเขาคงอยู่ที่นั่น
..พี่ใหญ่น่าจะกลับมาจากด้านนอกแล้ว
" มาแล้วหรือเจ้าตัวดี "
เป็นพี่ใหญ่ที่นั่งทำหน้าถมึงทึงจดจ้องเขา ด้วยบรรยากาศที่ไม่ได้แสดงว่าเจ้าตัวกำลังอยากคุยกับเขาดี ๆ จึงได้ชะงักเท้า
แล้วเตรียมหมุนร่างกลับ..
" น้องสาม เจ้าเดินหนีไปก็ไม่ช่วยให้พี่ใหญ่ใจเย็นลง อย่างไรก็มาอธิบายกันก่อนดีหรือไม่ " เป็นหมิงเยวี่ยนที่กล่าวรั้งศิษย์น้องเล็กเอาไว้
ในศาลาสองร่างต่างก็นอนราบไปกับพื้น บนยอดเขาห่างจากเรือนอันปลีกวิเวกของพวกเขา
..ที่นี่คือสถานที่พักผ่อนอีกแห่ง
หมิงซานสบตาเข้ากับหมิงหย่งเล่อ เพียงเห็นท่าทีความไม่สบอารมณ์ในนั้น จึงยอมนั่งลงบนพื้นไม้เรียบง่ายแต่โดยดี
หมิงเยวี่ยนมองสลับระหว่างทั้งสองคน อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดศิษย์น้องถึงได้แสดงท่าทีแปลกไปจากทุกครา อีกทั้งจากการสังเกตของเขาเอง เหมือนน้องเล็กกำลังมีความลับอยู่
นี่ไม่ใช่การคาดเดาส่ง ๆ แต่เพราะความรู้ใจกันของทั้งสามคนนั่นเอง
สุดท้ายเป็นท่านหมอหนุ่ม ที่ไม่อาจใจแข็งต่อสายตาของศิษย์พี่ทั้งสอง กล่าวออกไปว่า
" ท่านอย่าเอานางไปโยงกับสำนัก ถือว่าข้าขอร้อง "
ผู้ที่ถูกกล่าวว่าเอาหญิงสาวนางนั้นไปโยง ก็อดคิ้วกระตุกไม่ได้ " ไม่ใช่ว่าเราเคยตกลงกันแล้ว ว่าจะไม่ให้ผู้ใดสามารถก้าวล้ำเข้ามาในที่แห่งนี้ "