บทที่2 มะม่วงเป็นเหตุ
“นายหัว กลับมาตั้งแต่ตอนไหนครับ”คนงานในสวนที่กำลังเก็บมะม่วงเอ่ยถามเขมินทร์ที่กำลังเดินเข้าไปในสวนด้วยสำเนียงใต้
“เพิ่งกลับมาถึงนี่แหละ เห็นไอ้พร้อมมั้ย” เขมินทร์เอ่ยถามเสียงขรึม นอกจากคนในครอบครัวแล้ว ทุคนจะเห็นเขาเป็นนายหัวที่เคร่งขรึม ดุ และโหด แต่เขาก็เป็นธรรมกับคนงานทุกคน ให้ความช่วยเหลือเวลาคนงานเดือดร้อน แต่ถ้าคนไหนสร้างปัญหาให้เขาก็จัดการแบบเด็ดขาดเช่นกัน ทำให้คนงานต่างนับถือและหวาดหวั่นในความดุของเขา
“นายพร้อมคุมคนงานอยู่ทางโน้นครับ”
“ขอบใจ” เขมินทร์เดินไปทางที่คนงานชี้บอก
“น้องลินลงมาได้แล้ว กลับกันดีกว่าเย็นแล้ว” พร้อมพงษ์ตะโกนบอกกานดานลินเมื่อเห็นว่าเริ่มจะเย็นแล้ว
“โอเคค่ะ กลับบ้านกันดีกว่าลินนัดกินข้าวเย็นฝีมือแม่ไว้” กานดานลินค่อยๆปืนลงจากต้นมะม่วงอย่างทุลักทุเลเพราะถือมะม่วงไว้ในมือ
“คุณเข้ม กลับมาถึงนานแล้วเหรอครับ” พร้อมพงษ์เอ่ยทักด้วยภาษากลาง เนื่องจากเขาเป็นคนนนทบุรีที่มีเมียเป็นคนที่นี่เลยลงมาทำงานที่กระบี่เพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆคนรัก
“เพิ่งถึงบ้านเมื่อกี้นี้แหละ เลยแวะมาดูเขาเก็บมะม่วง เป็นไงบ้าง เรียบร้อยดีมั้ย”
“เรียบร้อยดีครับ นี่ผมก็ว่าจะกลับแล้ว เย็นแล้วเดี๋ยวเสร็จไม่ทันมืดครับ”
“เออ ดีแล้วรีบกลับ แม่ให้ฉันมาพาคนกลับ...โอ๊ยย...โอ๊ยย”เขมินทร์พูดไม่ทันจบประโยคก็ต้องร้องออกมาเพราะมีบางอย่างตกใส่หัวเขาถึงสองครั้งติดกัน
“อะไรวะ” เขมินทร์ตะโกนถามเสียงดังด้วยความเจ็บบนหัว พร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปดูบนต้นมะม่วง
“เอ่ออ ขอโทษค่ะ มะม่วงมันหลุดมือ” กานดานลินเอ่ยกล่าวขอโทษคนด้านล่างอย่างไวแม้ว่าเธอจะตกใจเสียงตะโกนที่ดังก้อง เธอจึงรีบปีนลงไปข้างล่างเพื่อขอโทษเจ้าของเสียงอีกครั้ง
“คุณปีนขึ้นไปทำไม ทำไมไม่สอยมะม่วงลงมาดีๆ”
“ลินขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจทำมะม่วงตก ขอโทษนะคะ คุณเจ็บมากมั้ยอะ” เมื่อลงมาถึงพื้นแล้วกานดานลินเอ่ยขอโทษเจ้าทุกข์ของเธออีกครั้ง ทั้งยังไม่กล้าเงยหน้ามองเจ้าของเสียงดุ เธอคิดว่าเขาต้องโกรธเธอมากแน่ๆ ขนาดเสียงยังดุขนาดนี้
“ผมเอาโยนใส่หัวคุณดูไหม จะได้รู้ว่ามันเจ็บขนาดไหน”เขมินทร์บอกเสียงดุ ทั้งที่ความจริงตัวเขาไม่ได้เจ็บหนัก แค่มึนๆมากกว่า
“อย่าโยนใส่หัวลินเลยนะ ลินสำนึกผิดแล้ว”เธอยกมือไหว้ขอโทษชายหนุ่มอีกครั้ง ทั้งยังเงยหน้าขึ้นไปส่งสายตาสำนึกผิดให้เขา แต่ก็ต้องมองชายหนุ่มตรงหน้าตาค้าง ทำไมหน้าคนตรงหน้าถึงคุ้นๆจัง ตาดุๆของเขาเอย จมูกเอย ไหนจะรูปร่างคุ้นๆนี้อีก ติดอย่างเดียวตรงหนวดเคราบนใบหน้าที่ทำให้เธอไม่คุ้นตา
“ลิน เธอใช่น้องลินที่เป็นผู้ช่วยแม่ฉันรึเปล่า นี่ นี่ เธอจะจ้องหน้าฉันอีกนานมั้ยหะ” ชายหนุ่มเอ่ยถาม แต่เธอไม่ยอมตอบเอาแต่เหมอมองหน้าเขาค้าง
“หะ หะ เอ่อ เอ่อ ใช่ค่ะ ลินเป็นผู้ช่วยคุณแม่” กานดานลินเอ่ยตอบไม่เต็มเสียงเพราะเธอมัวแต่มองหน้าเขานานไปจนโดนเขาดุเอาอีกแล้ว
“ดี แม่ให้ฉันพาเธอกลับบ้านไปด้วย จะกลับมั้ยแม่รอทานข้าวเย็นอยู่”เขมินทร์กล่าวแล้วกำลังเดินหันหลังกลับไปขึ้นรถ
“แม่ เอ่อ คุณเป็นพี่ชายยัยเข็มเหรอค่ะ แล้วแม่ให้ฉันกลับกับคุณเหรอ” เธอเอ่ยถามอย่างหวาดๆผู้ชายคนนี้จะดุเธออีกมั้ยเนี่ย แล้วกลับบ้านกับเขาเธอจะถึงบ้านหรือหายตัวไประหว่างทางกันแน่
“ใช่ ฉันเป็นพี่ชายยัยเข็ม และใช่ แม่ให้ฉันมารับเธอกลับบ้าน”เขมินทร์หันหน้ากลับมาบอกเธอ
“น้องลิน นี่คุณเข้มครับ เป็นลูกชายคนโตและเป็นนายหัวของที่นี่ด้วยครับ”พร้อมพงษ์บอกสำทับหญิงสาวอีกครั้งให้เธอแน่ใจ
“ค่ะพี่พร้อม งั้นลินกลับกับคุณเข้มก็ได้ค่ะ พี่พร้อมจะได้ไม่ต้องไปส่งลิน แม่คงรอกินข้าวแล้วป่านนี้”
“แม่ ฉันว่าแม่ฉันมีลูกแค่สองคนนะ ”ชายหนุ่มเอ่ยถามหน้าเข้ม
กานดานลินถึงกับหน้าเหวอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะถามเธออย่างนี้ พลางคิดว่านี่เขาห่วงแม่หรือหาเรื่องเธออีก ในเมื่อทั้งคุณชวัลและคุณกนกกรทั้งคู่บอกให้เธอเรียกท่านว่าพ่อกับแม่เธอก็จะเรียก ไม่ว่าชายหนุ่มหน้าดุจะว่ายังไงเธอก็จะเรียกทั้งสองท่านว่าพ่อกับแม่
“มีลินอีกคนไงค่ะ อืมมม ลินอาจจะเป็นลูกรัก ลูกเลี้ยง หรือว่าอาจจะเป็นลูกสะใภ้ในอนาคตก็ได้นะคะ ไปค่ะกลับบ้านกันแม่รอนานแล้ว” เธอเอ่ยบอกชายหนุ่มทีเล่นทีจริง ไม่กลัวท่าทีดุดันเอาเรื่องของเขาอีกต่อไป พร้อมชวนเขากลับบ้าน
“ตามมา”เขมินทร์ยังคงตอบเสียงเข้มเหมือนเดิม แม้หญิงสาวจะตอบคำถามกวนเขา เป็นลูกรัก ลูกเลี้ยงเขายังพอทน แต่เป็นลูกสะใภ้แม่เขาคงไม่มีทางเป็นไปได้ แค่ให้เธออยู่รอดไม่ทำให้เขาโมโหจนหักคอเธอก็ยากแล้ว นี่แค่เจอกกันไม่กี่นาทีเธอยังทั้งกวนเขาแถมยังทำเขาเจ็บตัวอีก ไอ้ท่าทางกลัวเขาของเธอก็มีแค่ตอนทำเขาเจ็บตัวเท่านั้น
“ค่า คุณเข้ม” เธอตอบแล้วรีบเดินตามเขาไป
ระหว่างทางจากสวนกลับบ้านเธอกับชายหนุ่มไม่มีใครพูดจากัน เงียบจนเธอแทบจะไม่กล้าหายใจ กลัวเขาจะได้ยินเสียงลมหายใจของเธอ หญิงสาวทำได้เพียงแต่คิดในใจว่าชายหนุ่มข้างๆช่างมีบุคลิกตรงข้ามกับทุกคนในครอบครัวของเขา ทั้งพ่อ แม่ และก็น้องสาวของเขาออกจะน่ารัก อัธยาศัยดี แต่เขาทั้งดุ ทั้งโหด แล้วจะรอดพ้นเงื้อมือของมั้ยเนี่ย ไหนคุณแม่บอกว่าลูกชายน่ารักไง เธอเริ่มจะเชื่อเขมิกาแล้วว่าพี่ชายของหล่อนต้องหักคอเธอแน่ๆ
“หือออ แม่ทำกับข้าวอะไรคะเนี่ยหอมไปถึงนอกบ้านเลย”กานดานลินเอ่ยบอกคุณกนกกรเมื่อหญิงสาวเดินเข้าในบ้าน
“ต้มข่าไก่จ้ะ ไปล้างไม้ล้างมือมากินข้าวกันได้แล้วทั้งสองคน”
“ค่ะ”
“ครับแม่”
“อร่อยมากเลยค่ะ”หญิงสาวเอ่ยชมหลังเธอตักต้มข่าไก่ทานคำแรก
“อร่อยสิ นี่เมนูโปรดตาเข้มเขาเลย”คุณกนกกรเอ่ยบอกหญิงสาว
“วันนี้แม่เขาทำแต่ของโปรดเจ้าเข้มเขานะหนูลิน สงสัยจะดีใจมากลูกชายกลับบ้าน” คุณชวัลเอ่ยแซวภรรยา
“ดีใจมากสิค่ะที่รัก แต่จะดีใจกว่านี้ถ้าลูกชายของฉันจะโกนหนวด โกนเคราซะบ้าง ลูกฉันชักจะมีสภาพเหมือนโจรเข้าไปทุกวันแล้ว”
“ได้ยินแล้วนะเจ้าเข้มแม่แกอยากเห็นหน้าตาหล่อๆของลูกชาย”
“ครับๆ เดียวพรุ่งนี้ผมโกนให้นะครับคุณนายแม่”
หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ นี่สิน่าคุณกนกกรถึงบอกว่าลูกชายของตนน่ารัก ตอนอยู่กับครอบครัวทำตัวน่ารัก ว่านอนสอนง่ายอย่างนี้นี่เอง
“น้องลินตั้งแต่พรุ่งนี้หนูไม่ต้องมาช่วยงานแม่แล้วนะ ไปช่วยงานตาเข้มแทนนะจ้ะ” หญิงสาวถึงกับทำช้อนหล่นหลังจากที่คุณกนกกรพูดจบ
“เอ่อ ขอโทษค่ะ ให้น้องลินอยู่ช่วยงานแม่ไม่ดีกว่าเหรอคะ งานเอกสารของแม่ก็เยอะนะคะ” หญิงสาวเอ่ยอ้อนวอนคุณกนกกร เธอไม่อาจรู้ได้ว่าวันดีคืนดีเขาจะโมโหเธอแล้วตัดลิ้นเธอ หรือเขาจะหักคอเธอรึเปล่า
“แม่จะโอนงานไปให้ตาเข้มเขาบางส่วน น้องลินไปช่วยตาเข้มนั้นแหละดีแล้ว ตาเข้มไม่อยู่หลายเดือนได้น้องลินไปช่วยงานคงไหลลื่นกว่าทำคนเดียว”
“ค่ะแม่ ตั้งแต่พรุ่งนี้น้องลินจะไปทำงานเป็นผู้ช่วยคุณเข้ม” เมื่อคุณกนกกรไม่ยอมให้เธอทำงานด้วย หญิงสาวจึงยอมจำนนไปทำงานกับชายหนุ่มแต่โดยดี