พี่เทมส์

2294 Words
วันปฐมนิเทศ วันนี้ทางมหาวิทยาลัยนัดหมายนักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 ทุกคนขึ้นหอประชุมพร้อมกัน ฉันกับฝันนัดแนะกันตั้งแต่เมื่อวานจะไป ม. ด้วยกัน แต่ค่ะแต่... ลูกพีชคนนี้ดันสะดุ้งตื่นก่อนนาฬิกาปลุก! เพราะฝันเห็นผู้ชายหน้าหล่อดาเมจรุนแรงคนเมื่อวานว่าเขาขับรถพาไปเที่ยวงี้ จะบ้าตายกับตัวเอง เจอกันแค่ครั้งเดียวถึงขั้นเก็บผู้ชายเอามาฝัน... รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น เพ้อเจ้อมากค่ะลูกพีช! ละคือพยายามหลับต่อเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ไง นี่เลยลุกจากเตียงขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะเดินมาเปิดตู้เย็นหยิบนมจืดกับเบเกอรี่แสนอร่อยฝีมือของคุณป้าที่ท่านนำมาใส่ตู้เย็นตั้งแต่เมื่อวานเข้าไมโครเวฟเพื่ออุ่นทาน ฉันหยิบมือถือขึ้นมาเข้าไลน์ อ๊ะ! คุณแม่ทักมาว่าอยากเห็นลูกสาวในชุดนักศึกษา... ลูกของแม่ต้องสวยแน่เลย ฉันหลุดขำพลางส่งสติ๊กเกอร์หัวเราะกลับไป ก่อนจะบอกว่าถ้าหนูเปลี่ยนผ้าเสร็จ เดี๋ยวถ่ายรูปส่งให้ดูค่ะ สักพักคุณแม่ก็ส่งสติ๊กเกอร์โอเคกลับมา ทานอะไรเสร็จฉันเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอน พอเห็นตัวเองในชุดนักศึกษาผ่านกระจกก็อดยิ้มไม่ได้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกก้าวไงไม่รู้แฮะ แชะ! ฉันหยิบมือถือขึ้นมาเซลฟี่ผ่านหน้ากระจกแล้วส่งให้คุณแม่ ท่านไลน์กลับมาบอกว่าปะป๊าเห็นลูกในชุดนี้แล้วกลัวหนุ่มๆ จะมาจีบ ฉันถึงกับหัวเราะในความหวงลูกสาวของปะป๊าเลยทีเดียว นั่งเล่นได้ไม่นานฝันก็คอลไลน์มาบอกว่าพร้อมแล้ว ฉันเดินไปที่ห้องของเพื่อนใหม่ซึ่งเข้ากันได้ดีอย่างเหลือเชื่อราวกับเราสองคบกันมาเป็นปีๆ เลยล่ะ เราสองเดินมามหาลัยพร้อมกัน พอถึงหอประชุมใหญ่ก็เห็นรุ่นพี่ปี 2 คณะต่างๆ ถือป้ายบอกว่าแต่ละเอกต้องนั่งตรงไหนบ้าง ฉันกับฝันเดินไปที่ป้ายเอกญี่ปุ่นอย่างไม่รอช้า ทั้งรุ่นพี่และเพื่อนใหม่ต่างส่งยิ้มให้เราสองคนอย่างเป็นกันเอง “หวัดดี เราเอมนะ ส่วนนี่แก้มยุ้ย เธอสองคนชื่อไรเหรอ มาจากโรงเรียนเดียวกันป่ะ” เพื่อนที่นั่งด้านหน้าหันมาทักทายฉันกับฝันด้วยดวงตาเปล่งประกาย เราสองคนยิ้มให้ ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายแนะนำตัวบ้าง “เราลูกพีช เรียกพีชเฉยๆ ก็ได้ มาจากจังหวัดแพร่จ้ะ” “เราฝันหวาน เรียกฝันอย่างเดียวก็ได้ เรากับพีชไม่ได้จบที่เดียวกัน เราจบจากเชียงใหม่ แต่ที่มาพร้อมกันเพราะเราสองคนอยู่หอเดียวกันน่ะ” ฝันบอกด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างสดใส “ว้าว! สาวเหนือทั้งคู่เลยดิ ส่วนเราสองคนจบจากโรงเรียนเดียวกัน อยู่ กทม.นี่แหละ ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่นะ” ว่าแล้วแก้มยุ้ยก็ยิ้มจนตาหยี จากนั้นเราสี่คนก็เม้าท์กันไปมาอย่างออกรส พอรู้สึกว่าคลิก...เป็นเพื่อนกันได้อย่างสนิทใจจึงแลกเฟส ไอจีรวมถึงไลน์และเบอร์โทรเอาไว้ติดต่อกัน สักพักใหญ่พี่ปี 2 แต่ละเอกก็บอกให้น้องปี 1 ช่วยเงียบ จากนั้นหัวหน้าอาจารย์ประจำวิชาภาคต่างๆ ก็เข้ามาแนะนำตัว รวมถึงอธิการบดีที่มาให้โอวาท ส่วนฉันที่ตื่นก่อนนาฬิกาปลุกก็แอบง่วงเป็นพักๆ โชคดีได้ลูกอมรสมะนาวมาจากเอม ไม่งั้นมีหลับโชว์ผู้คนแน่อ่ะ “ไปทานข้าวหน้า ม. กันป่ะ พี่เอเคยบอกว่ามีร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ออนเซ็นอร่อยเลิศอยู่” เอมเอ่ยปากชวนเมื่อเราสี่คนเดินมาถึงโรงอาหารคณะมนุษย์แล้วพบว่าคนเยอะมากกก เยอะจนไม่มีที่นั่งอ่ะ “ได้นะ ยังไงรุ่นพี่ก็นัดตอนบ่ายโมง มีเวลาอีกสองชั่วโมงแน่ะ” ฝันพยักหน้าเห็นด้วย “แล้วพีชล่ะว่าไง” เอมหันมาถามฉันบ้าง “ของอร่อยๆ ไม่ปฏิเสธอยู่ละ” ฉันบอกพลางยิ้ม “แล้วแกอ่ะแก้มยุ้ย” “เพื่อนไปกันหมด คนสวยก็ต้องไปสิคะ จะมานั่งตบยุงแถวนี้คนเดียวทำไม” แก้มยุ้ยพูดขำๆ ทำเอาเราสามคนที่เหลือหัวเราะออกมาในความอารมณ์ดีของอีกฝ่าย พอเดินมาถึงร้านปรากฏว่าโต๊ะเต็มค่า! จะย้อนกลับไปทานข้าวที่โรงอาหารก็หิวแล้ว เพราะงั้นพวกเราเลยตกลงกันว่าจะหาอะไรกินแถวหน้า ม. นี่แหละ ร้านเด็ดค่อยมาแก้ตัววันหลังละกัน เราสี่คนเดินเลือกจนมาหยุดที่คาเฟ่สีขาวสไตล์มินิมอล เมนูที่ตั้งให้เลือกหน้าร้านก็ดูท่าทางน่าทานเพราะงั้นจึงเลือกร้านนี้แหละ พรึ่บ! เปิดประตูกระจกเข้ามาปรากฏว่าคนเยอะมากแต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงแฮะ โชคดีที่มุมในสุดมีโต๊ะว่างเหลืออยู่ น่าจะเพราะเป็นโต๊ะใหญ่สุด... มีเก้าอี้สิบตัวได้เลยไม่มีใครเข้าไปนั่ง แต่เวลานี้เราสี่คนกำลังหิวได้ที่จึงรีบรุดเข้ามาหย่อนตูดลงแม้จำนวนคนจะน้อยกว่าเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ก็ตาม ไม่นานพนักงานก็เดินมารับออเดอร์ ระหว่างรออาหารก็เซลฟี่รูปหมู่ 4 คนแล้วแท็กลงไอจีกันเรื่อยเปื่อย “เฮ้ย! ช่วงปิดเทอมพีชไปเมกามาเหรอ” เอมถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อเลื่อนดูไอจีของฉัน “อื้อ” ฉันพยักหน้าน้อยๆ “ไปหาปะป๊ากับคุณแม่น่ะ ท่านทั้งสองอยู่ที่โน่น” “เราว่าคุณพ่อของพีช หน้าตาไม่ค่อยไทยเท่าไหร่แฮะ” แก้มยุ้ยย่นคิ้วเหมือนสงสัย “น่าจะเป็นเพราะปะป๊าเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-ไทยมั้ง เลยดูไม่ไทยเท่าไหร่” ฉันบอกยิ้มๆ “งั้นพีชก็เป็นลูกเสี้ยวน่ะสิ!” เอมและแก้มยุ้ยถามด้วยสีหน้าตะลึงทำเอาฝันกับฉันมองหน้ากันแล้วหลุดขำ คือฝันรู้เรื่องฉันตั้งแต่เมื่อวานเลยไม่ตกใจอะไรน่ะนะ “อื้อ” ฉันบอกพลางดูดน้ำแตงโมปั่นที่พนักงานเพิ่งเอามาเสิร์ฟ อร่อยแฮะแถมสดชื่นด้วย “มิน่า พีชเลยน่ารักเหมือนตุ๊กตาเพราะเป็นลูกเสี้ยวนี่เอง เชื่อป่ะ เราเห็นหน้าพีชครั้งแรกยังคิดเลยว่าเดี๋ยวรุ่นพี่ต้องมาติดต่อให้ลงประกวดดาว” เอมพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่ฉันส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “หึ! ไม่หรอก เราไม่ได้น่ารักอะไรขนาดนั้น อีกอย่างเพื่อนเอกอื่นมีแต่สวยแบบตะโกนเยอะมาก รุ่นพี่คงไม่มาติดต่อคนอ๊องอย่างเราแน่” ฉันบอกอย่างขำๆ “ถ้าอย่างพีชไม่น่ารัก เราไม่ศพเดินได้เลยเหรอ” แก้มยุ้ยแย้งทันที แหม่! อะไรจะอวยกันเบอร์นั้นคะ “เนอะ! เราก็ว่างั้น แต่พีชอ่ะดิ... เอาแต่บอกว่าตัวเองธรรมดา ไม่ได้น่ารักอะไร” อ้าว! ไหงฝันเห็นด้วยกับสองคนนี้เล่า “โหว! นี่นะไม่น่ารัก ตัวบาง ผิวโคตรขาว หน้าก็ใส ตากลมบล็อกแถมยังหวานอีกต่างหาก จมูกโด่ง ปากได้รูป เก็บปีกไว้ที่ไหนคะ ไม่เมื่อยแย่เหรอแม่คุ๊ณ” ว่าแล้วแก้มยุ้ยก็ทำเป็นมองฉันทั่วตัวทำเอาฝันและเอมถึงกับหัวเราะนัยน์ตาพราว “ไม่ถึงขนาดนั้นสักหน่อย” ฉันบ่นอุบอิบ “เฮ้ย! โต๊ะใหญ่มีที่เหลือเว้ย เข้าไปเหอะกูหิวแล้ว ขี้เกียจหาร้าน!” เสียงโวยวายของผู้ชายที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในคาเฟ่ทำเอาเราสี่คนหยุดบทสนทนา มองหน้ากันเลิ่กลั่ก โต๊ะใหญ่ทั้งร้านมีแค่โต๊ะเดียว สรุปจะมีผู้ชายเข้ามานั่งด้วย ขืนยกมือห้ามคงไม่ดีแน่เพราะพวกเราดันใช้แค่สี่ที่เท่านั้น “อ้าว! น้องฝันน้องพีช สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้ว” เสียงทักทายแหบห้าวที่หยุดยืนอยู่หัวโต๊ะทำให้เราสี่คนที่กำลังสบตากันอย่างว้าวุ่นใจเงยหน้ามอง แล้วก็เห็นเป็นพวกพี่ผู้ชายที่เจอกันเมื่อวาน “สวัสดีค่ะพี่ๆ” ฝันทักตอบอย่างเป็นกันเอง ส่วนฉันยิ้มบางเบาแล้วบอกสวัสดีเช่นกัน เฮ้อ! ค่อยยังชั่วหน่อย หนุ่มหล่อเกินต้านที่ตามหลอกหลอนถึงในฝันไม่มาด้วย คือฉันไม่ได้เกลียดอะไรพี่เขานะคะ ก็แค่ขอเวลาทำใจ ตอนนี้ยังไม่พร้อมเจอเท่านั้นเอง “ว้าย! เทมส์!” “พี่เทมส์แหละแก หล่อโคตร!” “แก๊! น้องเทมส์!” “เบ้าหน้าฟ้าประทานเว่อร์ หล่อเผื่อผู้ชายทั้ง ม.รึไงนะ อ๊าย!” เสียงวีดว้ายจากสาวๆ แทบทุกโต๊ะราวกับเกิดอุปทานหมู่ทำให้ฉันอดแปลกใจไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใครคือเทมส์? ทำไมเขาถึงได้รับการต้อนรับดีขนาดนี้ “พวกมึงสามคนรู้จักเกรงใจคนอื่นมั่ง ร้านมีเยอะแยะจะเบียดคนไม่รู้จักทำไม กลับ!” น้ำเสียงติดนิ่งปนหงุดหงิดของคนพูดทำเอาฉันใจเต้นตึกตัก ขวับ! พอหันมองด้านหลังก็พบผู้ชายหล่อเหลาดาเมจรุนแรงทั้งในโลกแห่งความจริงและความฝันยืนห่างไม่ถึงห้าก้าว “มึงแหกตามองดีๆ ไอ้เทมส์ คนไม่รู้จักที่ไหน นี่น้องฝันกับน้องพีชไงวะ” พี่คนนึงพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ วินาทีนี้ฉันรู้สึกเหมือนจะลืมหายใจเมื่อเจ้าของสายตาคู่คมกริบมองตรงมาที่ฉันอย่างมั่นคง มองจนฉันแพ้สายตาคู่นั้น ต้องหลบโดยพลัน... ไลน์~ เสียงข้อความไลน์ของฉัน ฝัน เอมและแก้มยุ้ยดังพร้อมกันทำให้พวกเราหยิบมือถือขึ้นมาเช็ค แล้วพบว่า... “เอาไงดี ข้าวก็สั่งไปแล้ว” เอมถามอย่างปรึกษา “นาทีนี้คงต้องใช้วิธีใส่กล่องหิ้วเข้า ม. ละแหละ” แก้มยุ้ยบอกพลางถอนหายใจ “แต่ถ้ามัวรอข้าว อาจไม่ทันก็ได้นะ” ฉันพูดเสียงอ่อย “มีไรกันรึเปล่าครับน้องๆ ทำหน้าเหมือนคิดไม่ตกงั้นล่ะ” เสียงพี่ผู้ชายที่ยืนหัวโต๊ะทำเราสี่คนรู้สึกตัวว่าไม่ได้อยู่กันเอง เออ! ลืมไปเลยว่าพวกพี่เค้าจะมานั่งด้วยนี่นา “พี่ในเอกน่ะค่ะ ไลน์มาบอกว่าอาจารย์ประจำภาคอยากเจอปี 1 ภายในครึ่งชั่วโมง แต่ว่า... พวกเราสี่คนเพิ่งสั่งข้าวไป” ฝันบอกพลางยิ้มเจื่อน “งั้นไม่ต้องคิดมากครับ ไปหาอาจารย์เหอะ ถ้าข้าวมาเดี๋ยวพวกพี่กินแทน” พี่คนนึงบอกอย่างง่ายๆ แถมยังยิ้มให้พวกเราอย่างใจดี “จะดีหรือคะ เมนูที่พวกหนูเลือก พี่ๆ อาจจะไม่ชอบ” ฉันถามอย่างเกรงใจ คือเจอกันแค่เมื่อวานหนเดียว แม้แต่ชื่อพวกพี่เค้ายังไม่รู้ รู้แค่ว่าเรียนวิศวะแค่นั้น แต่นี่กลับอาสายื่นมือเข้ามาช่วย... โคตรดีเลยอ่ะ! “พวกพี่กินง่ายอยู่ง่ายครับ น้องๆ รีบไปเถอะ ชักช้าระวังโดนลงโทษเอานะ” พี่อีกคนพูดยิ้มๆ “เอาไงดี” ฉันถามเพื่อนอย่างหวั่นใจ แน่นอนว่าพอได้ยินคำว่าลงโทษ พวกเราตาลุกวาวอย่างเกรงๆ “ฉันว่าทำตามที่พี่เค้าบอกเหอะ นี่ยังไม่อยากโดนทำโทษตั้งแต่วันแรก” แก้มยุ้มพูดอย่างแหยงๆ เราสามคนที่เหลือต่างพยักหน้าเห็นด้วย ก็มันไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่ที่ต้องโดนลงโทษตั้งแต่วันปฐมนิเทศนี่นา “งั้นพวกหนูฝากทานข้าวแทนด้วยนะคะ” เอมเป็นคนบอก ก่อนที่พวกเราสี่คนจะพร้อมใจกันขอบคุณอย่างเด็กมารยาทดี จากนั้นก็ล้วงกระเป๋าตังค์ออกมาเตรียมจ่ายเงินแต่ดันโดนห้ามทัพเอาไว้ซะงั้น “ไม่ต้องครับ เดี๋ยวพวกพี่จัดการเอง” พี่คนแรกยกมือห้ามไว้ “แต่ว่า...” ฉันจะแย้งเพราะไม่ได้มีแค่อาหารอย่างเดียวไง มันยังมีเครื่องดื่มที่พวกเราดื่มไปแล้วด้วย “ไม่มีแต่ครับ ถือว่าพวกพี่เลี้ยงน้องใหม่ต่างคณะ ห้ามปฏิเสธความต้องการของรุ่นพี่สิครับ” ในเมื่อพี่เค้าพูดมาซะขนาดนี้ จะขัดก็ใช่ที่ อาจถูกมองว่าเรื่องเยอะก็ได้ใช่ม้า เพราะงั้นพวกเราจึงได้แต่ไหว้ขอบคุณก่อนจะหมุนตัวออกจากโต๊ะ ระหว่างที่ฉันกำลังเดินสวนกับผู้ชายหล่อเกินต้านอย่างพี่เทมส์ซึ่งไม่ได้อยู่ในวงสนทนาตั้งแต่ต้นจนจบ ก็เห็นว่าเขามองมานิ่งๆ... นิ่งจนฉันทำตัวแทบไม่ถูก ท้องไส้งี้ปั่นป่วนไปหมด พอไม่รู้จะทำไงเลยส่งยิ้มให้ ก่อนจะก้าวขาจากมาให้เร็วที่สุด ผู้ชายอะไร... สายตาโคตรมีพลังเลย!! พอออกจากคาเฟ่ เอมกับแก้มยุ้ยโพล่งถามฉันกับฝันทันทีว่าไปรู้จักพวกรุ่นพี่กลุ่มนี้ได้ไง พวกเขาเป็นคนดังของมหาลัยเลยนะ โดยเฉพาะพี่เทมส์ เป็นขวัญใจสาวๆ ตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ก็ว่าได้ (ที่ทั้งสองรู้เพราะพี่เอเม้าท์เรื่องหนุ่มฮ็อตใน ม.ให้ฟังล่ะมั้ง) พอฝันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ฟัง ทั้งเอมและแก้มยุ้ยถึงกับกรี๊ดแตกแถมยังบอกว่าฉันโชคดีมาก ได้ใกล้ชิดหนุ่มหล่อเกินต้านโดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย... เออเนอะ! ทั้งที่ฉันอายมากเมื่อปลายผมเจ้ากรรมดันไปติดแหง่กกับกระดุมเสื้อของผู้ชายเข้า เพื่อนกลับมองว่าโชคดีซะได้ เป็นงั้นไปเนอะโลกมนุษย์ =_=;
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD