EP.3 จุดเปลี่ยนแปลงของชีวิต

2418 Words
บทที่ 3 "ฉันเคยวาดฝันไว้ว่าอยากมีอนาคตที่ดีร่วมกับคนที่รักฉัน แต่ในที่สุดอนาคตที่ฉันวาดไว้มันกลับพังลงด้วยน้ำมือของคนที่ฉันรัก แล้วฉันจะทำยังไงต่อไป..." เพลงขิมยังคงนั่งนิ่งอยู่ภายในห้องนั้นเป็นเวลานานนับชั่วโมง สายตาของเธอทั้งสองได้แต่จ้องมองไปยังหน้าจอทีวีที่มีการฉายคลิปอะไรบางอย่างอยู่ น้ำตาของหญิงสาวไหลออกมาไม่มีท่าทีว่าจะหยุด แม้ว่าเธอพยายามกลั้นมันไว้แล้วก็ตาม แต่เธอก็ทำไม่ได้อยู่ดี คลิปวิดิโอที่กำลังฉายผ่านจอทีวีอยู่นั้นเป็นคลิปที่เขากับผู้หญิงคนนั้นกำลังมีเพศสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อกันอยู่ ทุกท่วงท่า ทุกลีลา มันแทรกซึมเข้ามาในสายตาของเธอเต็มๆ ไม่คิดเลยว่านอกจากจะชั่วแล้วยังโรคจิตอีกต่างหาก คนเลวทั้งสองคน... เมื่อหญิงสาวได้รู้ความจริงทุกอย่างหมดแล้ว เธอก็ตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปปิดจอทีวีนั้นทั้งน้ำตา ก่อนจะเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเย็นชาหน่อย ๆ เพลงขิมเดินมาหยุดอยู่ตรงกลางห้องโถงใหญ่ ก่อนจะใช้มือหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวจะออกไปจากที่นี่ แต่ในขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูห้อง ภูผาและเหมือนแพรก็ดันเปิดเข้ามาก่อน ทั้งสามคนได้เผชิญหน้ากันอย่างจัง ภูผามองหน้าเพลงขิมด้วยความรู้สึกเป็นห่วง ส่วนเหมือนแพรก็มองเพลงขิมด้วยความรู้สึกผิด จะมีก็แต่หญิงสาวที่มองทั้งสองคนกลับด้วยความเฉยชา ใบหน้าของเธอไร้ความรู้สึก แววตาที่เย็นชาจ้องมองไปยังชายหนุ่มอย่างดุดัน "ฉันมาเอาเสื้อผ้ากับของ ๆ สำคัญของฉัน และนี่เป็นคีย์การ์ดของคุณ" เพลงขิมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมกับยื่นคีย์การ์ดคอนโดคืนให้ภูผา เธอไม่อยากเก็บมันไว้ เพราะยังไงเธอก็จะไม่มีวันกลับมาเหยียบที่นี่อีก "คุยกับพี่ก่อนได้ไหมขิม" ภูผาเอ่ยถามอีกฝ่าย เขาอยากคุยกับเพลงขิมให้เคลียร์ เพราะว่าไม่อยากรู้สึกค้างคาใด ๆ ก่อนจะตัดขาดกัน "ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณค่ะ" "ขิม อย่าเป็นแบบนี้เลย เรามาคุยกันดีๆจบเรื่องนี้กันดี ๆ เถอะนะ" เหมือนแพรพูดเสริมขึ้นอีกคน เพลงขิมที่ได้ยินในสิ่งที่เหมือนแพรพูดก็หันไปมองเหมือนแพรด้วยสีหน้าไม่พอใจ "เธอจะให้ฉันพูดอะไร ในเมื่อฉันไม่มีเรื่องที่จะพูด ฉันว่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นคำตอบที่ชัดที่สุดแล้วนะ พวกคุณอยากให้ฉันพูดอะไรเหรอ อ๋อ! หรือว่าอยากเหยียบให้ฉันเจ็บขึ้นไปอีก" "ขิม เราสองคนไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะ ขิมใจเย็น ๆ หน่อยสิ" "พูดก็พูดเถอะนะ ตอนนี้ฉันโครตจะรังเกียจพวกคุณเลยจริง ๆ อย่าทำให้ฉันต้องรังเกียจไปมากกว่านี้ได้ไหม" ว่าจบ เพลงขิมก็เดินถือกระเป๋าแทรกกลางคนทั้งสองออกไป โดยไม่รอให้คนพวกนั้นพูดอะไรตอบกลับมา เธอไม่อยากฟัง ไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น เพราะนับตั้งแต่วันนี้เป็นตนไป เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เพลงขิมคนเดิมที่อ่อนแอจะไม่มีให้คนพวกนี้หลอกลวงได้อีกแล้ว หลังจากที่เพลงขิมขับรถออกมาจากคอนโดของภูผา เธอก็ตรงดิ่งไปยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง ซึ่งโรมแรมนี้ครอบครัวของเธอก็เป็นสมาชิกอยู่ เธอว่าจะหนีไปอยู่ที่นั่นสักพัก พอตั้งหลักหรือหาที่พักใหม่ได้เธอก็จะย้ายออกไปทันที บ้านพ่อแม่เพลงขิม "เฮ้อ! ฉันล่ะเป็นห่วงยัยขิมจริง ๆ ไม่รู้ว่าป่านนี้ไปอยู่ที่ไหน" คุณหญิงทัดดาวพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงลูกสาวคนกลางของเธอ "ผมก็ห่วง แต่ทำยังไงได้ เราเองก็ทำกับลูกไว้เยอะเหมือนกัน" คุณกิชกรณ์เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิดกับเหตุการณ์บ้า ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทั้งเขาและภรรยาต่างก็รู้สึกผิดกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก หากย้อนกลับเวลาไปได้ เขาคงไม่ทำแบบนี้เป็นแน่ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักลูกสาวคนนี้เท่ากับลูกคนอื่นๆ แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการทำร้ายให้เธอต้องเจ็บปวดหนักขนาดถึงกับต้องขนเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านไปหรอก "ขวัญเชื่อว่ายังไงน้องก็ต้องกลับมาค่ะ คุณพ่อคุณแม่ให้เวลาน้องหน่อยนะคะ" ขวัญดาวที่นั่งอยู่ตรงนั้นพูดเสริมขึ้นอีกคน ก่อนจะหยิบโน๊ตบุ๊คตัวโปรดขึ้นมาเล่นเกมแก้เครียด "แม่ก็หวังไว้อย่างนั้นนะ เอ้อ!! แล้วเรื่องร้านของหนูที่กำลังมีปัญหาอยู่ไปถึงไหนแล้วล่ะ" คุณหญิงทัดดาวเอ่ยถามลูกสาวคนโตของเธอถึงร้านกาแฟที่ขวัญดาวทำอยู่ "กำลังไปได้สวยค่ะคุณแม่ ตอนนี้โรงแรมของไอ้ภูรับลูกค้าต่างชาติเข้ามาเยอะมาก ส่วนใหญ่มาจากยุโรป มันเลยทำให้มีลูกค้าเข้ามานั่งดื่มกาแฟที่ร้านหนูเยอะมากขึ้นเหมือนกัน" ขวัญดาวบอกผู้เป็นแม่ด้วรอยยิ้มหวาน "เราทำถูกแล้วใช่ไหมลูก" "เรื่องอะไรเหรอคะ" ขวัญดาวเงยหน้าถามกลับำด้วยสีหน้าฉงนก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้ว่าแม่ต้องหมายถึงเรื่องนั้นแน่นอน " เรื่องมันผ่านมาแล้วค่ะแม่ ยัยขิมรู้เรื่องหมดแล้ว เราทำอะไรไม่ได้แล้วค่ะ" เธอบอกกับผู้เป็นแม่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนจะคิดย้อนไปถึงวันที่ภูผามาบอกเธอ ให้ช่วยปิดบังเรื่องที่เขากับเหมือนแพรกลับมาคบกันอีก ถ้าวันนั้นเธอปฏิเสธไป คาเฟ่กาแฟของเธอที่อยู่ภายใต้การควบคุมของโรงแรมภูผาก็คงมีปัญหา มันเป็นเพราะเธออยากรักษาร้านกาแฟของตนเองไว้ เลยยอมปิดบังเรื่องนี้กับน้องสาวตัวเอง "คุณพ่อคุณแม่อย่าคิดมากนะคะ เดี๋ยวขวัญช่วยคุยกับน้องให้เอง เรื่องทั้งหมดมันผิดที่ขวัญเอง" ขวัญดาวบอกกับบุพการีทั้งสองของตนด้วยสีหน้ารู้สึกผิดหน่อยๆ โรงแรมxxx "มาเข้าพักห้อง809ค่ะ" เพลงขิมยื่นบัตรประจำตัวให้กับพนักงานโรงแรมที่นั่งอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ "พักคนเดียวใช่ไหมคะคุณเพลงขิม" พนักงานเอ่ยถามเธอด้วยรอยยิ้ม "ใช่ค่ะ พักคนเดียว" "นี่เป็นการ์ดห้องนะคะ อีกห้านาทีจะมีพนักงานเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บให้นะคะ" เพลงขิมพยักหน้ารับทราบก่อนจะเดินออกจากเคาน์เตอร์ไปยังหน้าลิฟท์ ทันทีที่เข้ามาในห้อง หญิงสาวก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงหรูด้วยความอ่อนเพลีย วันนี้ทั้งวันเธอได้รู้ได้เห็นอะไรมากมายจนไม่อาจจะรับรู้อะไรได้อีก หญิงสาวยกมือข้างใดข้างหนึ่งขึ้นมาลูบหน้าท้องที่แบนราบของตนอย่างทะนุถนอม เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ยังไม่ได้คุยกับเจ้าตัวเล็กในท้องเลย มือบางลูบหน้าท้องไปมาเบา ๆ "สวัสดีค่ะตัวเล็กของแม่ วันนี้หนูรู้สึกยังไงบ้างคะ สบายดีหรือเปล่า แม่ขอโทษนะที่ร้องไห้ มันอาจจะทำให้หนูไม่สบายใจ แม่ขอโทษจริง ๆ นะตัวเล็กของแม่" เธอพูดกับลูกน้อยในท้องอย่างอบอุ่น และหวังว่าเจ้าตัวเล็กจะเข้าใจในสิ่งที่เธอบอก สามเดือนแล้วนะ ที่เด็กคนนี้เข้ามาอยู่ในชีวิตและร่างกายของเธอ เพลงขิมให้สัญญากับตัวเองไว้ว่า ต่อให้ชีวิตของเธอต้องเจอกับอะไรที่หนักหนากว่านี้ เธอก็จะไม่มีวันปล่อยมือเจ้าเด็กน้อยคนนี้เด็ดขาด และต่อให้ต้องเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อให้เด็กคนนี้ปลอดภัย เธอก็ยอมทำ... หลังจากที่เพลงขิมได้พูดคุยกับลูกในท้องจนพอใจ เธอก็หยิบเอาโน้ตบุ๊กส่วนตัวขึ้นมาเปิดดูบ้านที่มีคนลงประกาศขายเอาไว้ บ้านแต่ละหลังสวย ๆ ทั้งนั้น แต่ราคาก็แพงใช่เล่น เมื่อหญิงสาวเห็นราคาบ้านเธอก็รีบค้นเอาสมุดบัญชีออกมาดูเมื่อเช็กว่าตอนนี้มีเงินเก็บอยู่เท่าไหร่ "ถ้าเราซื้อบ้านหลังนี้ เงินคลอดลูกก็คงหายไปครึ่งหนึ่งเลยนะเนี่ย" หญิงสาวบ่นพึมพำออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นราคาบ้านที่ตนเองถูกใจ ในขณะที่มือบางกำลังเลื่อนเมาส์ขึ้นลงไปมาเธอก็ไปสะดุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ แต่ดูน่าอยู่มาก เพลงขิมไม่รอช้า รีบติดต่อไปหาคนขายบ้านทันที ???? KHIM : สวัสดีค่ะ พอดีอยากทราบรายละเอียดเรื่องบ้านที่คุณประกาศขายน่ะค่ะ KONG : สวัสดีครับ ผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อก้องภพ เป็นลงคนประกาศขายบ้านเอง ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรหรอครับ KHIM : ฉันชื่อขิมค่ะ เพลงขิม~ รายละเอียดในการซื้อขายบ้านเป็นอย่างไรบ้างคะ พอดีฉันสนใจอยากซื้อน่ะค่ะ KONG : คุณขิมสะดวกเข้ามาฟังรายละเอียดที่ร้านxxxไหมครับ ถ้าคุยกันโอเค ผมจะได้พาไปดูบ้านจริงๆเลย ร้านกับบ้านมันอยู่ติดกันครับ KHIM : ฉันคงเข้าไปได้วันพรุ่งนี้ค่ะ เพราะวันนี้ฉันเหนื่อยแล้วก็เพลียมาก คุณสะดวกไหมคะ KONG : งั้นเจอกันพรุ่งนี้ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมส่งโคเลชั่นให้นะครับ KHIM : โอเคค่ะ พรุ่งนี้กี่โมงคะ KONG : ช่วงบ่ายๆได้ไหมครับ พอดีผมเข้าเวรช่วงเช้า KHIM : โอเคค่ะ ขอบคุณมากนะคะ KONG : ส่งโลเคชั่น หลังจากที่คุยกับคนขายบ้านเสร็จ เพลงขิมก็ปิดโน้ตบุ๊กลงแล้ววางมันไว้ข้าง ๆ ตัว ก่อนที่จะหยิบเอาขนมปังและข้าวห่อสาหร่ายที่ซื้อไว้เมื่อเช้าขึ้นมากิน เนื่องจากเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ได้กินข้าว เจ้าตัวเล็กในท้องก็คงหิวหนักแน่ ๆ ถ้าเธอไม่กินมันก็จะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยของเธอ เพลงขิมเคยอ่านเจอจากในหนังสือเมื่อหลายเดือนก่อนว่า ถ้าเด็กไม่ได้รับการดูแลที่ดี พอคลอดออกมาก็อาจจะไม่แข็งแรงเป็นแน่ ซึ่งแน่นอน...เธอจะไม่ยอมให้ลูกเธออ่อนแอเหมือนอย่างที่เธอเป็น ไม่มีทางแน่นอน สามชั่วโมงต่อมา เมื่อเพลงขิมได้นอนหลับพักผ่อนจนเต็มอิ่มแล้ว มันก็มีสิ่งหนึ่งที่เธอพึ่งคิดขึ้นได้ว่าควรจะต้องทำ หญิงสาวไม่รอช้า รีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปทำธุระนั้นทันที ไม่ถึงสามสิบนาทีรถเก๋งสีขาวหรูของเธอก็ถูกเคลื่อนมาจอดอยู่บริเวณหน้าบริษัทที่ดูใหญ่โต ซึ่งบริษัทนี้เป็นบริษัทของครอบครัวเธอเองแหละ ที่เธอมาวันนี้ก็มาเพื่อที่จะยื่นใบลาออก ไม่จำเป็นแล้วที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อไป เธอตั้งใจตัดขาดกับทุกคนโดยไม่สนใจว่าคนที่เธอตัดขาดด้วยนั้นเขาจะเป็นพ่อแม่หรือพี่น้อง เพลงขิมในชุดเดรสสั้นสีดำเดินสับเท้าเข้ามาในตัวบริษัทอย่างว่องไว เธอนั้นตรงปรี่ไปยังแผนกบุคคลด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเชิงกลบเกลื่อนความปวดร้าวภายในใจ "สวัสดีค่ะคุณขิม มีธุระอะไรให้พี่จัดการเหรอคะ" พนักงานฝ่ายบุคคลเอ่ยถามเพลงขิมอย่างเป็นมิตร "ขิมจะมาเอาใบลาออกไปเซ็นค่ะ รบกวนขอใบลาออกหน่อยได้ไหม" เมื่อพนักงานฝ่ายบุคคลได้ยินดังนั้นก็ตกใจ คุณเพลงขิมจะลาออกอย่างนั้นเหรอ เป็นไปได้ยังไงกัน เมื่อสองสามวันก่อนเธอยังเห็นขิมมาทำงานอย่างปกติอยู่เลย "คุณขิมว่ายังไงนะคะ" "ขิมมาขอใบลาออกค่ะ" หญิงสาวยังคงยืนยันคำเดิม มือบางพลางหยิบปากกาขึ้นมาเตรียมพร้อมกับการเซ็นเอกสารเป็นอย่างมาก "พี่..." ยังไม่ทันที่พนักงานสาวคนนั้นจะพูด เพลงขิมก็พูดดักขึ้นก่อน เธอรู้ว่าพนักงานคนนั้นจะพูดถึงเรื่องอะไร "ขิมมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อย แล้วก็อยากออกไปทำอาชีพที่ตัวเองรักค่ะ พี่ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นนะคะ ไม่มีใครทำให้ขิมลาออกได้ นอกเสียจากขิมจะออกเอง" หญิงสาวตอบกับพนักงานสาวคนนั้นด้วยรอยยิ้ม แต่อีกฝ่ายกลับมีสีหน้าที่หมองเศร้าลงไปเล็กน้อย เธอลอบถอนหายใจออกมาก่อนจะยื่นมือไปหยิบกระดาษลาออกออกมายื่นให้คนตรงหน้าอย่างช้า ๆ "คุณขิมคิดดีแล้วเหรอคะ" "ค่ะ ขิมคิดดีแล้ว" เพลงขิมพูดไปเขียนไป ทันทีที่เขียนเสร็จ เธอก็ยืนกระดาษแผ่นคืนให้อีกฝ่าย "ฝากให้คุณพ่อเซ็นด้วยนะคะ แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยสอนให้ขิมทำงานเก่ง ถ้าไม่มีพี่ป่านนี้ขิมคงเป็นนางเอ๋อไปแล้ว" "คุณขิมจะกลับมาที่นี่อีกไหมคะ" คำถามของพนักงานสาวคนนั้นทำเอาสาวร่างบางถึงกับชะงักไปในทันที เธอไม่สามารถให้คำตอบใดๆแก่อีกฝ่ายได้เลย แต่เชื่อเถอะคนอย่างเธอถ้าลองได้ตัดสินใจอะไรแล้ว เธอไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน "ขิมจะมาหาพี่บ่อย ๆ นะคะ เย็นแล้วอะ ขิมขอตัวก่อนนะ" พูดจบ เพลงขิมก็เดินจากไปทิ้งให้พนักงานสาวคนนั้นทำสีหน้าละห้อยอยู่แต่เพียงคนเดียว พนักงานสาวลอบถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่ล้าน เธออยากรู้เหตุผลที่เพลงขิมลาออกจริง ๆ แน่นอนว่าเธอไม่เชื่อหรอกเรื่องที่เพลงขิมบอกจะออกไปหางานที่ชอบทำ พนักงานที่นี่เขารู้กันหมดว่าเพลงขิมไม่ใช่ลูกรักของคุณกิชกรณ์เจ้าของบริษัทนี้ คงจะมีปัญหาส่วนตัวกันเป็นแน่!! -------------------------------------------
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD