bc

Hate แค้นรัก

book_age18+
1.0K
FOLLOW
4.2K
READ
sex
dominant
manipulative
sweet
betrayal
affair
punishment
passionate
seductive
wild
like
intro-logo
Blurb

ทั้งๆที่ฉันไม่ใช่คนที่ทำให้น้องสาวของ’ฟินิกซ์’ ต้องตาย แต่ทำไมเขาถึงต้องมาตามรังแกฉันแบบนี้ด้วยนะ!

”ฉันไม่ได้หักหลังเฟรย่า ฉันไม่ได้ทำ!”

“เหรอ ฉันเบื่อที่จะฟังคำโกหกของเธอแล้ว” ฟินิกซ์คร่อมร่างฉันไว้ ดันขาฉันออกแล้วแทรกตัวเข้ามาอยู่ตรงกลาง ฉันสู้แรงคนอย่างเขาไม่ได้เลยบ้าจริง!

”ฉันไม่ได้โกหก!”

“หึ เลิกแก้ตัวแล้วมาสนุกกันดีกว่าเมเบล”

chap-preview
Free preview
Hate : 1
ดอกไม้นานาพันธ์ุที่มีสีสันสวยงามส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ ฉันเดินรดน้ำดอกไม้ภายในร้าน ‘For you’ ร้านขายดอกไม้ที่ตกแต่งสไตล์ยุโรปสีขาวสะอาดตา โดยด้านข้างมีประตูเชื่อมสำหรับร้านกาแฟซึ่งเป็นร้านเดียวกัน การตกแต่งทั้งสองร้านอาจจะดูแตกต่างเหมือนกับความอ่อนหวานและความขม แต่ผสมผสานได้อย่างลงตัวจนฉันชอบการทำงานที่นี่มาก และอีกอย่างคือเจ้าของร้านใจดี ”เมเบล” ”คะ น้าคริสติน่า” ฉันหันไปตามเสียงเรียกของหญิงวัยกลางคนที่กำลังยืนส่งยิ้มใจดีมาให้ น้าคริสติน่าเป็นเจ้าของร้านทั้งสองร้านแห่งนี้ ท่านเป็นคนใจดีและน่ารักมาก สามปีที่แล้วหลังจากที่ฉันเรียนจบได้สี่เดือนคุณพ่อคุณแม่และพี่สาวก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต บริษัทของคุณพ่อก็ล้มละลาย ตอนนั้นฉันร้องไห้ทุกวันไม่รู้จะหาทางออกยังไงจนน้าคริสติน่าที่อยู่บ้านข้างๆและเป็นเพื่อนกับคุณแม่คอยดูแลฉันเพราะท่านเองก็อยู่คนเดียว ฉันเลยมาทำงานที่ร้านเพื่อช่วยท่านบ้าง แต่น้าคริสติน่าก็ให้เงินเดือนฉันเหมือนพนักงานคนหนึ่ง ถึงแม้ฉันบอกว่าไม่ต้องให้มากมายขนาดนั้นแต่ท่านก็ยืนยันที่จะให้อยู่ดี “มีลูกค้าโทรมาสั่งช่อดอกไม้ให้ไปส่งน่ะ หนูไปให้น้าหน่อยได้มั้ย” “ได้ค่ะ ที่ไหนคะ” ”ที่นี่จ้ะ” ฉันรับช่อดอกกุหลาบสีแดงและกระดาษที่เขียนที่อยู่แผ่นเล็กจากน้าคริสติน่าแล้วหยิบกุญแจรถของร้านออกมาทันที ”ใช่ที่นี่มั้ยนะ” ฉันจอดรถหน้าบ้านหลังใหญ่โตหรูหราแล้วมองบ้านเลขที่ให้ชัดเจนอีกรอบจากนั้นก็หยิบกระดาษแผ่นเล็กมากดเบอร์โทรที่น้าคริสติน่าเขียนเบอร์ลูกค้าไว้ให้ [ฮัลโหล] เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นเหมือนกำลังหงุดหงิดอยู่จนฉันสะดุ้งเล็กน้อย “เอ่อ..คือมาส่งดอกไม้จากร้านฟอร์ยูค่ะ” [ดอกไม้เหรอ] ”ใช่ค่ะ” ฉันดูเบอร์ในโทรศัพท์กับในกระดาษอีกครั้ง ซึ่งมันก็ตรงกันคงไม่โทรผิดหรอกมั้ง แต่ทำไมเสียงเขาเหมือนจะงงๆอย่างนั้นล่ะ [เข้ามาส่งในบ้านเลย] ติ๊ด! “เอ่อ..ค่ะ” ฉันยังไม่ทันตอบสายก็ตัดไปซะก่อน ยังไม่ทันหายงงยามหน้าบ้านก็กดรีโมตเปิดประตูบ้านให้ ฉันเลยขับรถไปจอดที่ลานจอดรถแล้วเดินถือช่อกุหลาบสีแดงเข้ามาที่หน้าประตูบ้าน “มาส่งดอกไม้ใช่มั้ยคะ” แม่บ้านเดินมาถามสีหน้ายิ้มแย้ม ฉันเลยหันไปพยักหน้ายิ้มกลับไปให้ “ค่ะ” “เชิญที่ห้องชั้นสามเลยค่ะ“ “อะไรนะคะ” ฉันถามย้ำอีกครั้ง ต้องไปส่งถึงหน้าห้องเลยเหรอ “ขึ้นลิฟท์ทางด้านนั้นแล้วกดที่ชั้นสามก็ถึงหน้าห้องเลยค่ะ” ฉันหันมองตามมือแม่บ้านไปทางลิฟท์กระจกอย่างอึ้งๆ พอหันกลับมาก็เห็นเพียงแผ่นหลังของแม่บ้านที่เดินไปอีกทางแล้ว ฉันเลยต้องหอบช่อกุหลาบสีแดงเข้าไปในลิฟท์แล้วกดไปที่ชั้นสามตามที่แม่บ้านบอก “นี่บ้านคนเหรอเนี่ย ใหญ่ชะมัด” ฉันกดออดข้างประตูยืนรอไม่นานนักเสียงเข้มต่ำก็ดังออกมาแล้วประตูก็เปิดออกพร้อมกับผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาที่เหมือนเพิ่งตื่นยืนพิงขอบประตูมองหน้าฉันนิ่ง ”เข้ามา” “คะ?” ”ไม่ได้ยินหรือไง“ สายตาคมกริบจ้องเขม่นมองมาที่ฉันอย่างหงุดหงิด “คือฉันมาส่งดอกไม้ค่ะ เซ็นรับตรงนี้ก็เสร็จแล้วค่ะ” ฉันยิ้มให้พร้อมกับยื่นใบเซ็นรับสินค้าไปข้างหน้าเพื่อให้เขาเซ็น แต่ร่างสูงใหญ่ยังคงจ้องฉันอยู่อย่างนั้น ”บอกให้เข้ามา” “แต่ว่าฉันแค่มาส่ง..อ๊าย!” หมับ! ปึง! ”วางไว้ตรงนั้น” ฉันหันไปมองตามนิ้วชี้ของเขาแล้วก็หันกลับมามองหน้าเขาด้วยความขุ่นเคือง อยู่ดีๆก็กระชากแขนฉันเข้ามาในห้องแถมยังปิดประตูล็อกห้องไว้อีก เจ็บชะมัด! ”ช่วยเซ็นรับด้วยค่ะ” พอเดินไปวางช่อกุหลาบไว้บนโต๊ะใหญ่กลางห้องรับแขกเสร็จฉันก็ยื่นใบเซ็นรับสินค้าไปทางเขาทันที ตอนนี้เสียงฉันฟังดูก็รู้ว่ากำลังไม่พอใจถึงเขาจะเป็นลูกค้าก็เถอะแต่ทำนิสัยแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน “จะรีบไปไหนล่ะเมเบล” “รู้จักฉันได้ไง!” ฉันรีบถอยหลังหนีอย่างตื่นๆทันที ทำไมเขาถึงรู้จักชื่อฉันได้ล่ะ โรคจิตหรือเปล่าให้ตายสิ! ”หึ กลัวเหรอ” “นายเป็นใคร อย่าเข้ามานะ!” ฉันหยิบของที่อยู่ใกล้มือขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวทันที ”แน่ใจเหรอว่าไอ้นั้นจะทำอะไรฉันได้” ฉันหันไปมองของในมือด้วยความรวดเร็ว บ้าจริง! ปากกาเหรอ ฉันกัดริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น ”ฉันบอกว่าอย่าเข้ามาไง!” เขาเดินเข้ามาหาฉันเรื่อยๆ มือฉันที่กำลังถือปากกาอยู่สั่นจนควบคุมไม่ได้เลยให้ตาย “ฉันจะบอกให้ก็ได้ว่าฉันเป็นใคร” “...” ฉันไม่พูดอะไรทำได้เพียงเดินถอยหลังหนีเขาจนแผ่นหลังชนเข้ากับผนังห้องแต่เขาก็ยังคงเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ สายตาคมที่มองมาเหมือนโกรธเกลียดฉันทั้งๆที่ฉันไม่เคยเจอเขามาก่อนด้วยซ้ำ! “ฉันฟินิกซ์ พี่ชายของเฟรย่าไง” คำพูดที่เพิ่งออกมาจากปากของฟินิกซ์ทำฉันนิ่งตัวแข็งทื่อ ชื่อของเพื่อนรักที่จากไปเมื่อสามปีก่อนหลังจากที่เราเรียนจบทำให้น้ำตาฉันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ”นะ..นายเป็นพี่ชายของเฟรย่าเหรอ” ฉันถามฟินิกซ์เสียงสั่นเคลือ ”หึ เธอเป็นคนทำให้เฟรย่าต้องตายจะมาเสียใจทำไมตอนนี้” เสียงเข้มต่ำเกลียดชังจากฟินิกซ์ทำให้ฉันได้แต่นิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน เขาพูดบ้าอะไร! ”ฉันไม่ได้..” “หยุดแก้ตัวสักที!” ฉันสะดุ้งตัวโยนจนปากกาในมือตกลงพื้น มองหน้าฟินิกซ์ด้วยความไม่เข้าใจ กัดริมฝีปากล่างตัวเองเอาไว้แน่นจนเจ็บไปหมด “แต่ฉันไม่ได้เป็นคนทำให้เฟรย่าต้องตาย” น้ำตาฉันไหลลงมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงเพื่อนรักอย่างเฟรย่า ”เธอหักหลังเพื่อนตัวเองแล้วยังจะแก้ตัวอีกเหรอ” “หักหลัง? นี่นายพูดบ้าอะไรของนาย” “ยังจะทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกเหรอเมเบล” หมับ! ”ปล่อยฉันนะ!” “หึ คนอย่างเธอพูดไปก็ไม่สำนึกหรอก” แคว่ก! ”ไม่นะ นายจะทำอะไร ปล่อย!” ฟินิกซ์กระชากเสื้อยืดฉันจนขาด มือใหญ่บีบต้นแขนทั้งสองข้างของฉันไว้แน่น แม้จะพยายามดิ้นขัดขืนมากขนาดไหนฉันก็ไม่สามารถหลุดออกจากมือใหญ่ของเขาได้ ความเจ็บที่ต้นแขนทำฉันนิ่วหน้าขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ น้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุดหย่อนเมื่อนึกถึงเฟรย่า ความสับสนไม่เข้าใจในสิ่งที่ฟินิกซ์พูดมาเมื่อครู่ทำให้เรื่อยแรงของฉันหายไปหมด “เธอกล้าทำแบบนั้นกับเพื่อนเธอได้ยังไงเมเบล ทำกับน้องสาวฉันแบบนั้นได้ยังไง!” เสียงเข้มต่ำของฟินิกซ์ที่ตะโกนใส่ฉันทำให้ฉันต้องกัดริมฝีปากล่างตัวเองเอาไว้ “ฉันไม่เคยหักหลังเฟรย่า” “หึ สงสัยจะพูดอะไรเธอก็คงปฏิเสธอยู่ดี” หมับ! “นายจะทำอะไร!” ฟินิกซ์กระชากฉันเข้าไปใกล้แล้วอุ้มฉันขึ้นพาดบ่าแกร่งทันที ฉันทั้งจิกทั้งข่วนแผ่นหลังกว้างของฟินิกซ์แต่เขาก็ยังคงเดินไปเปิดประตูห้องเหมือนไม่เจ็บสักนิด “เดี๋ยวก็รู้” “ปะ..ปล่อย!” ฉันดิ้นและทุบหลังเขาแรงขึ้นทันทีที่รับรู้ได้ว่าเขาพาฉันเข้ามาที่ห้องนอน ฟุ่บ ตุบ! “อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันจะทำอะไร” “อย่าทำอะไรบ้าๆนะ!” ฉันสบสายตาคมกริบของฟินิกซ์ด้วยความโกรธเคือง รีบคลานลงจากเตียงแต่มือใหญ่กลับจับข้อเท้าไว้ได้ซะก่อน หมับ พรืด! ”จะหนีไปไหน” “ฉันบอกให้ปล่อยไง!” ฟินิกซ์กระชากข้อเท้าฉันเข้าไปใกล้แล้วเขาก็ขึ้นมาคร่อมร่างฉันไว้ มือใหญ่จับข้อมือทั้งสองข้างของฉันเอาไว้แน่น ยิ่งฉันดิ้นแรงมากเท่าไรเขาก็จับฉันแรงมากขึ้นจนข้อมือฉันคงแดงไปแล้วแน่ๆ พรึ่บ! ”ถ้าไม่อยากให้ฉันรุนแรงก็อย่าดิ้นมาก” ”ปล่อย!” ฉันไม่ฟังที่เขาพูดอะไรทั้งนั้นในเมื่อเขากำลังเอาเนคไทมามัดข้อมือฉันไว้กับหัวเตียงแบบนี้ทำไมฉันต้องทำตามด้วย! “หึ แรงดีเหมือนกันนี่” ผลั่ก! “อย่ามายุ่งกับฉัน!” ฟินิกซ์ส่งสายตาดุดันมาให้ฉันทันทีที่ฉันใช้เข่ากระแทกเข้าไปที่หน้าท้องที่มีซิกแพคของเขา สักพักเขาก็ถอดเสื้อยืดสีขาวออกแล้วโยนทิ้งลงไปข้างเตียงด้วยความโมโห ฉันมองซิกแพคของฟินิกซ์ที่มีรอยแดงเล็กน้อยแล้วเงยขึ้นไปมองสบสายตากับเขา คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิง สายตาที่มองมาเหมือนโกรธ โมโหและเกลียดชัง ทำให้ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง น้ำตามันเหมือนจะไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ หมับ! ”บอกว่าอย่าดิ้น” “ปล่อยฉัน อื้อ!” มือใหญ่จับปลายคางฉันไว้แน่น ฟินิกซ์บังคับให้ฉันหันหน้าไปสบสายตาคมกริบดุดันของเขา รอยยิ้มมุมปากทำให้เขาดูน่ากลัวจนฉันตัวแข็งทื่อ ”อยากรู้เหมือนกันว่าจะดิ้นได้นานแค่ไหน” “ไม่นะ ปล่อย อ๊ะ อื้อ!” ริมฝีปากอุ่นร้อนของฟินิกซ์กดจูบลงมาที่ริมฝีปากของฉัน เขาบดขยี้จนฉันเจ็บแสบริมฝีปาก ลิ้นเปียกชื้นดุดันเข้ามาในโพรงปากของฉันอย่างง่ายดายถึงแม้ว่าฉันจะพยายามขัดขืนมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถสู้แรงของฟินิกซ์ได้ แคว่ก! ฉันเบิกตาโพรงทันทีที่รับรู้ได้ว่าเสื้อของฉันโดนฟินิกซ์ฉีกกกระชากออกจากตัว สายบราสีดำตกลงมาที่แขนข้างหนึ่ง อยากจะผลักเขาข้อมือก็ถูกมัดกับกับหัวเตียงแน่นขยับแทบไม่ได้ ให้ตาย! “หึ ไม่ดิ้นแล้วเหรอ” ฟินิกซ์ถอนริมฝีปากออกแล้วเขาก็จูบเม้มลงไปที่เนินอกของฉันแรงๆ ”ปล่อยฉัน!” ฉันสะดุ้งกับสัมผัสของเขา แล้วตั้งสติให้กับตัวเองอีกครั้ง ยกขาดิ้นไปมาจนเหนื่อยหอบ “ไม่ปล่อย“ ”ฉันไม่ได้หักหลังเฟรย่า ฉันไม่ได้ทำ!” “เหรอ ฉันเบื่อที่จะฟังคำโกหกของเธอแล้ว” ฟินิกซ์คร่อมร่างฉันไว้ ดันขาฉันออกแล้วแทรกตัวเข้ามาอยู่ตรงกลาง ฉันสู้แรงคนอย่างเขาไม่ได้เลยบ้าจริง! ”ฉันไม่ได้โกหก!” “หึ เลิกแก้ตัวแล้วมาสนุกกันดีกว่าเมเบล” “สนุกบ้าอะไร ฉันไม่สนุกอะไรทั้งนั้น ปล่อยนะ!” ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามดิ้นให้หลุดออกไปจากตรงนี้ พลิกตัวหันหลังให้เขาในตอนที่ฟินิกซ์เผลอ เจ็บแสบข้อมือจนน้ำตาคลอ ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ “ชอบท่านี้ก็ไม่บอก” หมับ! “อะ..อะไร ไม่นะ!” มือใหญ่เอื้อมมากอบกุมหน้าอกฉันไว้ผ่านบราสีดำ ฟินิกซ์จับตัวฉันให้นั่งลงไปบนตักแกร่งของเขา แผ่นหลังของฉันสัมผัสแนบสนิทกับแผงอกกำยำเปลือยเปล่าของฟินิกซ์อย่างไม่ทันตั้งตัว กว่าจะตั้งสติได้ตะขอบราก็ถูกปลดออกจากตัวด้วยความรวดเร็ว ”หึ ตัวสั่นทำไม” ฉันกัดริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น รู้สึกเจ็บใจที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ จะดิ้นหนีหรือผลักไสเขาออกไปก็ทำไมได้! ”ปล่อยฉัน!” “บอกไปแล้วไง ว่าให้เรามาสนุกด้วยกัน” เสียงเข้มต่ำกระซิบข้างหูอย่างกวนประสาท ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เม้มปากเอาไว้พยายามไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา “ฉันไม่สนุก อ๊ะ มะ..ไม่!” นิ้วเรียวยาวสกิดหมุนวนรอบยอดอกจนฉันเผลอครางออกมา มือใหญ่อีกข้างเอื้อมมาลูบไล้หน้าท้องแบนราบของฉันแล้วไล่เข้ามาในกางเกงจนฉันสะดุ้งสุดตัวรีบลุกหนีเขาทันที “จะไปไหน“ “ฟินิกซ์ หยุดเถอะ” น้ำตาที่ฉันพยายามกลั้นเอาไว้ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ฉันเริ่มกลัวจนตัวสั่นกว่าเดิมอีก หมับ! “หึ ฉันไม่หยุด” ฟินิกซ์จับฉันพลิกนอนหงายโดยที่เขาคร่อมร่างฉันไว้ มือใหญ่ค่อยๆถอดกางเกงขาสั้นของฉันออกพร้อมกับอันเดอร์แวร์ จนตอนนี้ร่างกายฉันเปลือยเปล่าต่อหน้าเขา น่าอายจนอยากจะหนีไปให้พ้นๆจากตรงนี้! “ฟินิกซ์ อย่าทำแบบนี้“ ฉันบอกเขาเสียงสั่นเคลือ น้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อนิ้วเรียวยาวค่อยลูบไล้ขึ้นรถตรงจุดอ่อนไหวกลางกาย ฉันขยับตัวหนีแต่เขาก็จับยึดเอวบางของฉันเอาไว้แน่น ”อ้อนวอนตอนนี้ก็สายไปแล้วเมเบล” “อึก..อื้อ!“ ฉันเกร็งตัวทุกส่วนทันทีที่นิ้วเรียวยาวสอดแทรกเข้ามาภายในช่องทางรักของฉัน มันเจ็บ..มันอึดอัดและเจ็บหน่วงปนกันไปหมด ฉันขยับสะโพกหนีฟินิกซ์อีกครั้ง แต่พอฉันทำแบบนั้นนิ้วเรียวยาวของฟินิกซ์ก็กระแทกกระทั้นเข้ามาภายในตัวฉันแรงขึ้นจนฉันจุกและเจ็บแสบภายใน ”ครั้งแรกเหรอ ไม่น่าเชื่อ” คำพูดดูถูกของฟินิกซ์ทำให้ฉันมองเขาพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างโกรธเคือง ฉันไปทำอะไรให้เขา ทำไมถึงต้องมาเจอเรื่องเลวทรามแบบนี้! ”นายมันสารเลว!“ ”หึ แค่นี้มันยังน้อยไป” “อ๊ะ..ไม่!” ฉันหายใจเฮือกใหญ่เมื่อนิ้วเรียวยาวของฟินิกซ์ถอดถอนออกจากภายในตัวฉันอย่างรวดเร็ว และเขาก็รูดซิปกางเกงยีนขายาวของตัวเองออก นั่นทำให้ฉันต้องดิ้นพล่านเอาตัวรอดอีกครั้ง “ดิ้นไปเธอก็หนีฉันไม่พ้นหรอกเมเบล” “ฮึก...ปล่อยฉันไปเถอะนะ” ฉันหมดหนทางจะขัดขืนจนต้องร้องบอกเขาทั้งน้ำตาด้วยเสียงสั่นเคลือไม่ต่างจากเนื้อตัวที่กำลังสั่นเทาไม่หยุด ”บีบน้ำตาเก่งดีหนิ” ฟินิกซ์มองฉันด้วยดวงตาดุดันคู่สวย แต่สายตาของเขามันบอกได้ว่าความเกลียดชังมีมากขนาดไหน เขาเกลียดฉันในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ เกลียดฉันเพราะความเข้าใจผิดและความคิดบ้าๆเลวทรามของเขาทั้งนั้น! “ฟินิกซ์...อย่าทำฉัน อื้อ!” ฉันแทบลืมหายใจเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาภายในช่องทางรักของตัวเอง ฉันหันหน้าหนีเขา หลับตาข่มอารมณ์ทุกอย่างไว้นิ่ง ความเจ็บแสบ อึดอัดและหน่วงภายในมันทำให้ฉันต้องกลั้นเสียงทุกอย่างลงคอไปอย่างยากลำบาก ฉันอยากจะคิดว่าเรื่องเลวร้ายนี่คือความฝัน แต่มันไม่ใช่! ”อืม” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าครางอยู่ในลำคอ ฉันกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้แน่นจนเลือดซิบที่มุมปาก ความเจ็บแสบจากการที่ฟินิกซ์สอดใส่แก่นกายใหญ่เข้ามาอย่างจาบจ้วงทำให้ฉันรู้สึกเหมือนร่างกายจะฉีกขาดออกเป็นสองส่วน ปวดหนึบจนเรี่ยวแรงหายไปหมด “ฉ..ฉันเจ็บ เอามันออกไป!” เสียงที่คิดว่าตะโกนออกไปดังมากแล้ว แต่มันกลับแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินแทน “หึ เจ็บแค่นี้มันยังน้อยกว่าสิ่งที่เธอทำกับน้องสาวของฉัน!” “อ๊ะ...ฉันเจ็บฟินิกซ์ ฮึก” ร่ายกายฉันขยับขึ้นลงไปตามจังหวะที่ฟินิกซ์กระแทกแก่นกายของเขาเข้ามาอย่างรุนแรง มือใหญ่บีบเค้นหน้าอกของฉันไปมาสลับกับบดขยี้ยอดอกที่แข็งชูชันแรงๆ และริมฝีปากของเขาที่ดูดดึงยอดอกอีกข้าง เขาขบเม้มจนผิวฉันคงเป็นรอยไปหมดแล้วแน่ๆเพราะมันเจ็บจนเผลอร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ฉันไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานขนาดไหน รู้เพียงว่าตอนนี้ฉันหมดแรงและเอาแต่นอนนิ่งอยู่บนเตียงใหญ่ น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสายโดยที่ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ฟินิกซ์ถอดถอนแก่นกายใหญ่ของเขาออกจากตัวฉันแล้วแก้เนกไทที่มัดข้อมือฉันออก ฉันรีบหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายเปล่าเปลือยของตัวเอง รอยแดงตามร่างกายทำให้ฉันรู้สึกรังเกลียดเขามากยิ่งขึ้น ผู้ชายสารเลว! “หึ” มือใหญ่ของฟินิกซ์หยิบโทรศัพท์มือถือของฉันขึ้นมาแล้วเอาไปไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนของตัวเองพร้อมกับมองมาทางฉันด้วยสายตาดุดัน ”เอาคืนมานะ!” ฉันพยายามลุกขึ้นไปแย่งโทรศัพท์มือถือของตัวเองกลับคืนมาแต่ร่างกายช่วงล่างมันเจ็บแสบจนขยับแทบไม่ได้ ขาทั้งสองข้างสั่นและอ่อนแรงล้มลงไปที่พื้นข้างเตียงอย่างน่าอาย “เธอหนีฉันไปไหนไม่ได้หรอกเมเบล” “นายจะทำอะไร” ฉันเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างหวั่นๆ ฟินิกซ์จับปลายคางฉันเอาไว้แน่นแล้วยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์และน่ากลัวเหมือนสัตว์ร้ายไม่มีผิด “ฉันยังเล่นสนุกกับเธอไม่พอใจเลย“ “นายมันเลวฟินิกซ์!” ฉันเม้มริมฝีปากเอาไว้อย่างโกรธเคือง หันหน้าหนีใบหน้าหล่อเหลาแต่ร้ายกาจของฟินิกซ์ไปอีกทาง ฉันไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากโดนเขาสัมผัสอย่างป่าเถื่อนแบบนี้! “หึ ปากดีให้ได้ตลอด” เจ้าของเสียงทุ้มต้ำพูดจบก็เดินไปหยิบเสื้อยืดสีขาวขึ้นมาสวมไว้แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องนอนทันที ฉันพยุงร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของตัวเองไปหยิบเสื้อผ้าเพิ่อจะมาสวม แต่เสียงหน้าห้องกลับทำให้ฉันต้องทิ้งทุกอย่างลงแล้วรีบเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว ปึงๆ! ”ฟินิกซ์นายจะทำอะไร เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!” ฉันหมุนลูกบิดประตูหลายครั้งสลับกับทุกบานประตูเสียงดังทันทีที่ได้ยินเสียงล็อกจากด้านนอก ฉันกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเองไว้อย่างยากลำบาก เขาคิดจะทำอะไรกับฉันอีก แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ... มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ฉันไม่เคยหักหลังน้องสาวของเขาสักนิด ฉันไม่เคยคิดจะหักหลังหรือทำให้เฟรน่าเพื่อนรักของฉันต้องเจ็บเลยแม้แต่น้อย เรื่องที่เขาพูดมาทั้งมันฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคือเรื่องอะไร ทำไมเขาถึงต้องโกรธเกลียดฉันขนาดนี้ ทำไมต้องทำเรื่องเลวทรามระยำกับฉันแบบนี้ด้วย! หลังจากที่ฉันทุบประตูห้องของเขาอยู่นานจนเจ็บมือไปหมด ทำยังไงประตูก็ไม่เปิดออกมาสักที ฉันเลยได้แต่เดินกลับมาสวมเสื้อผ้าของตัวเองที่อยู่ในห้องนอนแล้วนั่งคิดต่างๆนาๆ ทั้งเรื่องที่ฉันไปทำอะไรเฟรย่าจนฟินิกซ์ต้องโกรธแค้นฉันขนาดนี้และเรื่องที่เขาเพิ่งจะทำเลวๆกับฉันเมื่อกี้ คิดจนปวดหัวไปหมด ปึง! เสียงประตูเปิดออก ฉันรีบเดินไปด้วยความรวดเร็วแต่ก็ต้องหยุดอยู่ที่เดิมทันทีที่ฟินิกซ์เดินเข้ามาพร้อมกับแม่บ้านที่กำลังถือถาดข้าวพร้อมกับกระเป๋าผ้าใบใหญ่ จากนั้นเขาก็ล็อกห้องหลังจากที่แม่บ้านวางทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ฉันได้แต่ยืนงงกับเหตุการณ์ที่รวดเร็วตรงหน้าจนลืมเรื่องที่ต้องรีบวิ่งออกไปจากที่นี่ ”นี่อะไร” ฉันชี้ไปที่กระเป๋าผ้าและถาดข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาภายในห้องรับแขกของห้อง “เสื้อผ้าและของใช้ของเธอ” ฟินิกซ์พูดด้วยเสียงดุดันเรียบนิ่ง จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปที่ห้องทำงานโดยไม่อธิบายอะไรอีก ”เอามาทำไม ฉันจะกลับบ้าน ปลดล็อกห้องเดี๋ยวนี้นะ” ฉันเดินตามฟินิกซ์ไปที่ห้องทำงานแล้วยืนมองเขาด้วยความขุ่นเคือง ถึงแม้ว่าสภาพร่างกายตอนนี้ของฉันจะแย่แค่ไหน จิตใจจะดิ่งลงเหวจนอย่างจะร้องไห้ออกมาก็ต้องกลั้นมันเอาไว้เท่าที่จะทำได้ ”ไม่ แล้วก็อย่ามาสั่งฉันเมเบล” เสียงเข้มต่ำของฟินิกซ์ทำให้ฉันต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ยิ่งสายตาคมที่กำลังมองมามันยิ่งทำให้ฉันต้องกัดริมฝีปากล่างตัวเองเอาไว้แน่นเพราะทำอะไรเขาไม่ได้สักอย่าง อยากจะเข้าไปทุบตีให้เขาเจ็บเท่าที่ฉันเจ็บบ้างก็ทำไม่ได้ น่าอึดอัดชะมัด! ”ฉันจะกลับบ้าน” ฉันพูดด้วยเสียงที่เริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ทำไมฉันต้องมาเจอคนเลวๆแบบฟินิกซ์ด้วยก็ไม่รู้ให้ตายสิ ”หยุดพูดแล้วไปกินข้าวซะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน” “ไม่กิน” ฉันพูดแล้วกอดตัวเองเอาไว้แน่น ลูบต้นแขนทั้งสองข้างไปมา ทำไมมันถึงหนาวแบบนี้ ตุบ! หมับ! ”อย่าอวดดีกับฉันเมเบล ไว้ฉันเบื่อเธอเมื่อไร ฉันจะปล่อยเธอไปเอง” ฟินิกซ์วางปากกาลงที่โต๊ะทำงานเสียงดังแล้วเดินมาบีบปลายคางฉันให้หันไปสบสายตาคมดุดันของเขา ฉันเจ็บจนต้องนิ่วหน้าและร้องออกมาเสียงดัง “ฉะ..ฉันเจ็บ อึก” “ทำตามที่ฉันสั่ง แล้วเธอจะไม่เจ็บตัวมากไปกว่านี้” ฟินิกซ์ปล่อยมือใหญ่ออกจากปลายคางของฉันแล้วเขาก็เดินไปนั่งทำงานของตัวเองต่อ ฉันกำมือเอาไว้แน่น จ้องมองเขาด้วยความโกรธและเจ็บใจไปพร้อมกัน “คนสารเลว” พูดจบฉันก็เดินออกไปที่โซฟาห้องรับแขก ค่อยๆนั่งลงไปที่โซฟาเพราะตรงจุดอ่อนไหวของฉันมันเจ็บแสบไปหมด ขนาดตอนเดินยังแทบน้ำตาไหล น่าอายและน่าสมเพชตัวเองชะมัด! ฉันนั่งเปิดทีวีดูด้วยจิตใจห่อเหี่ยว สมองไม่ได้สนใจหนังที่กำลังฉายบนจอทีวีเลยแม้แต่น้อย มันเอาแต่คิดว่าตอนนี้น้าคริสติน่าคงจะเป็นห่วงฉันอยู่แน่ๆ ฉันไม่เคยหายไปโดยไม่บอกแบบนี้เลยสักครั้ง เอนตัวลงนอนบนโซฟาใหญ่แสนนุ่มอย่างหมดแรง ข้าวที่วางไว้ด้านหน้าฉันไม่ได้แตะมันสักนิด กินไม่ลง ไม่หิว ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น หมับ! ”ไปอาบน้ำ” ฉันสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นและต้องนิ่วหน้าทันทีเพราะแรงบีบจากมือใหญ่ที่กำลังจับต้นแขนฉันเอาไว้แน่น ฟินิกซ์กระชากฉันขึ้นจากโซฟา นี่ฉันเผลอหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอ จากที่ฟ้ายังคงสว่างตอนนี้ฟ้าที่มองจากทางหน้าต่างได้เปลี่ยนเป็นมืดสนิท “ฉันเจ็บ” ฟินิกซ์ไม่ฟังที่ฉันพูดสักนิด เขาเดินลากฉันเข้ามาในห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว ฉันยืนนิ่งไม่ขยับไปไหนหลังจากที่เขาปล่อยมือใหญ่ออกจากต้นแขนของฉันแล้ว “ยืนบื้ออยู่ทำไม บอกให้อาบน้ำ” เสียงเข้มต่ำดูหงุดหงิดขึ้นและเขากำลังส่งสายตาคมจ้องฉันอย่างข่มขู่ “มันหนาว” ฉันบอกพลางกอดตัวเองเอาไว้ ทำไมหนาวแบบนี้ หมับ! ”อย่าสำออย!” ”อ๊ะ...ฟินิกซ์” ฟินิกซ์กระชากข้อมือฉันแล้วดันเข้าไปจนแผ่นหลังฉันกระแทกเข้ากับผนังห้องน้ำเย็นเฉียบอย่างแรง ฉันกัดริมฝีปากล่างไว้เพื่อข่มความเจ็บ บ้าจริง! ซ่า! ”ฉันหนาว...ฟินิกซ์” มือใหญ่จับฝักบัวอาบน้ำแล้วเปิดน้ำจ่อลงมาบนหัวฉัน น้ำเย็นๆทำให้ตัวฉันสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาจะฆ่าฉันให้ตายเลยหรือไง ”เลิกสำออยสักที!” ฉันสำออยที่ไหน หนาวจะตายอยู่แล้วให้ตายเถอะ ตุบ! แค่วก! ”มะ..ไม่ อย่านะ” ฉันขยับตัวหนีมือใหญ่ของฟินิกซ์ที่กำลังฉีกเสื้อผ้าของฉันที่มันมีสภาพยับเยินอยู่แล้วให้ยิ่งแย่เข้าไปมากกว่าเดิม “ไม่อยากอาบเองสินะ” “นายจะทำอะไร ไม่นะฟินิกซ์” ฟินิกซ์ฉีกเสื้อผ้าที่ฉันสวมอยู่ออกอย่างไม่มีชิิ้นดี ผิวฉันเป็นรอยแดงเต็มไปหมดเพราะแรงกระชากของเขา มันรู้สึกแสบทันทีที่น้ำเย็นๆมากระทบผิวอีกครั้ง “อึก...พอแล้ว” ฉันยกมือขึ้นไปเกาะบ่ากว้างของฟินิกซ์ไว้แน่น รู้สึกปวดหัวและไม่มีเรี่ยวแรงจนยืนแทบไม่ไหว ท่อนแขนแข็งแรงโอบรอบเอวบางเปลือยเปล่าฉันไว้แล้วดึงเข้าไปใกล้แผงอกกำยำของเขา “แค่นี้มันไม่พอหรอกเมเบล” “ฟินิกซ์อย่า...อื้อ!” ริมฝีปากอุ่นร้อนของฟินิกซ์โน้มลงมาประกบกับริมฝีปากของฉันด้วยความรวดเร็ว ลิ้นหนาดุนดันเข้ามาตวัดลิ้นเล็กของฉันอย่างเร่าร้อน มือของฉันพยายามดันบ่ากว้างให้ออกห่าง แต่ฟินิกซ์กลับจับข้อมือฉันทั้งสองข้างเอาไว้เหนือหัว กดเอาไว้กับผนังห้องน้ำด้วยมือใหญ่เพียงข้างเดียว พรึ่บ! เมื่อเห็นว่าฉันที่พยายามผลักเขาออกเริ่มหยุดดิ้นเพราะเรี่ยวแรงได้หายไปหมด มือใหญ่ก็จับรอบเอวบางของฉันแล้วยกตัวฉันขึ้นไปนั่งบนเคาร์เตอร์ที่ล้างหน้า จากนั้นร่างกายสูงใหญ่ก็เข้ามายืนแทรกกลางระหว่างขาฉันทั้งสองข้าง ฉันสะดุ้งทันทีที่มือใหญ่สัมผัสกับต้นขาแล้วค่อยๆดันออกจากกันช้าๆ “หึ ในเมื่ออาบเองไม่ได้ ฉันก็จะอาบให้เธอเอง” ”ยะ...อย่า อื้อ” ใบหน้าของฟินิกซ์ค่อยๆโน้มเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาจูบซุกไซ้ซอกคอลงไปจนถึงหน้าอกเปล่าเปลือยของฉัน ลิ้นเปียกชื้นตวัดดูดดึงยอดอกที่แข็งชูชันไปมา เขาขมเม้มหยอกเย้าตุ่มไตทั้งสองข้างจนฉันได้แต่หลับตาแหงนหน้ากัดริมฝีปากเอาไว้แน่น สักพักฉันก็รับรู้ถึงลิ้นร้อนที่จูบไล้เลียลงไป ยังจุดเสียวกลางกาย ลิ้นร้อนของฟินิกซ์สอดแทรกเข้ามาภายในร่างกายของฉัน เขาตวัดไปมาจนฉันต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ และมือใหญ่ก็จับต้นขาฉันทั้งสองข้างตั้งชันขึ้นเพื่อเขาจะได้ล้วงล้ำลิ้นเปียกชื้นเข้ามาได้มากกว่าเดิม ฉันหายใจติดขัดทันที ในหัวมึนเบลอ หัวใจเต้นรัวเร็วจนแทบคลั่ง อาการปวดหัวก็เริ่มรุนแรงขึ้น รู้สึกหนักเปลือกตาจนไม่สามารถต่อต้านการกระทำของฟินิกซ์ได้อีก เขาจะทำอะไรกับร่างกายของฉันก็ทำเลย...

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.0K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.5K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
31.4K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.7K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
4.5K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook