แก๊งเพื่อนกับงานเลี้ยงปีใหม่

1643 Words
เสียงหัวเราะดังสนั่นโต๊ะ เมื่อทุกคนเริ่มปล่อยตัวตามอารมณ์หลังดื่มเครื่องดื่มไปหลายแก้ว เกดที่หน้าแดงเพราะความเมาเอนตัวไปทางน้ำหวานพร้อมกับหัวเราะพลางพูดว่า “มีคร้างนึงนะ อย่าหาว่าเม้ามอยเลย อิเจ๊มือทองของล้าวววว—” น้ำหวานที่กำลังจิบเครื่องดื่มสะดุ้งน้อยๆ พลางหัวเราะไปด้วย “อุ๊ย! เม้ากันทำไมเนี่ย!” “ก็เรื่องมันต้องเล่าอะสิ” เกดยานเสียงเพราะความเมา ก่อนจะหันไปทางจ๋าย “ใช่ปะจ๋าย?” “ใช่ๆ!” จ๋ายรับลูกทันที “หมกตัวอยู่ในห้องเขียนนิยาย ข้ามวันข้ามคืน ไม่กิน ไม่นอน! เกือบถีบประตูเข้าไปแล้ว ถ้าลุงชุนไม่ห้ามซะก่อน!” เสียงหัวเราะครืนขึ้นอีกระลอกเมื่อเกดกับจ๋ายพร้อมใจกันหันไปล้อชุน “ใช่ไหมคะลุงชุน” ชุนที่กำลังจิบเบียร์อย่างสงบ หันมามองพวกเขาด้วยสายตาดุๆ แต่ไม่พูดอะไร เพียงถอนหายใจ “เรียกฉันว่าลุงอีกทีสิ ฉันจะเขียนชื่อจริงพวกแกให้เป็นฆาตกรในหนังสือฉันคอยดู” “โธ่ ลุงชุน....จายเย็นนน่า” มีนาเอ่ยเสริมขณะที่ตัวเองเริ่มเอนตัวไปมา “แต่จะว่าไปนะ อิเจ๊เราอ่ะ นอนไม่นอน กินไม่กิน แล้วดูดิ สวย หน้าเด็กงี้ ไม่แฟร์ว่ะ ให้ทายๆ เจ่เจ๊เราอายุเท่าไหร่ พี่ธาม” ธามที่นั่งยิ้มเงียบๆ มาตลอดหันมามองมีนา และจากนั้นก็หันไปที่น้ำหวาน น้ำหวานที่กำลังหัวเราะหน้าแดงก่ำ ดูเหมือนเริ่มจะเมาเต็มที เธอยิ้มกว้างจนตาหยี รอยยิ้มที่ดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติทำให้เขาเผลอมองนานกว่าที่ควร “เอ้า ทายสิพี่ธาม” จ๋ายเร่ง พลางเคาะโต๊ะ ธามหัวเราะเบาๆ “น่าจะ… 27? 28?” ทันใดนั้น มีนาลุกขึ้นพลางโบกมืออย่างร่าเริง เสียงสูงดังลั่น “โนวววว.....โน้วววว....” เธอขยับนิ้วชี้ส่ายไปมาด้วยท่าทางแบบคนเมา “ไม่ใช่...เอาใหม่ๆ....” “ยัยเกดเร้าสิ ให้พี่ธามทายใหม่....” มีนาเรียกเกด ธามหันไปมองน้ำหวานอีกครั้ง เธอกำลังหัวเราะจนตัวโยน ใบหน้าแดงก่ำและดวงตาที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน “งั้น… 29?” จ๋ายหัวเราะลั่นจนแทบจะล้มลงจากเก้าอี้ “ฮ่าๆๆๆ ไม่ใช่ๆๆๆ” มั่นที่นั่งหัวเราะอย่างสงบมาตลอด ส่ายหน้าเบาๆ พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “41 เว้ยเพื่อน” เสียงรอบโต๊ะเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงหัวเราะจะระเบิดขึ้นอีกครั้ง “จริงเหรอ.....” ธามอุทานขึ้นพร้อมหัวเราะ แต่ดวงตาของเขายังคงจับจ้องที่น้ำหวาน น้ำหวานที่ยิ้มและหัวเราะอย่างไม่สนใจคำพูดใดๆ ดูมีชีวิตชีวาอย่างที่เขาไม่เคยเห็นในใครมาก่อน และในขณะนั้น… เขาเข้าใจว่าทำไมเธอถึงดึงดูดเขาได้มากขนาดนี้ เธอไม่ได้แค่สวยหรือดูเด็กกว่าวัย แต่เป็นความอบอุ่นและความจริงใจที่เปล่งประกายออกมาจากตัวเธอ หลังจากเสียงหัวเราะและบทสนทนาเมามายจบลง น้ำหวานที่ดื่มจนหน้าแดงจัดและเริ่มมีอาการเซเล็กน้อย ค่อยๆ ลุกขึ้นจากโต๊ะพร้อมกับเสียงของจ๋ายที่พูดตามหลังด้วยความเป็นห่วง “เจ่เจ๊! เดี๋ยวผมพาไปส่งไหม?” น้ำหวานยกมือขึ้นโบกเบาๆ พลางหัวเราะ “ไม่เป็นไร…เจ่เจ๊เดินไหว” เสียงของเธอยานคางอย่างเห็นได้ชัด เธอหันไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ข้างเก้าอี้ แต่กลับจับผิดข้างจนทำให้กระเป๋าตก “โอ๊ยยย…” เธออุทานเบาๆ ก่อนจะก้มลงหยิบ กระนั้นการก้มในสภาพที่เริ่มเมาทำให้เธอเสียสมดุล เธอเซเล็กน้อย จ๋ายรีบลุกขึ้น แต่มั่นดึงแขนเขาไว้ “ปล่อยเถอะ เดี๋ยวดูอยู่ห่างๆ” ธามที่ยังนั่งอยู่มองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มบางๆ เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงลุกขึ้นตามเธอไปช้าๆ ระยะห่างพอสมควร เขาเห็นน้ำหวานที่เดินโซเซไปตามทางกลับที่พัก ท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับของแคมป์ น้ำหวานเดินอย่างไม่มั่นคง แต่ท่าทางของเธอกลับดูเป็นธรรมชาติอย่างประหลาด เธอหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง ขณะมองดาวบนฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง “ดาวสวยจัง…” เธอพึมพำ พลางยื่นมือออกไปเหมือนจะคว้ามัน “สวยเหมือนในนิยายเราเลย” เธอหันกลับไปมองทางเดินที่ทอดยาวด้วยรอยยิ้ม แต่การก้าวเท้าไม่มั่นคงทำให้เธอเสียหลักเล็กน้อยและเซไปข้างทาง เธอหัวเราะออกมาอีกครั้งด้วยความขบขันในตัวเอง “โอ๊ย… ขอโทษนะคะ ทางเดิน” เธอพูดกับพื้นเหมือนมันมีชีวิต ธามที่มองอยู่ไกลๆ เผลอยิ้มกว้างเมื่อเห็นความน่ารักแบบปล่อยตัวของเธอ เขาก้าวเท้าตามไปช้าๆ จนกระทั่งเห็นว่าเธอหยุดเดินและยืนนิ่งอยู่กลางทาง “เอ่อ…” ธามตัดสินใจเรียกเบาๆ เมื่อเห็นเธอเริ่มโอนเอนเหมือนจะล้ม น้ำหวานหันมามองเขา ใบหน้าที่แดงจัดจากการดื่มทำให้ดวงตาของเธอเหมือนแวววาวขึ้นในแสงไฟ เธอยิ้มกว้าง “พี่…นักร้อง!” เธอพูดเสียงสูงขึ้นเล็กน้อย “มาทำไมคะ? ไม่ต้องห่วง ฉันเดินไหว…” ธามหัวเราะเบาๆ “ผมไม่ได้ห่วงครับ แค่อยาก…เดินเล่น” เขาตอบกลับ พลางยกมือเกาหลังคอแก้เก้อ น้ำหวานยักไหล่เหมือนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ “งั้นก็…ตามใจ” เธอพูดก่อนจะหันกลับไปเดินต่อ ธามยังคงเดินตามหลังเธอ เว้นระยะพอสมควร เขาเฝ้ามองเธอที่แม้จะเมาแต่ก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่เป็นธรรมชาติ เธอเป็นเหมือนภาพวาดที่เคลื่อนไหวได้ งดงามแต่เต็มไปด้วยความลึกลับ เมื่อถึงที่พัก น้ำหวานหันกลับมามองเขาอีกครั้ง “ขอบคุณนะ…ที่เดินเล่นด้วยกัน” เธอยิ้มเล็กๆ ก่อนจะเปิดประตูห้องพักเข้าไป ธามยืนอยู่ตรงนั้นอีกครู่หนึ่ง มองประตูที่ปิดลงพร้อมกับความคิดที่สับสนในใจ ทำไมเธอถึงดึงดูดเขาได้มากขนาดนี้ …………………………… แสงแดดยามเช้าส่องลอดม่านเข้ามาในห้อง น้ำหวานค่อยๆ ลืมตาขึ้น พลางกะพริบตาเพื่อปรับสายตา ความรู้สึกแรกที่เธอสัมผัสคือความอึดอัดในใจอย่างประหลาด และทันทีที่เธอเหลือบมองไปข้างเตียง เธอก็แทบสะดุ้ง ธาม กำลังนั่งพิงผนังหลับอยู่ข้างเตียง ใบหน้าของเขาดูสงบนิ่ง ผมยุ่งเล็กน้อยจากการนอนหลับในท่าที่ไม่ค่อยสบาย น้ำหวานผลุดลุกขึ้นทันที เสียงเคลื่อนไหวทำให้ธามงัวเงียตื่น เขายกมือขึ้นขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะหันมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความง่วง “ตื่นแล้วเหรอครับ…” เขาเอ่ยเบาๆ น้ำเสียงนุ่มทุ้มแบบคนเพิ่งตื่น แต่ยังคงมีความอบอุ่นแฝงอยู่ น้ำหวานมองเขาด้วยความตกใจ พลางกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องเพื่อหาคำตอบให้ตัวเอง นี่ฉันทำอะไรลงไปอีกแล้ว… “จำเมื่อคืนได้ไหมครับ?” ธามถาม ขณะมองเธอด้วยแววตาที่คล้ายกำลังสังเกต น้ำหวานที่ยังคงเลิ่กลั่กค่อยๆ ขมวดคิ้ว เธอเม้มปากแน่นก่อนจะถอนหายใจยาว “เอ่อ…อีกแล้วเหรอ…” เธอพึมพำเบาๆ ก่อนจะเผลอพูดออกมา “อะไรนะครับ?” ธามถาม น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตาที่ง่วงงุนเมื่อครู่กลับสดใสขึ้นทันที น้ำหวานเม้มปากแน่น ก่อนจะพยายามตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “คือ…เมาแล้วเข้าห้องผิดทุกทีค่ะ…” ทันทีที่ได้ยิน ธามชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง อะไรนะ… เธอเมาแล้วเข้าห้องผิดทุกที? น้ำหวานที่ยังคงจับผ้าห่มไว้แน่น พยายามปิดบังความเขินอายของตัวเอง เธอค่อยๆ ผ่อนผ้าห่มที่ปิดสูงครึ่งปากลงเล็กน้อย “ค่ะ…ขอโทษนะคะ เมาแล้วแบบนี้ทุกทีเลย…” ธามฟังแล้วนิ่งไปชั่วขณะ คำพูดของเธอเหมือนกระตุ้นบางอย่างในใจเขาโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกที่วาบขึ้นมาทั่วร่างกายไม่ใช่ความหงุดหงิดหรือความไม่พอใจ แต่กลับเป็น…ความหวง เขามองน้ำหวานที่นั่งอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเธอยังแดงเรื่อจากความเขินอาย ดวงตาที่หลบสายตาเขาทำให้เธอดูอ่อนโยนและไร้เดียงสาในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน “เมาแล้วเข้าห้องผิดทุกทีเลยเหรอครับ?” เขาถาม น้ำเสียงเจือความขบขันเล็กน้อย แต่ในใจกลับไม่ได้ขำเลยแม้แต่น้อย น้ำหวานพยักหน้าเบาๆ “ค่ะ…เป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว…” ธามนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาเล็กๆ “แต่เมื่อคืนโชคดีนะครับ… ที่เข้ามาห้องผม” น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมามองเขาทันที ใบหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม “ขอโทษจริงๆ ค่ะ! ฉันไม่ได้ตั้งใจ…” “ไม่เป็นไรครับ” ธามรีบพูดแทรก “แต่…” เขาหยุดคำพูดไว้ ราวกับกำลังลังเลว่าจะพูดดีไหม แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบ ในใจของเขา… ความคิดวนเวียนไปมาว่า ถ้าเมื่อคืนนี้เธอไม่ได้เข้ามาที่ห้องของเขา แต่เป็นห้องของคนอื่นล่ะ? ความคิดนั้นทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างประหลาด หัวใจของเขายิ่งเต้นแรงขึ้นเมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นั้น นี่เราหวงเธอเหรอ… ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานเอง… น้ำหวานลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว “ขอโทษอีกครั้งนะคะ! ฉันจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกแน่นอน!” เธอพูดพลางโค้งหัวเบาๆ “ครับ…” ธามตอบกลับพร้อมรอยยิ้มบางๆ แต่ในใจกลับรู้ว่า… เขาอยากให้มันเกิดขึ้นอีก อยากให้เธอเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของเขาเสมอ เช้าวันนี้ แม้ทุกอย่างจะเริ่มต้นด้วยความเข้าใจผิด แต่สำหรับเขา มันคือจุดเริ่มต้นของความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะละเลยได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD