“แล้วนี่จะพาฉันไปไหน” เธอเห็นเขาขับรถมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองก็อดดีใจอยู่ลึกๆไม่ได้เพราะปกติแล้วบิดาไม่ค่อยอนุญาตให้เธอเข้ามาในเมืองบ่อยนัก
“ไปซื้อของเป็นเพื่อนฉันหน่อย พรุ่งนี้ฉันจะให้ช่างมาซ่อมบำรุงบ้านหลายจุดเลย” เพลิงบอกเธอพลางคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืนขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมองคนข้างกาย ชายหนุ่มไม่เคยต้องอดทนเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่สำหรับพราวตะวันแล้วเขากลับรู้สึกว่าต้องการรออย่างใจเย็น
“บ้านก็ดีมากแล้วทำไมต้องปรับปรุงอีกล่ะ” เธอก็เห็นว่าบ้านของเขาสวยดีไม่เห็นว่ามีอะไรต้องปรับปรุง
“แค่อยากทำให้สวยขึ้นแล้วก็แข็งแรงขึ้นเผื่อมีคนมาอยู่ด้วย” เขาพูดเป็นนัยทว่าเด็กสาวไร้เดียงสาอย่างเธอคงไม่เข้าใจ
“หมายถึงภรรยาของคุณหรอคะ” พราวตะวันถามออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร
“ฉันไม่มีเมีย ฉันเพิ่งหย่าไปไม่ถึงเดือนนี้เอง” เด็กสาวหันขวับไปมองเพลิงอย่างลืมตัวก่อนจะละสายตาออกจากเขา
“ฉันเสียใจด้วยค่ะ” เธอพูดเสียงเบาทว่าหัวใจกลับเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
“ส่วนมากทุกคนจะพูดคำๆนี้กับฉัน แต่ความจริงแล้วมันก็เป็นเพียงการเปลี่ยนสถานะทางนิตินัยเท่านั้น"
"หมายความว่ายังไงคะ?" เธอขมวดคิ้วสงสัย
"ก็หมายความว่าฉันกับเขาแต่งงานโดยที่ไม่ได้รักกัน พอถึงตอนหย่าจึงไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร" เพลิงอธิบาย
"อ๋อ แต่ฉันไม่เข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้หรอกค่ะ" เพลิงยิ้มน้อยๆเมื่อเธอพูดมีหางเสียงน่าฟังเป็นครั้งแรก
เพลิงใช้ระยะเวลาขับรถราวๆสามชั่วโมงกว่าจะมาถึงตัวเมืองก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเกือบถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดินแล้ว เขาจอดรถบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ
"ฉันคิดว่าฉันพลาดอีกแล้วล่ะ กว่าจะซื้อของกว่าจะกลับก็คงดึกอีก พ่อเธอต้องดุฉันแน่ๆ" เพลิงเดินอ้อมมาหาเธอซึ่งชิงเปิดประตูรถลงมาก่อนเขาเสียอีก
"ก็โทรไปบอกพ่อสิว่านายไม่ชินทางเลยมาถึงที่นี่ช้า เดี๋ยวขากลับฉันจะขับให้เอง" พราวตะวันขับรถบนถนนที่คดเคี้ยวแบบนี้ได้อย่างช่ำชอง
"เอาแบบนั้นก็ได้ รีบไปซื้อของเถอะดูเหมือนฝนฟ้ากำลังจะมา" เขาถือวิสาสะดึงข้อมือเรียวเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ยังไม่ทันไรฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
"ปล่อยได้แล้วค่ะ" เธอพยายามแกะมือเขาออก
"อย่าดื้อน่า เดินตามมา" เพลิงประสานมือของตนเข้ากับมือเรียวนุ่มของเธอโดยไม่สนใจอาการขัดขืนของเธอ
"ฉันไม่หนีไปไหนหรอก ปล่อยนะ" พราวตะวันไม่เคยต้องกายชายใดเช่นนี้ โดยฉะเพาะในที่สาธารณะแบบนี้ยิ่งทำให้เธอทำตัวไม่ถูก
"ปล่อยก็ได้ แต่..." เขาหรี่ตามองเธอ
"แต่อะไรอีกล่ะ!" หญิงสาวหน้ามุ่ย
"เรียกผมว่าคุณ แล้วก็แทนตัวเองว่าพราวหรือหนูถึงจะยอมปล่อย" เขาเองก็เปลี่ยนสรรพนามในการเรียกตนเองเช่นกัน
"ก็ได้ๆ คุณเพลิง ปล่อยพราวได้แล้ว" เธอพยายามดึงมือตัวเองกลับมาพลางมองไปรอบๆเพราะกลัวว่าจะมีใครมองมายังเธอ
"ค่ะด้วย ไม่เคยพูดกับผู้ใหญ่หรือยังไง" เขาแกล้งเอ็ดเธอเบาๆ
"ปล่อยได้แล้วค่ะคุณเพลิง" เธอทำตามอย่างว่าง่าย
"แบบนี้สิน่ารักขึ้นมาตั้งเยอะ" เพลิงยอมปล่อยมือเรียวแต่โดยดีทว่ากลับมองคนตัวเล็กข้างกายด้วยแววตากรุ้มกริ่มด้วยความลืมตัว
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
"อยากได้อะไรหรือเปล่า" เพลิงถามพราวตะวันหลังจากที่ซื้อของเสร็จ เธอเอาแต่เงียบหรือถามคำตอบคำจนชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้ามาทำท่าหมางเมินใส่เขาเช่นนี้มาก่อนในชีวิต
"อยากได้เยอะแยะมากมายเต็มไปหมดแต่ไม่มีตังค์" เธอกอดอกและทำทีเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
"ที่ถามก็เพราะจะซื้อให้นี่ไง" เพลิงบอก
"ไม่ค่ะ เอาไว้คุณจ่ายค่าจ้างฉัน...เอ่อ...พราวเมื่อไหร่ค่อยจะมาซื้อ" เธอไม่อยากติดค้างอะไรกับเขา
"ซื้อวันนี้แหละไหนๆก็มาแล้ว" เพลิงคาดคั้น
"แต่นี่มันสองทุ่มแล้วนะ ไหนคุณบอกว่ามีงานเลี้ยงคืนนี้ไงคะ" พราวตะวันกำลังคิดภาพขับรถฝ่าสายฝนบนถนนคดเคี้ยวเวลากลางคืนบนระยะทางร้อยกว่ากิโลเมตร มันคงทุลักทุเลน่าดู
"ก็ได้ๆ เดี๋ยวผมโทรหาคุณพายัพก่อน" มือหนาล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงและกดต่อสายไปยังพายัพทันที
"คุณเพลิง ลูกสาวผมอยู่กับคุณใช่หรือเปล่า?" น้ำเสียงของพายัพดูร้อนรนผิดปกติ
"ใช่ครับ มีอะไรหรือเปล่า" เพลิงถามกลับไปด้วยความเป็นห่วง
"ตอนนี้ทั้งฝนทั้งพายุเข้าอย่างหนักทำให้น้ำป่าไหลหลาก ถนนน่าจะขาดหลายเส้น กว่าจะได้ซ่อมก็คงพรุ่งนี้เช้า ผมเป็นห่วงยัยพราวมากนะครับ"
"ตอนนี้ผมอยู่ในตัวจังหวัดครับ พราวอยู่กับผมไม่ต้องเป็นห่วง" เพลิงพูดพลางดึงมือหญิงสาวมากุมไว้
"ถ้างั้นคุณคงต้องหาโรงแรมในเมืองพักไปก่อน ผมฝากคุณดูแลลูกสาวผมด้วยนะครับ ผมขอร้องคุณอีกเรื่องในฐานะความเป็นพ่อ กรุณาอย่าล่วงเกินเธอนะครับ ตอนนี้ผมต้องรีบไปดูทางน้ำไหลที่โรงไฟฟ้าด้วย" คำขอของพายัพทำให้เพลิงเกือบสะอึก เขาไม่อยากจินตนาการความโหดของผู้ชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย เพราะหากกล้าพูดกับเขาตรงๆเช่นนี้ก็คงจะหวงลูกสาวจริงจัง
"ได้ครับ ผมจะดูแลเธอให้ดีที่สุด" เพลิงรับปากและกดปุ่มวางสาย
"มีอะไรหรอคะ?" พราวตะวันใจคอไม่ดี
"ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากทำให้ถนนขาดหลายเส้น คุณพายัพบอกให้เราหาที่พักในเมืองพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ" เพลิงมองคนตัวเล็กที่มีท่าทีเป็นกังวล
"ทุกครั้งที่ฝนตกพายุเข้าพ่อไม่เคยได้อยู่บ้านเลย พราวเป็นห่วงพ่อ" เธอเล่าให้เขาฟัง เพลิงนึกย้อนมาหาตนเองซึ่งการทำงานก็ไม่ได้ต่างอะไรจากบิดาของเธอมากนักถ้าหากเขาไม่ได้เป็นผู้บริหาร
"คุณพายัพเป็นคนเก่ง อย่าคิดมากนะ รีบออกไปหาที่พักกันเถอะเดี๋ยวจะดึก" เพลิงกุมมือเธอไว้และพาเดินออกจากห้างสรรพสินค้าไป
โรงแรมหรู
"คุณเพลิง ฤตินาฏวรนันท์ ประธานบริหารบริษัทการไฟฟ้าจำกัดมหาชน ต้องการห้องวีไอพีที่ดีที่สุด ขอเป็นเตียงเดี่ยว ชาร้อน และไวน์แดงที่แพงที่สุด" พนักงานต้อนรับสาวทวนรายการที่เพลิงสั่งให้เพื่อนร่วมงานฟังในขณะที่เพลิงเดินกลับมาหาพราวตะวันซึ่งเขาให้เธอนั่งรออยู่ตรงโซฟาของล็อบบี้โรงแรม
"หล่อมาก ตัวจริงหล่ออย่างกับดาราแถมหน้าฝรั่งด้วย ผู้หญิงคนนั้นยังดูเด็กอยู่เลย ทำบุญด้วยอะไรนะถึงได้โชคดีขนาดนี้" พนักงานสาวพูดคุยกันเบาๆ