Chapter 4: ข้อแลกเปลี่ยน

2383 Words
สองหนุ่มหล่อเดินเข้าไปหาผู้เป็นบิดาทั้งสองที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขกของเพนต์เฮาส์หลังใหญ่ ทั้งราพณ์และพระรามต่างก็เหลียวมองไปโดยรอบ พวกเขาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน บ้านใครกันนะ? “คุณป๋า นี่บ้านใครอะ?” ราพณ์ถามพ่อของเขาก่อน รงค์ผู้หน้าตาหนุ่มกว่าอายุมากโขอยากจะเดินไปตบกะโหลกเจ้าลูกชายตัวดีสักทีหนึ่ง ราพณ์หน้าสวยเหมือนแม่แต่ดวงตาคมดุดันเหมือนเขา นิสัยเองก็เหมือนเขา จะด่าลูกเวลามันหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่นก็กลัวเหมือนด่าตัวเองตอนหนุ่ม ๆ ดังนั้นชายสูงวัยจึงได้แต่บุ้ยใบ้ให้ราพณ์นั่งลงตรงโซฟาข้างเขา “บ้านพวกมึง” รงค์ตอบลูกชายตัวดี “พวกมึงไหน?” ราพณ์ถามต่อ “ก็บ้านราพณ์กับเจ้ารามไงละ” คราวนี้เป็นฤทธิ์ที่ตอบเขา ฤทธิ์เองก็ดูหน้าตาอ่อนวัยกว่าเช่นกัน ทั้งนี้เพราะสายเลือดยักษาทำให้พวกเขาที่อายุหกสิบกว่าเกือบเจ็ดสิบดูอย่างไรก็ไม่น่าจะเกินสี่สิบปี ดังนั้นฤทธิ์จึงมักใส่แว่น แต่เป็นแว่นที่เขาคิดว่ามันช่วยเพิ่มอายุและทำให้เขาดูภูมิฐานไม่ใช่แว่นสายตาแต่อย่างใด “เฮ้ย! พ่อจะซื้อบ้านให้ผมกับไอ้ราพณ์ไปทำไม? ไม่เอา! ผมไม่อยู่กับมัน ขืนอยู่มีหวังบ้านหลังนี้เละแน่ ๆ” พระรามที่ปกติเป็นคนใจเย็นกลับโวยวายขึ้นก่อน “พ่อไม่ได้ให้พวกแกอยู่แค่สองคน พ่อกับไอ้รงค์มีความจำเป็นต้องทำแบบนี้” ฤทธิ์ทำหน้าหนักใจแล้วเอ่ยขึ้นมา “นี่มันเรื่องอะไรกันคุณป๋า? ทำไมผมต้องมาอยู่กับได้ราม?” ราพณ์ถามบิดาของตนบ้าง “ก็มึงถึงเวลาควรจะมีเมียได้แล้ว” รงค์ตอบสั้น ๆ “ผมควรมีเมียตั้งมานานแล้ว แล้วก็เย่อมาตั้งหลายคนแล้วด้วย และที่สำคัญคนล่าสุดที่ไปเย่อมาโดนไอ้รามมันแย่ง” ราพณ์ถือโอกาสฟ้องพ่อเสียเลย “ผมไม่ได้แย่งมันนะลุงรงค์ ผู้หญิงมาหาผมเอง ช่วยไม่ได้” พระรามพูดแล้วยักไหล่ “แกเก่งเจ้าราม แต่ตอนนี้แกต้องไปเลิกกับยัยผู้หญิงที่แกแย่งเจ้าราพณ์มาก่อน” ฤทธิ์ยิ้มออกมาน้อย ๆ แล้วชื่นชมลูกชาย ทั้งราพณ์และรงค์ผู้เป็นพ่อกลอกตามองบนทันที “ผมไม่ได้คิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนนั้นอยู่แล้ว ว่าแต่ทำไมพ่ออยากให้ผมเลิกกับผู้หญิงคนนั้นล่ะ?” พระรามถามบิดาด้วยความสงสัย “ก็เพราะฉันเตรียมว่าที่เมียเอาไว้ให้แกแล้วไง และเขาจะเข้ามาอยู่ที่เพนต์เฮาส์นี้กับแกด้วย...” “...กับมึงและกับไอ้ราพณ์” รงค์พูดต่อเพื่อนทันที “หมายความว่ายังไง? คุณป๋าจะให้ผมกับคู่หมายอยู่ที่นี่ ส่วนไอ้รามก็จะอยู่กับคู่หมายของมันที่นี่เหรอ?” ราพณ์ถาม ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งงง พอเจอคำถามนี้สองยักษ์เฒ่าถึงกับอ้ำอึ้ง “พวกมึงรู้ใช่ไหมว่าสายเลือดยักษ์ที่ดีที่สุดคือเลือดของยักษ์ชั้นสูง แม่มึงกับแม่ไอ้รามเป็นยักษิณีชั้นกลาง ดังนั้นถึงมึงจะมีเลือดยักษ์ชั้นสูงอยู่ในตัวแต่ก็เป็นแบบผสม” รงค์เกริ่นขึ้นมาก่อน “ดังนั้นพวกแกต้องแต่งกับยักษิณีที่เป็นยักษ์ชั้นกลางขึ้นไป สายเลือดใหม่ที่เกิดมาจึงจะมีพลังแรงกล้า” ฤทธิ์พูดต่อ “อืม ก็รู้ พวกผมถึงเลือกคบแต่ยักษิณีชั้นกลาง นาน ๆ ครั้งถึงจะคบมนุษย์สักคน แต่ก็คบได้ไม่นาน... นอนด้วยกันนาน ๆ เข้ากลัวจะเผลอกินเมียตัวเอง” ราพณ์พูดติดตลก “พ่อพูดแบบนี้หมายความว่า... พ่อเจอยักษิณีที่เป็นยักษ์ชั้นสูงเหรอ?” พระรามจับจุดที่พ่อกับลุงรงค์พูดกันได้แล้วเอ่ยถามขึ้น “ฉลาดมากไอ้ราม พวกกูเจอผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ เขามีเชื้อสายมาจากยักษ์ชั้นสูง กูดูรูปแล้ว หน้าตาน่ารักเลยนะมึง นมใหญ่แบบที่มึงกับไอ้ราพณ์ชอบด้วย ที่สำคัญเป็นเด็กดี ยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง” รงค์รีบกระพือไฟรักก่อนเพื่อน “แหม... เยินยอกันเสียจนเป็นนางฟ้านางสวรรค์เลยนะคุณป๋า ใครเขาก็ยืนด้วยลำแข้งกันทั้งนั้น ถ้าขาไม่ขาดน่ะนะ ยืนด้วยลำแขนมันลำบากนะคุณป๋า” ผลัวะ! คราวนี้รงค์ห้ามใจตัวเองไม่ไหว โบกศีรษะเจ้าลูกชายตัวดีไปหนึ่งทีข้อหาลามปามคุณป๋าของมัน ราพณ์ได้แต่เบ้ปากแล้วยกมือใหญ่ขึ้นมาคลำหัวป้อย ๆ ราวกับเด็กน้อยโดนพ่อตี ลูกกูนี่มันเหมือนกูหรือเหมือนใครวะ? กูกวนตีนขนาดนี้เลยเหรอวะ? รงค์คิดในใจก่อนจะพูดต่อ “ตอนแรกกูจะจับยัยหนูนั่นแต่งกับไอ้ราพณ์ แต่ไอ้ฤทธิ์แม่งเสือกเจอยัยหนูพร้อม ๆ กับกู พวกกูทะเลาะกันมายกหนึ่งแล้ว เลยตกลงใจว่าจะจับพวกมึงสองคนกับยัยหนูคนนั้นมาอยู่ด้วยกันแล้วให้ยัยหนูนั่นเลือกว่าจะเอาใครเป็นผัว” รงค์เฉลยเงื่อนงำทุกอย่างออกมาเพราะขี้เกียจลีลาเยอะ สองหนุ่มหันมามองหน้ากันแล้วรู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ต้องสำคัญมากเพราะพ่อของเขาทั้งสองคนเลิก ‘ทะเลาะ’ กันไปได้หลายปีแล้ว ครั้งนี้กลับมาทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้เนี่ยนะ? ไม่รู้ทะเลาะจนบ้านพังไปกี่หลังแล้วก่อนจะได้ข้อสรุปนี้ “ไม่เอาอะ ผมไม่อยากแย่งไอ้ราพณ์” พระรามเอ่ยขึ้นมาก่อน “ให้ไอ้รามไปก็แล้วกันคุณป๋า ผมหาของผมได้” ราพณ์สวนขึ้นมาทันที “ไม่ได้/ไม่ได้ !” ผู้เป็นพ่อทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน “พวกมึงจะมาดื้อกับพวกกูไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกกูเห็นพ้องต้องกัน พวกมึงสมควรจะให้ความร่วมมือ ถ้าพวกมึงไม่ยอมพวกกูจะริบทุกอย่างคืนมาให้หมด ทั้งบ้าน กิจการ รถยนต์ ถ้าใครได้ยัยหนูคนนั้นเป็นเมียพวกกูจะยกทรัพย์สมบัติให้คนนั้นทั้งหมด” รงค์ประกาศกร้าว ฤทธิ์ถึงกับหันขวับมามองหน้าเพื่อน เชี่ยรงค์ ประกาศอะไรไม่ปรึกษาเพื่อนมึงเลย ฤทธิ์ได้แต่คิดในใจ คิดไปคิดมาก็ต้องปล่อยเลยตามเลยเพราะถ้าไม่เล่นไม้นี้เห็นทีคนดื้อรั้นอย่างลูกชายเขาคงไม่ยอมเชื่อฟังแน่ พระรามรักกิจการทุกอย่างที่เขาสร้างมาเป็นอย่างมาก ปกติยักษามักเก่งกาจในเรื่องสะสมทรัพย์อยู่แล้ว แต่พระรามเก่งกว่ายักษ์ทั่วไปมากโข ดังนั้นหากจะต้องเสียทุกอย่างไปพระรามไม่มีทางยอมแน่ “งั้นก็ให้ไอ้รามไป ผมไม่อยากได้เงิน ยักษ์รวบรวมทรัพย์เก่งอยู่แล้ว ถึงผมออกบ้านไปตัวเปล่าก็หาเงินได้อยู่ดี” ราพณ์พูดแล้วยักไหล่ ผลัวะ! เสียงรงค์ตบกะโหลกลูกชายอีกครั้งอย่างเหลืออด “โอ๊ย! คุณป๋า! นี่ผมลูกคุณป๋านะไม่ใช่ลูกวอลเลย์บอล ตบอยู่ได้” “กูตบให้มึงสำนึกว่ากูเอาของดีมาประเคนให้แล้วมึงไม่เอาไงไอ้ลูกเวร!” ติ๊ง! เสียงกระดิ่งหน้าประตูเพนต์เฮาส์ดังขึ้น ก่อนจะมีเสียงกดรหัสเข้าประตูดังตามมาจากนั้นชายชราผมขาวไว้หนวดโง้งงามก็เดินเข้ามาพร้อมกับใครคนหนึ่ง ใครคนหนึ่งที่มีรูปร่างเล็กบอบบาง หน้าตาดูคุ้นตาสองหนุ่มหล่อเป็นอย่างมาก... หน้าตาเหมือนผู้หญิงคนแรกที่จับเขาคนหนึ่งทุ่มและเตะตัดขาเขาอีกคน “ยัยตัวจิ๋ว/ ยัยเด็กแสบ!” สองหนุ่มอ้าปากค้างแล้วอุทานขึ้นมาพร้อมกัน กูว่าแล้ว ตัวเล็กนิดเดียวแรงอย่างกับช้าง เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้หรอกนอกจากยักษ์ พระรามคิดในใจเพราะรู้ทันทีว่าคู่หมายที่พ่อหามาให้คือใคร เขาจ้องหน้าตาหมดจดของสาวน้อยที่ตรงหน้า เธอดูตื่นตาตื่นใจกับความอลังการของเพนต์เฮาส์หลังเล็ก ๆ ที่ใหญ่ไม่ได้ครึ่งของบ้านเขาเสียด้วยซ้ำ แค่ดูก็รู้แล้วว่าอยู่แบบอนาถาไม่เห็นจะมีทีท่าว่าเป็นยักษ์ชั้นสูงเลยสักนิด “พวกคุณสองคน...” รังเรขเองก็ตกใจไม่น้อยที่เห็นสองหนุ่มหล่อที่เธอเพิ่งทำให้ลงไปนอนกองบนพื้นเมื่อเช้านี้อยู่ในเพนต์เฮาส์พร้อมหน้ากัน “หนูเลขมาถึงพอดีเลย เข้ามาก่อนสิลูก ลุงชื่อฤทธิ์ เจ้าหมอนี่ชื่อรงค์ เราสองคนเป็นเพื่อนของแม่หนู” ฤทธิ์เริ่มแนะนำตัวเองก่อน “เพื่อนของแม่หนูเนี่ยนะคะ? คุณสองคนดูยังไงก็อายุสัก 30-40 แม่ของหนูถ้ายังไม่ตายป่านนี้คงเกือบ ๆ 50 เข้าไปแล้ว พวกคุณอย่างมากน่าจะแค่ ‘พี่’ ของหนู” รังเรขทำหน้าประหลาดใจ แม่ของเธอเสียตอนเธออายุได้แค่ห้าขวบ ถ้าฤทธิ์และรงค์เป็นเพื่อนของแม่จริงแสดงว่าพวกเขากับแม่ต้องอายุห่างกันมาก “เหอะ! เลียพ่อฉันใหญ่เลย ขนหน้าแข้งเปียกหมดแล้วมั้ง ยักษ์ก็แก่ช้ากันทุกคน ทำอย่างกับไม่รู้” ราพณ์แค่นเสียงเหอะออกมาพูดประชดประชันสาวน้อยในทันที ถ้าเจอกันแบบดี ๆ เขาอาจจะพอเอ็นดูได้บ้าง แต่นี่เจอหน้าปุ๊บเล่นเตะตัดขาเขาเลยก็ไม่ไหวนะ “อะไรนะคะ? ยักษ์อะไรกันคะ?” รังเรขทำหน้างุนงงแล้วถามราพณ์ “เออ... คือ... ไอ้ชาติบอกหนูแล้วใช่ไหมว่าพวกเราอยากอุปการะหนูและส่งเสียหนูให้เรียนต่อแทนแม่ของหนู?” รงค์เริ่มเปลี่ยนเรื่อง พระรามหรี่ตามองพ่อของเพื่อนแล้วหันกลับไปมองหน้าพ่อของตัวเองด้วย ดูเหมือนพวกตาแก่ยังมีอะไรปิดบังพวกเขาอยู่แน่ ๆ “ชาติ? หมายถึงคุณตาที่พาหนูมาใช่ไหมคะ? เขาบอกว่าจะมีคนช่วยให้ชีวิตหนูดีขึ้น จะส่งหนูเรียนด้วย” สาวน้อยตอบทันที พอพูดเรื่องเรียนเธอก็ลืมเรื่องยักษ์ไปเลย ใจมันจดจ่อกับเรื่องที่จะมีคนส่งเธอเรียนต่อมากกว่า “ใช่ พวกลุงจะส่งหนูเรียนเอง มีข้อแลกเปลี่ยนแค่นิดเดียว” รงค์พูดยิ้ม ๆ “ถ้าไม่ให้ไปตายหนูทำได้หมดค่ะ หนูแข็งแรงมาก แบกกระสอบข้าวสารได้สบาย ๆ เรื่องการต่อสู้หนูก็เก่งมากค่ะ คุณสองคนนั้นคนหนึ่งก็โดนหนูทุ่ม อีกคนก็โดนหนูเตะตัดขาไปแล้ว” รังเรขพูดด้วยความภูมิใจแล้วชี้มือไปที่สองหนุ่มหล่อทำเอารงค์กับฤทธิ์หัวเราะออกมาดัง ๆ “ฮ่า ฮ่า ฮา! แบบนั้นก็ดี พวกลุงจะได้หมดห่วง เวลาพวกหนูอยู่ด้วยกันสามคนคงบ้านไม่พังแน่ เพราะถ้าไอ้สองคนนี่ทะเลาะกันหนูจะได้ห้าม หรือถ้าพวกมันคิดจะทำอะไรหนูหนูจะได้ป้องกันตัวเองได้” ฤทธิ์พูดอย่างอารมณ์ดี “ลุงฤทธิ์พูดดี ๆ ใครอยากทำอะไรยัยตัวแสบนี่กัน ดูสิ ท่าทางอย่างกับทอมบอย แค่ผมยาว นมใหญ่ไม่ได้จัดว่าเป็นผู้หญิงทุกคนหรอกนะ” ราพณ์กอดอกแล้วพูดเสียงฮึดฮัด “ใช่ค่ะ คุณเองก็ผมยาว นมก็ใหญ่ด้วยยังเป็นผู้ชายเลย” สาวน้อยตอบโต้เขาทันที “อย่ามาเรียกกล้ามอกของฉันว่านม! นี่มันกล้ามอกเว้ย แผงอกแกร่งอันกำยำที่ได้มาจากการออกกำลังกาย ไม่ใช่นม!” ราพณ์บอกเธอด้วยความฉุนเฉียว รังเรขยักไหล่อย่างไม่แยแสแล้วหันไปถามชายสูงวัยหน้าอ่อนทั้งสองคนต่อ “สรุปพวกคุณลุงจะให้หนูทำอะไรคะ?” “ข้อแลกเปลี่ยนของการส่งหนูเรียนมีนิดเดียวเองลูก พวกลุงจะให้หนูอยู่ที่เพนต์เฮาส์นี้กับลูกชายของพวกลุงเป็นเวลาสามเดือน ต่อจากนั้นให้หนูเลือกแต่งงานกับพวกเขาคนใดคนหนึ่ง ง่าย ๆ แค่นั้น” ฤทธิ์พูดแล้วยิ้มแต่รังเรขกลับไม่ยิ้มตาม เธอเบิกตากว้างแล้วมองหน้าชายสูงวัยที่เธอเพิ่งรู้จักวันนี้แล้วหันไปมองสองหนุ่มหล่อสลับกันไปมา “นายคนที่นิ่งเป็นสากกับนายคนที่ปากมากเหมือนเปิดวิทยุทั้งวันเนี่ยนะคะ?!” พอได้ยินคำบรรยายเกี่ยวกับตัวเองสองหนุ่มหล่อถึงกับขมวดคิ้วแล้วจ้องหน้าหญิงสาว แววตาของสองหนุ่มที่จ้องมองเธอมีความสงสัยปนอยู่ไม่น้อย แต่นัยน์ตาของราพณ์มีแววไม่พอใจในขณะที่นัยน์ตาของพระรามมีแววนึกสนุกปนอยู่ “ไม่เอาอะคุณป๋า ผมไม่อยู่กับยัยเด็กนี่หรอก แม่ง ปากจัด แต่งตัวก็ซอมซ่อ ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง มึงว่าไหมไอ้ราม?” ราพณ์ตอบปฏิเสธทันทีแล้วหันหน้าไปถามเพื่อน “ผมอยู่ครับพ่อ น่าสนุกดี นิสัยดื้อ ๆ แก่น ๆ แบบนี้ ไม่เหมือนผู้หญิงอื่นที่ผมเจอ แค่สามเดือนผมอยู่ได้ แต่ถ้าสุดท้ายผมไม่ชอบยัยตัวจิ๋ว หรือเด็กนี่ไม่ชอบผมถือว่าจบเกมนะครับ” พระรามตอบพ่อทันที คำตอบของเขาทำให้ฤทธิ์ยิ้มอย่างมีชัยเหนือกว่ารงค์ ในขณะที่รงค์มองลูกชายตัวเองตาเขียวปั๊ด “มึงแพ้ไอ้รามแล้วแหละไอ้ราพณ์” รงค์เดินไปกระซิบที่ข้างหูหนุ่มหล่อผมยาว “ลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้! ในเมื่อไอ้รามมันอยู่กับยัยเด็กแสบนี่ได้ผมก็ทำได้เหมือนกันคุณป๋า!” ราพณ์ประกาศเสียงก้อง รงค์เปลี่ยนสีหน้าทันที จากทุกข์ใจกลายเป็นแย้มยิ้ม ให้มันได้แบบนี้สิไอ้ลูกรัก! เรื่องอะไรจะปล่อยให้คนอื่นมาคว้าเอาว่าที่เมียตัวเองได้? ยัยหนูเลขนี่เกิดมาเพื่อเป็นเมียมึงชัด ๆ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD