“ก็มึงอะ ดมน้อง น้องตกใจจนสลบไปเลยเห็นไหม?”
รังเรขได้ยินเสียงของพี่รามดังแว่วมาก่อน ตามมาด้วยเสียงกึ่งหงุดหงิดกึ่งกังวลใจของพี่ราพณ์
“เชี่ยราม! ใส่ร้ายกู มึงอะเลียน้องก่อน”
“แต่ตอนกูเลียน้องยังไม่สลบ พอมึงดมปุ๊บน้องสลบเลย นี่สลบไปเกือบสองชั่วโมงแล้วเนี่ย ทำไงดีวะ?” เสียงพี่รามฟังดูร้อนใจเหมือนเป็นห่วงเป็นใยเธอจริงจัง
พี่รามขา หนูซึ้งใจมากค่ะ ถ้าเทียบกับว่าพี่คือคนที่หนูทุ่มข้ามหัวไปเมื่อเช้านี้พี่ดีกับหนูสุด ๆ เลยอะ แต่ว่า... ก่อนหน้าที่หนูจะสลบ หน้าพี่... มันมีเขี้ยวงอกออกมาแถมยังมีไรเคราอ่อน ๆ เหมือนยักษ์อีกต่างหาก หรือหนูจะทำงานหนักไปนอนไม่พอ ทำให้เห็นอะไรบ้าบอกันนะ?
สาวน้อยเริ่มได้สติแล้วคิดในใจก่อนจะค่อย ๆ แอบเผยอเปลือกตาข้างหนึ่งขึ้นมองสถานการณ์
พี่ ๆ ทั้งสองคนยังมีหน้าตาเกลี้ยงเกลา หล่อเหลา ไม่เหมือนภาพที่เธอเห็นก่อนจะสิ้นสติ หรือว่าเธอจะแค่ฝันไป?
หัวของรังเรขหนุนอยู่บนตักพี่ราม พี่ราพณ์กำมือน้อย ๆ ของเธอแล้วนวดเบา ๆ คงจะหวังให้เลือดของเธอหมุนเวียนดีขึ้น เสื้อเชิ้ตสีดำที่มีโลโก้ซูเปอร์มาเก็ตติดอยู่ก็ถูกปลดกระดุมสองเม็ดบนออกทำให้เห็นเนินอกอวบรำไร รังเรขหน้าแดงขึ้นมาทันทีแล้วยิ่งหน้าแดงขึ้นมาอีกเมื่อได้ยินข้อเสนอของพี่ราม
“หรือมึงว่าเราผายปอดให้น้องดีวะ?”
“เชี่ย! น้องเป็นลมโว้ย ไม่ได้จมน้ำ แต่... ลองหน่อยก็ดีไหม? กูผายปอดให้น้องเอง กูเรียนมา ได้ใบประกาศอบรม CPR ด้วย” ราพณ์ด่าเพื่อนแต่กลับอาสาเสียเอง ไม่รู้ในใจคิดอะไรอยู่ถึงอยากลองผายปอดให้ยัยตัวแสบดูสักครั้ง ว่าแล้วเขาก็โน้มใบหน้าหล่อเหลาลงเตรียมประกบปากกับสาวน้อยร่างเล็ก
ผลั่ก!
เสียงเท้าน้อย ๆ ของรังเรขดีดร่างใหญ่ของราพณ์อย่างแรงจนเขาเซไปด้านหลัง
“โอ๊ย! ยัยแสบ ถีบฉันทำไมเนี่ย!?” ก่อนที่หนุ่มหน้าสวยจะได้สัมผัสเรียวปากอิ่มของน้องเขาก็ได้สัมผัสกับฝ่าเท้าน้อย ๆ ของเธอเสียก่อน
“ก็... พี่ราพณ์จะจูบหนู” สาวน้อยตอบเสียงเบา หน้าแดงแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง
“ฉันจะผายปอดโว้ย! ไม่ได้จะจูบ” ราพณ์แก้ตัวทันที
“เลขดีขึ้นหรือยังครับ? ทำไมถึงเป็นลมได้? พักผ่อนไม่เพียงพอหรือไง? หรือทำงานหนักไป? หรือเพราะไอ้ราพณ์มันดมหนู?” พระรามถามน้องน้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใยแถมตบท้ายด้วยการถามขยี้ไอ้ราพณ์อีกต่างหาก
ราพณ์เบะปากเหมือนหมั่นไส้พระรามเต็มที
มึงอะเลียน้อง เลียก่อนกูดมอีก นี่ถ้ากูไม่อยู่มึงคงเลียตั้งแต่หัวจรดนิ้วก้อยตีนแล้ว เชี่ย... ใส่ร้ายกูตลอด
“เออ... ไม่รู้เหมือนกันค่ะ หนูเหมือนเห็นภาพหลอน หนูเห็นพี่ ๆ มีเขี้ยว มีไรเครา เหมือนยักษ์เลย แล้วก็ได้ยินพวกพี่พูดกันเรื่องยักษ์ หรืออะไรนี่แหละ” สาวน้อยบอกออกไป ในใจยังสับสนว่าส่วนใดที่เธอจำได้คือเรื่องจริงหรือส่วนใดคือความฝัน
สองหนุ่มหล่อสบตากันแล้วขมวดคิ้วเป็นปม
“เธอไม่ได้ฝันหรอกยัยน้อง ฉันถามเธอเองว่าทางพ่อหรือแม่เธอที่เป็นยักษ์ชั้นสูง สรุปที่สลบไปนี่เป็นเพราะไอ้ราพณ์มันเลียเธอใช่ไหม? บอกมาเลยน้องไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเกรงใจมันด้วย บอกให้มันรู้ไปเลย วันหลังมันจะได้ไม่เลีย” ราพณ์ยังไม่ยอมจำนนต่อคำกล่าวหาของพระราม พยายามผลักความผิดไปให้เพื่อนอย่างเต็มที่
“งั้น... ก่อนหน้านี้ที่หนูเห็น... เห็นเขี้ยวของพวกพี่ แล้วก็เคราด้วย... เรื่องจริงเหรอคะ?!” สาวน้อยหน้าซีดแล้วถามขึ้นมาทันที
คิ้วของสองหนุ่มขมวดแน่นขึ้นกว่าเดิม
“แสดงว่าน้องเป็นลมเพราะพวกพี่โชว์เขี้ยวยักษ์กับไพรเหงือกเนี่ยนะ?” พระรามถาม ในใจเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้บ้าง แค่นี้ก็พอรู้แล้วว่าพ่อของเขาและพ่อของไอ้ราพณ์มีลับลมคมในจริง ๆ
รังเรขพยักหน้ารับแทนคำตอบ เธอเป็นลมเพราะหน้ายักษ์ของพวกเขาจริง ๆ
“เธอไม่รู้ว่าตัวเองเป็นยักษ์เหรอ? อย่าพูดเล่นน่าน้อง แรงช้างสารขนาดนั้น จะไม่สงสัยตัวเองหน่อยเหรอ? แล้วเธอเองก็ต้องมีเขี้ยวยักษ์เหมือนกันแหละ จะไม่รู้ได้ยังไงวะ?” ราพณ์ถามแล้วส่งมือใหญ่ไปง้างปากน้อย ๆ ของน้องทันที
รังเรขไม่ทันตั้งตัวปล่อยให้หนุ่มหน้าสวยจับคางเธอแล้วบีบออก เขาพลิกหน้าเธอไปทางซ้ายทีทางขวาทีแล้วทำสีหน้าฉงน
“เฮ้ย! น้องไม่มีเขี้ยวยักษ์ว่ะไอ้ราม เป็นไปได้ยังไงวะ?” ราพณ์บอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ก็หนูไม่ได้เป็นยักษ์ จะมีเขี้ยวยักษ์ได้ยังไง ว่าแต่พวกพี่เป็นยักษ์จริง ๆ เหรอคะ? แล้วเมื่อกี้ที่พวกพี่เลียกับดมหนู... พวกพี่จะกินหนูเหรอคะ? พ่อของพวกพี่ซื้อหนูมาให้เป็นอาหารเย็นใช่ไหม? พวกพี่หลอกหนูมากินใช่ไหม?” สาวน้อยถามเสียงเครือ เธอมีกำลังวังชามากมายก็จริง แต่พวกเขาเป็นยักษ์เลยนะ ถ้าพวกเขารุมกินเธอ แค่กัดคอเธอแล้วเคี้ยว 2-3 คำเธอก็คงนอนจมกองเลือดตายกลายเป็นรังเรขผู้รุ่งริ่งแล้ว
ก็ฟันพวกพี่โง้งเสียขนาดนั้น แล้วที่หนูมีแรงถีบ มีแรงทุ่มพวกพี่ได้ก็คงเพราะพวกพี่ไม่ทันตั้งตัว ถ้าพวกพี่แปลงร่างเป็นยักษ์เต็มตัวหนูมิโดนบี้ตายเหรอคะ?
“เดี๋ยว เดี๋ยว หยุดก่อนยัยแสบ พร่ำเพ้ออะไรกันเนี่ย? พ่อของพวกฉันไม่ได้ซื้อเธอมาให้พวกฉันกิน... เออ... อาจจะอยากให้พวกฉันกินแหละ แต่ไม่ได้กินแบบนั้น... เออ... คือ... วุ้ย! มึงอธิบายสิไอ้ราม กูจนปัญญา” ราพณ์พยายามอธิบายแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน สุดท้ายได้แต่ยกมือขึ้นเสยผมยาวสลวยของตัวเองแล้วโยนไปให้เพื่อนแทน
“ถ้าพวกพี่ไม่ได้จะกินหนูแล้วเอาหนูมาทำไม? จะให้หนูเลือกแต่งงานกับพวกพี่จริง ๆ เหรอคะ? จะเป็นไปได้ยังไง? คนกับยักษ์นะ แค่เห็นหน้ายักษ์ของพวกพี่หนูก็สลบแล้วเนี่ย” รังเรขถามน้ำตาคลอเบ้า เธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะเข้มแข็ง อ่อนแอแต่กับเรื่องผีสางเท่านั้น และเธอเองก็ไม่แน่ใจว่ายักษ์นับเป็นผีสางหรือเปล่า
“ยัยตัวจิ๋ว พี่ว่าน้องลองดูหน้ายักษ์ของพวกพี่ดี ๆ อีกรอบดีกว่า... คนหน้ายักษ์มักน่าเย่อนะน้องนะ” พระรามบอกน้อง มุมปากมีรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏอยู่
ยัยตัวจิ๋วไม่น่าจะรู้ว่าตัวเองมีสายเลือดยักษ์ชั้นสูง ยิ่งไม่มีเขี้ยวยักษ์แสดงว่าน่าจะเป็นลูกครึ่งหรือไม่ก็ลูกเสี้ยวมนุษย์ พ่อไปหาเด็กประหลาดคนนี้มาจากไหนกันนะ?
พระรามคิดแล้วเชยคางน้องขึ้นมาดูพลางเช็ดน้ำตาให้เธอ
“อย่าร้องไห้นะตัวจิ๋ว ถ้าน้องร้องจะรวบรวมสติไม่ได้ พวกพี่ไม่กินน้องแน่นอนครับ พ่อบอกว่าน้องจะเป็นคู่หมายของพวกพี่ พวกพี่ไม่กินเมียตัวเอง พี่รับรองได้” พระรามบอกเสียงอ่อนโยน
งื้อออ... พี่รามมีความเป็นผัวที่อ่อนโยนแล้ว เริ่มเข้าตาหนูมาหน่อยแล้วแหละ
สาวน้อยคิดแล้วยกหลังมือน้อย ๆ ขึ้นปาดน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาจากนั้นจึงสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด รวบรวมสมาธิใหม่
“พวกพี่ลองเอาเขี้ยวออกมาใหม่ได้ไหมคะ?” สาวน้อยถามเสียงเบา
สองหนุ่มหล่อสบตากัน ก่อนที่เขี้ยวสีขาวยาวโง้งของพวกเขาจะงอกออกมา พร้อมกับไพรเหงือกสีเขียวบางขึ้นเป็นลายงามอยู่รอบริมฝีปากหนาน่าจูบของพวกเขา
เหมือนที่พี่รามบอกจริงด้วย พอตั้งสติดูดีๆ หน้ายักษ์ของพวกพี่ก็น่าเย่ออยู่นะ... ว้าย! ยัยลามก! ย่ง เย่อ อะไรกัน? พวกพี่แค่หล่อ... พวกเขาดูหล่อย่ะ อย่าใช้คำว่า ‘น่าเย่อ’ โอ๊ย! อยากจะหยิกตัวเองให้เนื้อเขียวเลยเนี่ย
สาวน้อยเคลิบเคลิ้มไปกับหน้าตาหล่อเหลาคมคายของพี่รามและหน้าหวาน ๆ ที่เข้ากับเขี้ยวยักษ์ได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อของพี่ราพณ์แต่ก็ต้องดึงสติตัวเองกลับมาก่อน
“ยังกลัวพวกฉันอยู่หรือเปล่ายัยเด็กแสบ?” พี่ราพณ์ถามเธอแล้วนิ่วหน้า เขาไม่เคยเผยร่างยักษ์ต่อหน้ามนุษย์ผู้หญิงมาก่อน ถึงจะเคยมีสัมพันธ์กับมนุษย์ผู้หญิงมาบ้างแล้วแต่ทุกครั้งเขาปิดไฟเสมอ ป้องกันไม่ให้พวกเธอเห็นหน้ายักษ์ในตอนที่เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
แต่ยัยแสบไม่ใช่มนุษย์... น้องเป็นยักษิณีที่ไม่มีเขี้ยว... แต่ยักษิณีที่ไหนไม่มีเขี้ยววะ?
“ไม่กลัวแล้วค่ะ ยิ่งถ้าพี่ ๆ สัญญาว่าตลอดสามเดือนนี้จะไม่กัดเนื้อหนู หนูจะกลัวน้อยลงกว่านี้อีก” สาวน้อยบอกเสียงสั่น
“ลองกัดคำเดียวก็ไม่ได้เหรอ?” พระรามถามน้อง แกล้งขู่ให้เธอกลัวเล่น
“ไม่เอาค่ะ! คำเดียวก็ไม่ได้ เดี๋ยวเกิดหนูอร่อย พี่ ๆ จะหยุดไม่ได้” สาวน้อยตอบขึงขังจริงจัง
ราพณ์เห็นเพื่อนหยอกล้อกับน้องแล้วนึกหมั่นไส้ในใจ
แหม... ยัยตัวแสบ มันน่ากัดดูสักคำจริง ๆ พ่อจะกัดให้ครางจนอยากให้กัดต่อทั้งคืนเลยแหละ