“ไม่ได้หอบเด็กตัวเป็น ๆ มาตามหาพ่อก็ดีแล้ว”
นั่นคือประโยคของตาแก่ผืนป่าหลังจากที่เข้าใจลูกชายอย่างเสือผิด เนื่องจากเอาแต่ฟังความข้างเดียวจากลูกน้องที่อยู่ด้านล่างมา และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่อู่ซ่อมรถปิดทำการแล้วด้วย จะให้เสือตามไปเอาเรื่องใครตอนนี้ก็คงไม่ได้
อีกทั้งบิดาเขายังเดินหนีหายไปเฉย ๆ กับพ่อคนที่สอง ทำราวกับว่าก่อนหน้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วปล่อยให้ยัยน่ารัก ไม่ใช่ดิ ปล่อยให้ยัยลูกลิงนี่มาเดินทำหน้าสลอน ตาแป๋ว กอดตุ๊กตาเน่าซึ่งเสือเองก็ไม่ได้สนใจที่จะมองมันเท่าไหร่ให้ยืนส่งสายตาอ้อนวอนกันอยู่ไม่เลิก
“มองอะไร กลับบ้านมึงไปได้แล้ว”
“แต่คุณลุงคนนั้นอนุญาตแล้วนี่คะ คุณพ่อพี่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรด้วย”
คุณลุงคนนั้นคงจะหมายถึงตาแก่ผืนป่านั่นแหละ ทว่าเสือก็ไม่ได้คิดจะแก้ต่างอะไรให้บิดาแท้ ๆ ของตนหรอก อีกอย่างได้กลายเป็นตาลุงข้างบ้านไปก็ดีเหมือนกัน เนื่องจากเอ่ยปากอะไรไปก็ไม่ได้ถามความสมัครของเขาเลยสักนิด
นี่ยังคิดอยู่เลยว่าแม่ตกหลุมรักแล้วแต่งกับคนประเภทนี้ไปได้ยังไง ลูกทำผิดก็จริงแทนที่จะสอบสวนก่อน หากแต่เตะก้านคอได้ตาลุงนั่นคงจะทำไปแล้ว เขามีอาดีน พ่อคนที่สองเป็นเซฟโซนคนเดียวจริง ๆ แล้วเข้าใจลูกผิดก็ไม่คิดจะขอโทษสักคำ จะฟ้องมารดาต่อก็ไม่ได้ เพราะคงจะได้โดนจับแต่งกับยัยลิงนี่จริง ๆ
“ก็แค่ตาลุงข้างบ้าน จะมามีสิทธิ์มีเสียงอะไรกับกูวะ”
ไม่จริงเลยครับ เมื่อกี้ก็เกือบจะโดนบ้องหูแล้ว มีทั้งสิทธิ์ตบ และเสียงฝ่ามือกระทบหูเลย
“พี่... ไม่คิดจะรับผิดชอบหนูจริง ๆ เหรอคะ ตอนทำก็ทำด้วยกัน”
น้ำเสียงหงอย ๆ คล้ายกับลูกแมวกำลังอ้อนทำเอาเสือผู้หญิงอย่างเขาชะงัก ก่อนจะรีบส่ายศีรษะปฏิเสธความคิดที่เริ่มตบตีกันในหัว
หรือคืนนั้นเป็นเขาที่หิ้วอีกคนขึ้นไปจริง ๆ วะ แล้วได้บังคับน้องมันหรือเปล่าเนี่ย แต่จากรูปการณ์ก็ดูจะสมยอมกันทั้งสองฝ่าย เนื่องจากเสือจำได้ว่าเธอเองก็ไม่ได้มีร่องรอยฟกช้ำที่ไหน และมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นกับใคร นอกจากรอยดูดที่ฝากไว้แถว ๆ บริเวณเนินอกซ่อนรูปของหญิงสาว ยังงงอยู่เลยว่ากล้าไปฝากรอยแบบนั้นได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยจูบคู่นอน รวมถึงคิดจะสร้างรอยความเป็นเจ้าของเลยสักครั้ง
ความเมาเป็นเหตุแท้ ๆ เลยกู
“อย่ามาพูดเหมือนกูทำมึงท้องแล้ว คนอื่นเขาเข้าใจกันผิดหมดแล้วเนี่ย กลับบ้านไปเลยกูจะนอน โคตรเหนื่อย”
“เดี๋ยวสิ เฮ้ย! พี่คะ” มือเล็กคว้าเอาบานประตูไว้ไม่ทันเมื่อลูกชายเจ้าของอู่ซ่อมรถดันเธอให้ออกห่างจากบริเวณแล้วปิดมันลงอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายจะรู้หรือไม่ว่ากว่าเอมิลจะหนีออกมาจากบ้านหลังนั้นได้ในตอนที่บิดามารดาไม่อยู่ แต่ก็ยังทิ้งคนเอาไว้เฝ้าเธอตลอดนั้นมันยากลำบากแค่ไหน ได้ตุ๊กตากับกระเป๋าเดินทางขนาดไม่ใหญ่มากมาด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว
ก่อนนัยน์ตากลมโตสีน้ำทะเลซึ่งเกิดจากพันธุกรรมจะกะพริบถี่ ๆ เพื่อไล่น้ำใสที่กำลังจะไหลลงมาให้ออกไป เลือกหย่อนตัวนั่งลงหน้าห้องนอนชั้นบนของร้าน เพราะอย่างน้อยถ้าคืนนี้ยังไม่มีที่ไป ตรงนี้ก็น่าจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเอมิลแล้ว
ก็เพราะว่าเชื่อแบบนั้นมาตลอด และต้องเป็นเขาเท่านั้น
แต่สภาพอากาศแปรปรวนตามฤดูกาลด้านนอกนั้นก็ทำเอาเกิดความหนาวขึ้นมาอยู่ไม่น้อย แน่นอนว่าเกือบทั้งชีวิตเอมิลควรจะชินชากับมัน แต่คนขี้หนาวแบบเธอก็ไม่ชินเลยสักนิด ถ้าวันไหนที่สระผมในอากาศที่เย็นหน่อยแล้วไม่รีบเช็ดให้แห้งหวัดก็ถามหาเป็นว่าเล่น
เธอมองสมาร์ทวอทช์ที่ข้อมือซึ่งปรากฏเวลาเกือบจะเที่ยงคืน ความเงียบจากด้านในห้องส่งผลให้ร่างกายบอบบางขยับตัวออกห่างจากบานประตูระยะหนึ่งเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายในตอนที่เขาเปิดมันออกมา ความเหนื่อยตลอดทั้งวันที่ไม่ได้ต่างจากชายหนุ่มส่งผลให้เอมิลเลือกที่จะกอดเจ้าเสือเน่าเอาไว้แล้วหลับตาลง
ส่วนเสือที่เข้าไปชำระร่างกายตัวเองในห้องน้ำเสร็จรีบสวมใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ก่อนจะเดินให้เบาที่สุดแล้วมาหยุดที่หน้าบานประตูเพื่อฟังความเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ความเงียบทำเอาใบหน้าหล่อตี๋ที่ได้บิดามาปรากฏรอยยิ้มบาง ยัยเด็กนั่นคงจะยอมแพ้แล้วกลับบ้านไปตั้งแต่เขายังอาบน้ำ ก็นะ ดูทรงลูกคุณหนูบอบบางขนาดนั้นคงจะไม่มาเสียเวลากับลูกชายเจ้าของอู่เก่า ๆ ซึ่งมีแต่กลิ่นน้ำมันเครื่องแบบเขา
นี่เป็นสาเหตุที่ถ้าไม่สนิทกันจริง ๆ เขาจะบอกว่าตัวเองเป็นลูกชายอาดีน แต่แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อกันคนที่เข้ามาหวังเงินทอง แต่เพราะเสือรักอาดีนคนที่เลี้ยงตัวเองมาอีกคนเพราะความรักที่มีให้ต่างหาก
ถึงแม้ว่าความเป็นจริงแล้วตาแก่ผืนป่าจะเลี้ยงเขาแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ อีกทั้งยังมาหาว่าลูกคนนี้แย่งความรักจากเมียตัวเองอีก
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ความจริงเขาเองก็แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกัน เพราะนี่เป็นครั้งแล้วเลยที่พลาด หากอีกฝ่ายเกิดท้องขึ้นมาจริง ๆ อย่างไรเขาก็ไม่ปัดความรับผิดชอบอยู่แล้ว จากที่ดูน้องมันก็แค่เฟรชชีด้วยซ้ำ
“ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังแบบที่ตาแก่นั่นบอกจริง ๆ เลยเสือ แต่แม่งตอนเมาใครมันจะไปทันคิดวะ โอ๊ย ชีวิตกูแม่ง” อนาคตคนคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าเขาบวชให้จะพอหรือเปล่า แต่ถ้าท้องจริงเธอต้องดรอปเรียน แน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยใครเอาไว้ข้างหลัง ก็ดรอปมันด้วยกันทั้งคู่จนกว่าจะคลอดนั่นแหละ ทว่าเธอก็กินยาไปแล้ว เปอร์เซ็นต์ท้องมันเท่าไหร่กันวะ
ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองได้ไม่นานก็ต้องสะดุ้งกับเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่หัวเตียง ห้องนี้จะเป็นเสือที่เข้ามาใช้ส่วนใหญ่เพราะสิงห์มันแทบจะนอนอยู่สนามแข่งรถเป็นหลัก กรอบรูปที่มารดาตั้งโชว์เอาไว้หัวเตียงก็เป็นเราทั้งสามพี่น้องยืนกอดคอกันยิ้มให้กล้องอยู่ รูปนี้น่าจะเป็นตอนงานจับสลากปีใหม่ที่โรงเรียนแล้งน้องสาวพวกเขามาหา เนื่องจากยังจำรอยแผลที่ไอ้เพื่อนร่วมสายชั้นปากหมามันทำเอาไว้ที่คิ้วได้อยู่
เสือก็ไม่ได้ลืมเรื่องวันนั้นไปเสียทั้งหมดนี่ ทว่ากลับยังรู้สึกเหมือนมีอะไรที่ยังติดค้างอยู่ในใจราวกับยังนึกไม่ออก
[เสือ...]
“ครับ มีนเหรอ มีอะไรหรือเปล่า โทรหาเสือดึกเชียว”
[ขอโทษนะ คือว่ามีนเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ พอดีว่าจะไปรับเพื่อนที่คณะ แต่ว่ามีมอไซค์มาตัดหน้ารถมีน แต่ว่ามีนโทรเรียกประกันไปแล้วนะ แต่เขาก็ยังโวยวายไม่หยุดเลย มีนกลัว]
“มีนอยู่ตรงไหนครับ เดี๋ยวเสือรีบไปอยู่เป็นเพื่อน”
[ไม่ไกลจากอู่เสือ ตรงใกล้ ๆ แยกไฟแดงนี่เอง]
“โอเค งั้นรอเสือแป๊บหนึ่ง ถ้าเกิดว่ากลัวเขาจะทำอะไร ค้างสายเอาไว้ก็ได้ครับ อยู่ในที่คนมองเห็นไว้นะ” ขายาวรีบเดินไปหยิบกุญแจรถยนต์ สวมใส่เสื้อตัวนอกอีกชั้น ก่อนจะเปิดประตูวิ่งลงไปยังชั้นล่างแบบไม่ได้สังเกตคนที่นอนหนาวอยู่ด้านนอกห้องเลยแม้แต่น้อย
มีนเป็นเพื่อนต่างคณะที่รู้จักกันเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็จริง ทว่ากับคนที่ตัวเองชอบก็คงจะไม่ได้มีเรื่องอื่นสำคัญไปมากกว่านี้แล้ว
TBC.
เริ่มแล้วค่า