06

1310 Words
หลังจากจบประโยคของเขาในวันนั้นแน่นอนว่ามันทำให้เอมิลสะอึก และซึมไปหลายวันจริง ๆ แต่มีหรือที่เธอจะยอมแพ้ จำได้ว่าตัวเองใช้น้องเน่าที่กอดไว้อยู่นั้นปาใส่ใบหน้าหล่อ ๆ นั่นไปจนอีกฝ่ายร้องโอดครวญออกมา เพราะคงจะโดนลูกตาเขาเข้าเต็ม ๆ ก็สมควรแล้ว ใครใช้ให้เขามาปากไม่ดีใส่เธอ ก่อนจะรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้ววิ่งไปเก็บตุ๊กตามากอดแนบอกเอาไว้ดั่งเดิม “แก แกนั่นแหละ ชื่ออะไรเหรอ” “นี่เหรอ” ถึงแม้ว่าจะเปิดเรียนมาได้เกือบเป็นชาติแล้ว ทว่าเอมิลก็ยังไม่คุ้นชินกับระบบของที่นี่สักอย่าง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการหาเพื่อนใหม่ คนไม่ชอบเข้าหาใครก่อนอย่างเธอนั้นเรียกได้ว่าตัวคนเดียวมาตั้งแต่ต้นเทอมแล้ว และเป็นการเรียนเสร็จก็กลับบ้านเลยจึงไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก ส่วนกิจกรรมก็ร่วมบ้างไม่ร่วมบ้างตามความเหมาะสม “ใช่ เห็นนั่งคนเดียวมาตั้งแต่เปิดเทอมแล้ว สรุปว่าชื่ออะไร” “เอมิล” “อ๋อ นี่ชื่อไอรักนะ เรียกรักเฉย ๆ ก็ได้” เป็นช่วงอาจารย์ผู้สอนปล่อยให้นักศึกษาได้จับกลุ่มกันเข้าไปเสนอหัวข้อของงานกลุ่ม ไอรักจึงสบโอกาสได้เข้ามาสนทนากับเพื่อนร่วมสาขาที่แต่ละชั่วโมงจะเอาแต่เข้ามานั่งเงียบ ๆ ฟังเจ้าของเซคบรรยายแล้วกลับขึ้นรถหรูซึ่งจะเห็นมาจอดรออีกฝ่ายอยู่ตลอดตั้งแต่เปิดภาคเรียน มีช่วงหลัง ๆ มาเธอไม่เห็นคนตรงหน้าจะออกไปรอรถที่คาดว่าคงจะเป็นของที่บ้าน ที่กล้ามาคุยด้วยแบบนี้ก็เพราะเห็นว่าเอมิลนั้นไม่ยอมลุกไปจับกลุ่มกับเพื่อนคนอื่นเสียที ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศรอบตัวที่คล้ายกับว่าเศร้าหมองแปลก ๆ นี้หรือเปล่าคนอื่นจึงไม่กล้าเข้าหาอีกฝ่ายก่อน “ยินดีที่ได้รู้จัก” “จ้า แล้วได้กลุ่มทำงานหรือยัง ไปอยู่กับพวกเราสามคนไหม รับรองไม่กัด เป็นมิตรทุกคน” เจ้าของดวงตากลมหันมองไปหาเพื่อนอีกสองคนซึ่งนั่งอยู่ด้านหลัง ทุกคนดูเป็นมิตรแบบที่เพื่อนใหม่ว่า เพราะขนาดเอมิลยังทำหน้านิ่ง ๆ ให้อยู่พวกเธอก็ยังโบกไม้โบกมือยิ้มให้ นั่นทำเอาเจ้าตัวรีบหันหน้ากลับ เอมิลมีเพื่อนน้อยมาก ๆ ถ้าไม่ใช่คนที่อยู่ในสังคมเดียวกันมารดาก็แทบจะไม่ให้คุยด้วย แล้วเพื่อนที่อยู่ชนชั้นเดียวกันนั่นแหละยิ่งตัวดี เธอโดนคนพวกนั้นแกล้งมาตลอด จนสุดท้ายเริ่มไม่ไหว บอกมารดาไปแล้วหล่อนก็ทำเพียงใช้สายตานิ่ง ๆ มองลูกสาวแล้วบอกว่ามันเป็นเรื่องของเด็ก กระทั่งโดนส่งตัวไปเรียนที่เมืองนอก เพื่อนที่เอมิลคบจริง ๆ จึงมีน้อยมาก อีกอย่างก็ต้องระรังตัวเองด้วย เกิดโดนรังแกขึ้นมาอีกก็คงจะไม่มีใครช่วยได้ นอกจากต้องพึ่งพาตัวเอง “กลุ่มยังว่างใช่ไหม” “ว่างสิ ไม่มีใครเป็นส่วนเกินแน่นอน ถึงจะเกิน เราทุกคนก็เป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” เอมิลดูจะไม่ใช่พวกคนมีเงินที่ถือตัวตามที่เพื่อนหลายคนในคณะพูดถึง กลับกันไอรักว่าอีกฝ่ายคล้ายกระต่ายตัวเล็ก ๆ ที่ขี้กลัวและชอบระวังภัยมากกว่า ไม่รู้หรอกว่าเราทุกคนบนโลกต้องเจออะไรมาบ้าง แต่ถ้าอยากให้คนอื่นปฏิบัติกับเราอย่างไรก็แค่แสดงสิ่งนั้นออกไปให้เขาเห็นด้วยความจริงใจ “อือ ขอบคุณมากนะ แล้วจะเลือกหัวข้ออะไร แบ่งกันยังไงบ้างเหรอ” “มานี่สิ มานั่งคุยกันก่อนแล้วค่อยเอาไปเสนออาจารย์” เสือลูกชายคนโตของบ้านวรเตชะกำลังเดินเข้า ๆ ออก ๆ อยู่บริเวณหน้าร้านหนังสือในห้างดังที่ไม่ได้ไกลไปจากมหาวิทยาลัยมากเท่าไหร่ จบคลาสเรียนที่แสนจะวุ่นวายกับพวกกลุ่มเพื่อนเขาจึงรีบปลีกวิเวกออกมาที่นี่คนเดียวเงียบ ๆ ก็จะให้ใครรู้ได้อย่างไรว่าเสือตัวพ่ออย่างเขาพลาดแตกในจนเด็กมันตามมาเอาเรื่องถึงที่ อีกทั้งถ้าเรื่องนี้ถึงหูมารดาเข้า มีหวังเขาได้โดนจับแต่งงานกับเด็กคนนั้นแน่ ๆ แน่นอนว่าเสือรักแม่ฉิบหาย แต่ใครมันจะอยากมีเมียเหมือนแม่ตัวเองวะ เอมิลเหมือนมารดาเขามาก ทว่าก็ไม่ได้ทั้งหมดหรอก เอาเป็นว่านอนกับเธอได้ แต่ตอนนี้เขามีคนในใจแล้วก็เท่านั้นเอง “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้ามีอะไรให้ทางเราช่วยไหมคะ” พนักงานสาวคงจะเห็นว่าเขาจะเดินเข้าร้านไปก็ไม่เข้าเสียที จึงมาทักทายก็ไม่แปลก แต่ที่เสือมาวันนี้มันเป็นปัญหาระดับชาติอยู่มาก เขาไม่อยากให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับตัวเองตอนนี้ทั้งนั้น “มะ...ไม่ครับ ไม่เป็นไร ผมว่าจะมาดูหนังสือหน่อย” “อ๋อ งั้นเชิญลูกค้าตามสบายได้เลยนะคะ หากมีอะไรสามารถสอบถามหรือต้องการให้ช่วยเหลือ เรียกได้ทุกเมื่อเลยค่ะ” ชายหนุ่มเป่าลมหายใจออกมาทางปาก เลิกทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ บริเวณหน้าร้านแล้วเดินเข้าไปในโซนที่ตัวเองตั้งใจมาดูอย่างช้า ๆ ทว่าก็ยังต้องแลซ้ายแลขวาอยู่เป็นพัก ๆ หน้ากากอนามัยกับแว่นกันแดดราคาแพงก็คงจะพอช่วยทำให้เขาพรางตัวได้จนไม่มีใครนึกสนใจ ฉะนั้นแล้วภารกิจของวันนี้จะต้องลุล่วงไปได้ด้วยดี นัยน์ตาคมไล่มองหนังสือบนชั้นในหมวดหมู่ของแม่และเด็ก ก่อนเสือจะเลือกหยิบแบบส่ง ๆ มาสักเล่มเพื่อเปิดอ่านดู จากที่คิ้วขมวดอยู่แล้วตอนนี้มันก็แทบจะกลายเป็นปม เนื่องจากกว่าเด็กคนหนึ่งจะสามารถออกมาลืมตาดูโลกได้ นอกจากจะใช้เวลาไม่น้อยแล้วก็มีรายละเอียดยิบย่อยจนดวงตาเขาเริ่มอ่อนแสงลง ไม่คิดว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกที่เป็นแม่จะต้องเสียสละมากมายอะไรขนาดนี้ ถ้าเกิดว่าเอมิลเกิดท้องขึ้นมาจริง ๆ เสือคิดถูกแล้วที่เขาจะเลือกดรอปเรียนเป็นเพื่อนเธอ ตอนทำยังทำด้วยกัน อย่างไรเสือก็คงจะไม่ปล่อยใครสักคนเอาไว้ข้างหลังตามที่คิดเอาไว้ ถ้าต้องดรอปเรียนจริง ๆ ระหว่างนี้แบกหน้าไปขอคุณป่าทำงานด้วยจะดีหรือไม่ ก็คงจะดีแหละ การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งต้องใช้เงินมากเลยทีเดียว ดูอย่างเขากับน้อง ๆ ไม่รู้ว่าล้างผลาญบิดาไปมากเท่าไหร่แล้ว แต่ถามว่าจะล้างผลาญต่อไปไหม แน่นอนว่าคำตอบคือใช่ “ตำแหน่งรปภ. บริษัทปู่เต็มหมดยังวะ หรือจะไปโรงแรมคุณย่าดี อย่างน้อยงานก็คงจะสบายมากกว่าพ่อ” “ไอ้เสือ...” “เชี่ย! กูไม่รู้เหมือนกัน แค่เข้ามาดูเฉย ๆ” “เหี้ยไรของมึงเนี่ย ตกใจอะไร แล้วแต่งตัวอะไรวะ โคตรอุบาท” มอนสเตอร์ที่วันนี้มาเลือกมังงะที่เพิ่งจะออกใหม่คิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปม เมื่อเขาเพ่งมองบุคคลที่เรียกได้ว่าประหลาดมาสักพักแล้วก็รู้ได้เลยว่าเป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง ที่คงจะสมองกลับ ไม่ก็กระทบกระเทือนถึงได้กล้าเข้าร้านหนังสือมาในสภาพนี้ “เอ่อ...” “อะไรเนี่ย การเป็นแม่นั้นไม่ง่าย เชี่ย! ไอ้เสือ มึงท้องเหรอวะ!” TBC.
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD