ใครโทรมา?

2012 Words
หลังจากวันนั้น วันที่ไอยราออกมาจากโรงพยาบาลก็ผ่านมาได้เกือบสองเดือนแล้ว สิ่งที่เธอทำในทุกวันคือช่วยแม่จ๋าทำงานบ้าน ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ 'รู้มั้ย’ ทุกเรื่องที่พูดมาเธอเคยเรียนรู้มันมาก่อนจากโลกเก่าเรียนรู้การเป็นสตรีสูงศักดิ์ต้องทำทุกอย่างในเรือนตนเองให้เป็น ความสนุกสนานแปลกใหม่มีขึ้นทุกวัน บ่อยครั้งที่เธอซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของแม่จ๋าพากันไปตลาดสดใกล้ๆหมู่บ้านจับจ่ายซื้อของกันอยู่สองแม่ลูกโดยมีพ่อนนท์กับพี่อาร์มเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมด “แม่จ๋าจอดรถที่ร้านนี้ได้หรือไม่คะ?” คำพูดในแบบน้องไอที่ตอนนี้คนในบ้านเริ่มจะชินกันแล้วดังขึ้นมาพร้อมกับนิ้วที่ชี้ไปทางร้านเสื้อผ้าวัยรุ่น 'ร้านสวนสวย' “ได้ค่ะ” แม่จ๋าเลี้ยวไปตามทางที่ลูกสาวชี้ สาเหตุที่แม่จ๋าเป็นคนขี่ก็เพราะไอยรายังคงไม่กล้าถึงแม้เจ้าตัวจะขี่เป็นแต่เธอก็ไม่ขี่ วื้ดดดดด,..รถจอดลงหน้าร้านเสื้อผ้าระหว่างทางกลับบ้าน “ยินดีต้อนรับค่ะต้องการชุดแบบไหนคะ” เจ้าของร้านเดินออกมาต้อนรับอย่างมีมารยาท น้องไอชี้ไปที่ชุดเดรสยาวเลยเข่าแขนตุ๊กตาน่ารัก “ชุดสีชมพูกับสีฟ้าน่ะค่ะ..ขอดูหน่อย” แม่จ๋ามองลูกสาวตัวเองอย่างแปลกใจ ‘น้องไอชอบใส่กางเกงยีนส์’ เรื่องนี้แม่จ๋ารู้ดีที่สุด กางเกงยีนส์ของน้องไอมีตั้งแต่ขายาวถึงข้อเท้าและสั้นสุดถึงขอบกางเกงในเลยทีเดียวที่สำคัญกว่านั้นน้องไอไม่ชอบใส่กระโปรง คนเป็นแม่ทำเพียงแค่มอง ตั้งแต่ตกบันไดมาน้องไอเปลี่ยนไปมากจริงๆ “แม่จ๋าดูสิคะ” เอาชุดสีฟ้ามาทาบกับตัว “หนูสวยมั้ย?” คนถูกถามพยักหน้ารับน้องไอเป็นคนน่ารักอยู่แล้ว จากที่ใส่ยีนส์ก็ดูเท่ห์ๆ ตอนนี้คงอยากจะเปลี่ยนมาใส่ชุดกระโปรงให้ดูหวานก็ได้ “สวยมากค่ะถ้าน้องไออยากได้ชุดกระโปรงตัวไหนแม่จะซื้อให้เลย ทุกทีเห็นใส่แต่ยีนส์เปลี่ยนบ้างก็ดีค่ะ” “แหะๆๆๆ หนูแค่เบื่อแบบเดิมเท่านั้นล่ะค่ะ” ไอยราหันไปยื่นชุดสองชุด “เอาสองชุดนี้ค่ะ” แม่ค้ายิ้มกว้างเดินนำไปใส่ถุงและคิดราคา “1260บาทค่ะ” แม่จ๋ายื่นเงินโดยที่ไม่ได้ต่อราคาอะไรแม่ค้าเห็นแบบนั้นก็รีบบอกทันที “อีกสามวันจะมีกระโปรงสั้นของวัยรุ่นมาเยอะแยะเลยนะคะถ้ายังไงคุณลูกค้าจะแวะมาดูก็ได้ค่ะ” “ค่ะไว้ฉันจะมา” หันมองแม่จ๋า “เนอะแม่เนอะ” แม่จ๋ายกยิ้ม “ได้สิคะ ลูกจะใส่กระโปรงแม่สนับสนุนมาก” หลังจากวันนั้นสองคนแม่ลูกได้กลายเป็นลูกค้าประจำร้านเสื้อผ้าสวนสวยร้านนั้นทันที ---++++-------+++++ ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์กับเช้าที่สดใสเหมือนทุกวัน สองพี่น้องนั่งคุยกันอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน พ่อนนท์ไปทำงาน แม่จ๋าทำขนมอยู่ในครัว “พี่อาร์มจะไปจีนเหรอคะ?” “ใช่แล้วช่วงนี้โรคระบาดซาลงไปมาก พี่ก็ต้องไปทำงานเลี้ยงคนแถวนี้น่ะ” ไอยราหน้ามุ่ย เธอรับรู้ว่าพี่อาร์มเป็นไกด์นำทัวร์ไปต่างประเทศแต่หลังจากมีข่าวโรคระบาดจึงกลับมาอยู่ที่บ้าน ตัวเธอก่อนหน้านี้ก็วิ่งสมัครงานจนหัวหมุนได้พักยาวเพราะว่าตกบันไดนี่เอง “หลังจากเราตกบันไดมานี่พี่ก็ไม่เห็นว่าเราจะเอาหนังสือนิยายภาษาจีนเล่มสีดำนั้นมาอ่านเลยนะอยู่ไหนซะล่ะ?” ไอยราทำหน้างงอยู่พักหนึ่ง “ไม่เห็นนี่คะ บนห้องมีแค่ตำราภาษาจีนไม่เคยเห็นว่ามีนิยาย” นั่งปอกผลไม้เองอย่างคล่องแคล่ว “งั้นเหรอ?” พี่อาร์มทำหน้าแปลกใจ เขาจำได้ว่าตัวเองซื้อมาฝากน้องสาวก่อนที่เธอจะตกบันไดหนึ่งวัน ‘แต่ก็ช่างมันเถอะ คงจะตกอยู่ที่ไหนสักแห่ง’ “เดี๋ยวถ้าพี่ไปรอบนี้แล้วเจอหนังสือน่าอ่านอีกพี่จะซื้อมาฝากก็แล้วกันนะ” “เจ้าค่ะท่านพี่” J ไอยรายิ้มหวานสุขใจ ‘เธอรักครบครัวนี้’ ราวกับว่ามันคือครอบครัวที่แท้จริงของเธอ มือใหญ่ลูบหัวน้องสาว “ฟังแบบนี้บ่อยๆก็รู้สึกว่ามันเพราะยังไงไม่รู้สิ..เอาล่ะพี่ไปเตรียมจัดของก่อนนะ พรุ่งนี้จะเข้าบริษัทแล้วจะบินเลย” “ค่ะ” มองตามพี่ชายเดินหายเข้าไปในบ้าน สายตาคนต่างโลกเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ‘ไม่รู้ว่าท่านพ่อกับท่านแม่ทางโน้นจะเป็นเช่นไรบ้าง’ ใจนึกถึงถ้อยคำของชายชราที่อยู่ในจวนสกุลจู ‘ที่นั่นไม่ใช่ที่ของเธอตั้งแต่แรก’ ก็อาจเป็นไปได้ว่าตัวตนของไอยราตัวจริงคือคนของโลกนั้นเหมือนเธอที่ต้องมาอยู่ในโลกนี้ เรื่องราวลึกลับซับซ้อนจนยากจะหยั่งรู้ได้คงเป็นเรื่องของโชคชะตา..ผู้ใดก็มิอาจฝืน อ่าาา… ‘เครื่องบิน’ บินผ่านสายตาเธอไปหนึ่งลำ ‘เร็วกว่าวิชาตัวเบาล้านเท่า’ โลกนี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ----+++----+++++++ หน้าบริษัททัวร์ขนาดใหญ่ “มีอะไรก็โทรไลน์หาพี่เข้าใจมั้ย?” “เข้าใจค่ะ” “รอบนี้ไปประมาณหนึ่งเดือน กลับมาพี่จะซื้อชุดน่ารักๆมาฝาก” “เอากระโปรงนะคะ” “ครับผม…บ๊ายบาย” กอดน้องสาวผู้น่ารัก “สวัสดีครับพ่อแล้วเจอกันครับ” อาร์มยกมือไหว้ลาก่อนจะยกกระเป๋าเดินเข้าบริษัทไป สองพ่อลูกพากันขับรถออกจากที่นั่นมุ่งตรงกลับบ้านทันที ---++++++-----++++-+-+ ตรู๊ดๆๆ ตรู้ดดๆๆๆๆ เสียงโทรศัพท์มือถือดังอยู่ข้างๆตัว คนนอนหลับอยู่ตรงหน้าบ้านสะดุ้งตื่นหันซ้ายหันขวา ตลอดเวลาที่อยู่ในร่างนี้เธอถือเครืองมือสื่อสารอันนี้ออกมาเล่นด้วยความชอบใจแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ใครจะโทรมา เบอร์แปลกๆโชว์ขึ้นหน้าจอความสงสัยทำให้ต้องกดรับ ติ่ด! “ค่ะ” “สวัสดีครับผมทินกรเป็น ผจก.ฝ่ายบุคคลโทรมาจากโรงแรมเซสเซอร์กรีน1ขอพูดสายกับคุณไอยรา วิศวะเหมครับ” “ค่ะไอยราพูดอยู่” “อ่อครับ..คือทางเราเห็นใบสมัครของคุณที่ได้ยื่นไว้เมื่อสองเดือนที่ผ่านมาไม่ทราบว่าตอนนี้คุณกำลังทำงานอยู่แล้วรึเปล่าครับ” ไอยราครุ่นคิดถึงโรงแรมที่เขาว่าแต่ก็นึกไม่ออก ไม่เป็นไรฟังเขาก่อน “ยังค่ะฉันยังว่างงานอยู่” การเรียนรู้คือสิ่งจำเป็นสำหรับเธอในยามนี้ “อ่อ..งั้นดีเลยครับไม่ทราบว่าวันพรุ่งนี้คุณจะพอมีเวลาว่างมาสัมภาษณ์งานที่โรงแรมของเรารึเปล่าครับ ตอนนี้เราต้องการรับสมัครตำแหน่งเลขาของท่านรองกรรมการผู้จัดการที่เพิ่งลาด่วนออกไปน่ะครับ” คนฟังยกยิ้ม “ได้ค่ะฉันยินดีไปสัมภาษณ์พรุ่งนี้” “ครับ..งั้นพรุ่งนี้เวลา09.00น.ให้คุณเดินทางไปพบผมที่โรงแรมเลยนะครับ ผมจะรอคุณอยู่ตรงล็อบบี้” “ได้ค่ะได้ฉันจะไป” “ครับผม เจอกันพรุ่งนี้ครับสวัสดีครับ” ติ่ด! วางสายไป ไอยรานั่งกุมหน้าอกใจเต้นตุ่บๆๆ เธอตื่นเต้นมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคุยโทรศัพท์ครั้งแรกของเธอหรือการที่เธอต้องไปสัมภาษณ์งาน “อ้ายย!!!” เธอลุกขึ้นวิ่งเข้าไปในบ้านพุ่งตรงไปหา “แม่จ๋า” เสียงเรียกหาท่านแม่ดังลั่นบ้านไปหมด “อะไรคะนั่น ลูกคนนี้บอกกี่ครั้งๆก็ไม่เคยจำนะคะว่าอย่าวิ่ง” แม่จ๋ายิ้มหวานเตือนเหมือนทุกๆครั้ง “มีอะไรคะ” “โรงแรมเซสเซอร์กรีนโทรมาบอกให้หนูไปสัมภาษณ์งานเจ้าค่ะ หนูตื่นเต้นจังแม่จ๋า” กอดเอวนัวเนียแม่ตัวเอง “ดีแล้วไงคะที่เขาเรียกไปสัมภาษณ์ แต่อย่าเพิ่งตื่นเต้นไปสิคะเขายังไม่ได้บอกว่าจะรับหนูเข้าทำงานนี่” คนเป็นลูกนิ่งคิด “จริงด้วยค่ะ” ใบหน้าห่อเหี่ยว “โอ๋ๆๆ นะคะไม่เป็นไรๆพรุ่งนี้สัมภาษณ์เสร็จเขาอาจจะรับหนูเข้าทำงานเลยก็ได้ ป่ะมาปั้นขนมบัวลอยกับแม่ดีกว่าปั้นเองกินเอง” “ค่ะแม่” ทุกความหนักใจของเธอ แม่จ๋ามักจะปัดเป่าไปได้เสมอ ตกเย็นวันนั้นพ่อนนท์กลับมาจากการทำงาน แม่จ๋ากับไอยราเล่าให้คุณพ่อฟังถึงเรื่องการไปสัมภาษณ์งานเป็นเหตุให้คุณพ่อต้องรีบโทรไปลางานด่วนในทันทีเพราะต้องรับหน้าที่ขับรถไปส่งลูกสาว +++++++-------+++++- วันต่อมา (08.20) หน้าล็อบบี้ของโรงแรมเซสเซอร์กรีน โรงแรมหรูขนาด35ชั้น ไอยรามองเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดสูทสุภาพยืนก้มมองนาฬิกาตลอดเวลาเธอจึงเดินเข้าไปทักทายเพราะคิดว่าน่าจะเป็นคุณทินกร “สวัสดีค่ะคุณทินกรรึเปล่าคะ” เสียงเรียกจากผู้หญิงดังขึ้นมา ทินกรละจากเวลามามองสาวน้อยหน้าหวานมัดผมครึ่งศรีษะ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโตใสแจ๋ว ในชุดเดรสสีฟ้าแขนตุ๊กตา ‘น่ารักที่สุด’ ในสายตาหนุ่มใหญ่ที่มีเมียแล้วแบบเขา ทำหน้าตาห่อเหี่ยว ‘อยากจะกลับไปเป็นโสดเสียจริงๆ’ “สวัสดีครับใช่คุณไอยรารึเปล่า” “ใช่ค่ะ ฉันชื่อไอยราค่ะมาสัมภาษณ์งาน” “ครับ งั้นเชิญทางนี้ครับ” ทินกรเดินนำสาวน้อยหน้าใสที่ตัวจริงห่างไกลจากรูปถ่ายมาก…ไปทางด้านหลังของโรงแรม ในส่วนของฝ่ายบริหารการจัดการเป็นตึกไม่สูงมากมีขนาดเพียงหกชั้น “นี่เป็นตึกในส่วนของผู้บริหารน่ะครับมีหกชั้นเชิญครับ” ผายมือเข้าไปในลิฟท์ ไอยราเคยขึ้นลิฟท์ตอนที่เธออยู่ในโรงพยาบาล ความเสียววูบยังคงมีบ้างแต่ไม่ได้น่ากลัวอะไร มองตัวเลขไปหยุดอยู่ตรงชั้นบนสุดคือชั้นหก ติ้ง!!! ตัวลิฟท์เปิดออก เธอเดินตามหลังผู้ชายที่ชื่อทินกร เสียงรองเท้าส้นสูงของเธอ..ดังไปตามพื้นกระเบื้องเคลือบเงา กึ่กๆๆ รอบๆบริเวณมีห้องห้องหนึ่งผ่านสายตา ป้ายด้านบนเขียนว่า ‘ห้องหัวสิงค์’ ก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร จนเดินมาหยุดที่หน้าห้องๆหนึ่ง ป้ายด้านบนมีชื่อ ‘ห้องหัวเสือ’ ด้านหน้ามีโต๊ะทำงานว่างเปล่าตั้งอยู่ ก่อกๆๆๆ ทินกรเคาะและกดปุ่มอะไรสักอย่างข้างประตูแล้วพูด “ขออนุญาตครับ” “เข้ามา” เสียงดังออกจากลำโพงข้างประตูว่าอนุญาต ทินกรหันมาบอกให้เธอรออยู่ตรงนี้แล้วเดินหายเข้าไปด้านในเพียงห้านาทีก็กลับออกมาแล้วบอกไอยราว่า “นั่งรอตรงนี้เลยครับ” ชี้ตรงที่นั่งตรงกันข้ามกับโต๊ะทำงาน “ท่านรองคุยธุระสักครู่..ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ” ทินกรบอกลาสาวน้อยน่ารัก “โชคดีนะครับ” “ขอบคุณค่ะ” เธอนั่งลงและยิ้มส่งเมื่อเขาเดินจากไป ในใจตื่นเต้นยาวนานเกือบห้านาทีเสียงประตูด้านหน้าเปิดออก แกร่ก!!!!! ไอยราอ้าปากค้างกับภาพตรงหน้าที่เธอเห็น ผู้ชายรูปหล่อคมเข้ม ตัวสูงใหญ่ ในชุดสูทสีดำเดินออกมานั่งตรงข้ามกับเธอ….หัวใจเธอเต้นแรงมากจนคิดว่ามันจะกระเด็นออกมานอกอก กลิ่นหอมจากตัวผู้ชายคนนี้มอมเมาเธอจนดวงตาพร่าเลือน…นี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามเดือนที่เธอมาอยู่ในร่างนี้แล้วเกิดความรู้สึก ‘พึงใจ’ อย่างรุนแรง กับคนอื่นที่พบเห็นผ่านตายังไม่เคยเป็นเลยสักครั้ง “สวัสดีครับคุณไอยรา” ดวงตาคมดุมองสำรวจสาวน้อยตรงหน้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD