bc

พันธะรักร้ายนายมาเฟีย

book_age18+
6.1K
ติดตาม
31.4K
อ่าน
จบสุข
เจ้านาย
มาเฟีย
ดราม่า
ชายจีบหญิง
ฉลาด
วิทยาลัย
friends with benefits
like
intro-logo
คำนิยม

จะกินแก้เบื่อแต่ดันถูกใจ….

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
EP1จุดเริ่มต้น
@ งานนิทรรศการภาพถ่าย , เวลลิงตัน "ภาพนี้จะไม่เปิดประมูลจริงๆ หรอคะ" ฉันเอ่ยถามพนักงานดูแลสถานที่ "เปิดไม่ได้จริงๆ ครับ ภาพนี้ทางเจ้าของงานจัดสรรมาให้ชมเฉยๆ ครับ" "น่าเสียดายจังเลยค่ะ" ฉันถอนหายใจ เมื่อพนักงานหนุ่มเอ่ยประโยคซ้ำเดิมหลังจากที่เฝ้าถามทุกวัน และใช่.. ฉันชอบภาพนี้ มองครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาอยากบอกไม่ถูก ภาพที่มีชื่อว่า 'อิสระ' ฉันชอบมันมากถึงขั้นจะควักเงินก้อนสุดท้ายที่มีเอามาร่วมประมูล ย้อนกลับไปสองอาทิตย์ก่อนหน้า... ตุ้บ! "นี่มันอะไรกันยัยเมด!" ฉันก้มมองกระดาษผลการเรียนที่มหาวิทยาลัยส่งมาให้ถึงที่บ้านด้วยสายตาเบื่อหน่าย ก่อนจะหยิบไวน์ขึ้นมาดื่มอย่างไม่สนใจชายชราด้านหน้า และชายชราที่ว่านั้น.. เขาเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดของฉันเอง "จะถามทำไม ป๊าก็รู้อยู่แล้ว" ฉันตอบว่าที่เจ้าของโรงพยาบาลรัชตนกุลวิชัยเวชไป นั่นยิ่งทำให้เจ้าตัวโมโหจนหน้าแดงก่ำ "ทำไมเกรดแกถึงได้แค่นี้" "คำตอบเดิม เมดไม่อยากเป็นหมอ" ฉันเบื่อที่จะคุยเรื่องนี้กับป๊าแล้ว เลยเลือกที่จะเดินหนี เมอเมดผู้กลัวเลือดยิ่งกว่าสิ่งใด แล้วคิดสภาพว่าฉันต้องเรียนหมอ นึกดูดิว่ามันจะอึดอัดแค่ไหน "แต่บ้านแกทำธุระกิจโรงพยาบาล แกต้องเรียน!" ฉันกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย ขนาดเดินเข้ามาในบ้านแล้วป๊ายังเดินตามเข้ามาบ่น "ว๊า~ กลับมาผิดจังหวะอีกแล้ว" และนี่คือเสียงของพี่เมธา หรือพี่เเมธ พี่ชายของฉันเอง ที่พ่วงตำแหน่งรองประธานเจ้าของโรงพยาบาลแถวหน้าในกรุงเทพมหานคร "พี่แมธก็เป็นหมอแล้วไงป๊า ปล่อยเมดไปคนนึงเถอะนะ" ฉันหันไปส่งซิกให้คนเป็นพี่ช่วย แต่รายนั้นได้แต่ส่ายหัวไปมา พลางจะเดินหนีขึ้นห้อง "แกต้องเป็นอีกคน" ฉันหยุดเดินหันไปมองคุณเมธานินทร์ผู้บังเกิดเกล้า ซึ่งจังหวะที่ฉันหยุดเดินพี่แมธก็หยุดยืนมองอยู่ที่หัวบันได เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเลือกจะประจันหน้ากับพ่อของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาฉันเลือกที่จะเดินหนีตลอด "เมดจะซิ่วไปเรียนคณะบริหาร" คำพูดของฉันทำให้พี่แมธถึงกับเอามืออุดหูตัวเอง "ยัยเมด!!!!!" และก็ตามมาด้วยเสียงตวาดลั่นบ้าน ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปีหนึ่งคณะแพทยศาสตร์ เกรดไม่ต้องถามถึงต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก จะโดนทายออกหลายรอบก็มีป๊านี่แหละคอยหนุนหลัง ซึ่งฉันโครตจะเบื่อ แค่เลือดยังกลัวจะให้เรียนหมอให้ได้อะไรก่อน อยู่มาได้ยันเทอมสองก็ถือว่าอึดพอสมควรละนะ -_-^ "ค่อยๆ คุยกันได้ไหมพ่อลูกคู่นี้" คุณแม่เดินเข้ามาสมทบอีกคน ดูท่าแล้วน่าจะพึ่งเข้าเคสออกมา ป๊าฉันเป็นศัลยแพทย์เฉพาะทาง ศัลยกรรมระบบประสาท ศัลยกรรมกระดูกและข้อ พี่เมธาศัลยกรรมทรวงอกและหัวใจ ส่วนคุณแม่จะเป็นศัลยแพทย์ทั่วไป ส่วนฉันนะหรอ? อยากเปิดบริษัทขนมครัวซองต์เป็นแบรนด์ของตัวเอง เพราะฉันไอเลิฟน้องมาก >< ชอบกินจนเก็บไปฝันว่าสักวันนึงฉันจะเป็นเจ้าของร้าน "ม๊าเก็บป๊าด้วยค่ะ" ฉันพูดกับแม่ตัวเอง ซึ่งท่านก็เดินเข้ามายืนแตะไหล่ป๊าฉันให้อารมณ์ท่านเย็นลง คนสูงอายุสูดลมหายใจเข้าเฮือกนึงก่อนจะพูดประโยคถัดมา "แกไม่อยากเป็นหมอ แล้วแกอยากเป็นอะไร" ฉันยืนนิ่งอยู่กับที่ นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ป๊าฉันถามแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาท่านจะบังคับฉันตลอด ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ฉันจะได้ทำอะไรตามใจชอบ ซึ่งโชคดีที่พี่แมธชอบเรียนด้านนี้ ป๊าเลยไม่ต้องบังคับและท่านภูมิใจลูกชายคนนี้มาก ซึ่งต่างกับฉัน ท่านจะด่าทุกวัน ด่าจนขี้หูจะทะลุ คุยกันทีไรไมเกรนป๊าฉันจะขึ้นตลอด และในเมื่อตอนนี้ป๊าถามตรงๆ ฉันก็จะตอบตรงๆ "เมดอยากทำธุรกิจแบรนด์ขนมครัวซองต์ค่ะ" "เหตุผล" "เมดชอบกิน" ม๊าเอามือกุมขมับ ป๊านวดหว่างคิ้วไปมา ส่วนพี่ชายฉันยืนตบมือแปะๆ ทำหน้ากวนส้นเท้า บอกแล้วว่านางกวนจริงๆ -_-^ "อย่าไร้สาระ กลับไปตั้งใจเรียน" นอกจากจะไม่ฟังยังให้กลับไปเรียนเหมือนเดิมอีก "ไม่ค่ะ เมดบอกแล้วว่าเมดไม่อยากเป็นหมอ เมดจะเป็นเชฟทำขนม" ป๊ามองหน้าฉันนิ่ง แววตาท่านมองจากดาวอังคารก็รู้ว่าโกรธจนแทบจะถล่มบ้านทั้งหลังได้ แต่ในเมื่อได้พูดแล้วก็จะเอาให้สุด "พรุ่งนี้เมดจะไปยื่นเรื่องลาออก และจะไปเรียนต่อคณะบริหารธุรกิจที่นิวซีแลนด์ค่ะ" ป๊ากำมือแน่น ส่วนม๊าหันมาทำหน้าเหวอ เอาจริงคุณแม่ท่านไม่ค่อยบังคับฉันหรอก แต่ลึกๆ ก็รู้ดีว่าท่านก็อยากให้ฉันเป็นหมออีกคน ส่วนมากท่านจะตามใจฉันอยู่บ้าง ถามไถ่ ให้คำแนะนำ แต่ก็นั่นแหละขัดป๊าได้ซะที่ไหนกัน ส่วนเรื่องเรียนต่อฉันคิดและศึกษามาสักพักแล้ว มหาลัยนี้เป็นมหาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ ชื่อมหาวิทยาลัย HM Z University ซึ่งฉันมีเพื่อนสนิทที่เรียนอยู่ที่นั่นสองคน อีกอย่างฉันไม่ได้ตามเพื่อนนะ จากที่ศึกษาดูมหาลัยที่นั่นมีหลักสูตรการเรียนการสอนคล้ายๆ กับประเทศไทย แค่ยกระดับสื่อการสอนที่ทันสมัยกว่าและอาจารย์แต่ละคนระดับดอกเตอร์เก่งๆ ทั้งนั้น กว่าจะสอบเข้าได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ใช่ค่ะ.. ดิฉันแอบซุ่มอ่านหนังสือและสอบจนผ่านรอบคัดเลือกได้สำเร็จ เหลือแค่ไปรายงานตัวและก็บอกทางบ้านนี่แหละ เรื่องหมอฉันไม่ชอบเลยไม่สนใจ แต่สิ่งที่ฉันชอบฉันก็พร้อมจะเรียนรู้และก็มีความสุขไปกับมัน และนี่คือสิ่งที่ฉันโหยหามาตลอดอายุ 22 ปี "มันไม่ได้เข้าง่ายๆ นะเมด หนูต้องไปสอบทำเรื่อง..." คุณแม่กำลังจะพูดซึ่งฉันก็เดินไปหยิบกระดาษกรอกใบสมัครและใบรับรองว่าฉันสอบผ่านให้ป๊ากับม๊าดู ม๊าฉันดูอึ้งหนักกว่าเดิมส่วนคนเป็นพ่อตอนนี้ท่านนิ่งไปจนเดาความคิดไม่ถูก "แกยืนยันที่จะไปให้ได้ใช่มั้ย" "ค่ะ" ฉันยังยืนยันคำเดิม "งั้นแกก็ไปให้รอด" "......." ฉันสบตากับป๊าอย่างไม่น่าเชื่อว่าท่านจะยอม ก่อนที่ท่านจะมองกระดาษในมือแล้วหันมามองหน้าฉันอีกครั้ง "ฉันจะระงับบัตรเคดิตแกทุกใบ รถทุกคันแกไม่มีสิทธิใช้ จะออกไปก็ไปแต่ตัว" นั่นไง.. ไม่มีทางที่ป๊าฉันจะยอมง่ายๆ หรอก และเรื่องนี้ฉันก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว "แต่คุณคะ.." "คุณไม่ต้องมาห้าม และจำเอาไว้ห้ามใครในบ้านส่งเงินให้ยัยเมดใช้ ถ้าฉันรู้ฉันจะตัดชื่อมันออกจากวงค์ตระกูล" "คุณ!" "งานหยาบแล้วน้องรัก" ทุกคนต่างตกใจ ไม่ต่างจากฉันที่ยืนนิ่ง ใจกระตุกวูบเมื่อป๊าพูดแบบนั้น เพราะท่านดูไม่ห่วงใยฉันเลยสักนิด แค่ฉันจะไปทำตามสิ่งที่ตัวเองชอบมันผิดขนาดนั้นเลยหรอ "ส่วนแก ถ้าซมซานกลับมาบ้านเมื่อไหร่ แกจะต้องเรียนหมอเท่านั้น จำไว้!" คุณพ่อพูดด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องทำงานส่วนตัว "เมด ม๊าว่า.." "ไม่เป็นไรค่ะม๊า เมดจะไป" ฉันกรอกตาไปมาเพื่อขับไล่น้ำตาของตัวเองไม่ให้ไหล ก่อนจะตอบคุณแม่ไปและเดินขึ้นมาเก็บของบนห้องของตัวเอง จากนั้นก็ส่งข้อความหาเพื่อนสนิทให้มารับ ที่ตอนนี้บินมาหาครอบครัวที่ไทยก่อนเปิดเทอมที่นั่น จนฉันเก็บเสื้อผ้าเสร็จหยิบเงินสดของตัวเองที่เก็บไว้ในเซฟออกมา ซึ่งมันคงพอให้ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้ไปเปาะนึง "สู้เขายัยเมด" แต่ระหว่างที่กำลังรูดซิปปิดกระเป๋า น้ำตาดันไหลหยดลงมาเต็มธนบัตร จนต้องรีบเช็ดมันออกอย่างลวกๆ เพราะใกล้ถึงเวลาที่นัดกับเพื่อนไว้แล้ว และพอออกมาด้านนอกก็พบกับพี่แมธยืนรออยู่ "จะไปจริงอ่ะ" พี่แมธถอนหายใจ "เคยล้อเล่นที่ไหน" "อยู่เรียนหมอดีๆ ไม่ชอบ โตเป็นควายแล้วยังกลัวเลือดอีก" "ไอ้พี่แมธ : (" ฉันทำหน้าบึ้ง แต่ถึงปากจะพูดแบบนั้นนางก็เดินเข้ามาช่วยถือกระเป๋าลงไปด้านล่าง ซึ่งไร้วี่แววของป๊า มีแต่ม๊าที่ยืนรอทำหน้าเศร้า "เมอเมด อยู่บ้านเราเถอะนะ" ม๊าพูดเสียงสั่น นัยน์ตาท่านดูแดงๆ สงสัยไปแอบร้องไห้มาแน่เลยม๊าฉัน "ม๊าไม่ต้องห่วงเมดนะ เมดดูแลตัวเองได้" ฉันพูดแล้วเข้าไปสวมกอดท่าน "แต่ว่า.." "ไม่มีแต่ค่ะ เมดจะทำให้ป๊ารู้ว่าเมดเอาตัวรอดได้ และสักวัน... เมดต้องประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ต้องเป็นหมอ" ม๊ากอดฉันแน่น ฉันน้ำตาคลอเบ้าพยามบังคับตัวเองไม่ให้พูดเสียงสั่น "จะรอดูเหอะ" พี่แมธพูดก่อนจะส่งกระเป๋ามาให้เป็นจังหวะที่เพื่อนฉันขับรถเข้ามาจอดที่โถงหน้าบ้าน นั่นยิ่งทำให้ม๊าน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง "เมดไปก่อนนะคะ ถึงเมื่อไหร่เดี๋ยวไลน์หา" ฉันก้มหอมแก้มม๊าฟอดนึง ก่อนจะหันไปหาพี่แมธแล้วดึงคอนางลงมาหอมแก้มอย่างแรง "อี๋ สกปรก" ฉันหัวเราะให้กับคำพูดของพี่ชายตัวเองที่หวงตัวกับน้องสาวยิ่งกว่าอะไร "ดูแลม๊าด้วย ออกเคสก็กลับบ้านไม่ใช่ไปเที่ยวเตร่หาสาว" "พูดมาก ไปๆ สักทีเหอะ" พี่แมธผลักหัวฉันหนึ่งที แต่แอบเห็นนะว่านางตาแดงๆ ที่ไม่อยากแซวก็เพราะว่ากลัวตัวเองนี่แหละจะเขื่อนแตก "ดูแลตัวเองดีๆ นะเมด" พูดไปด้วยเช็ดน้ำตาไปด้วย "ค่ะ เมดไปแล้วนะคะ" ฉันพูดก่อนจะหันไปมองด้านหลัง ยังไร้วี่แววป๊าเหมือนเดิม.. จึงตัดสินใจเดินไปขึ้นรถที่เพื่อนมาจอดรอรับ จนรถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนตัวออกจากบ้านหลังใหญ่ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นอิสระของฉัน....

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
6.4K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
5.5K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
3.8K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
15.1K
bc

กระชากกาวน์

read
4.6K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
2.7K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.2K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook