
“เธอชอบไม่ใช่เหรอ?” คำถามของพี่ทศทำเอาหัวใจของฉันเต้นรัวไม่เป็นท่า แล้วมันก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ในตอนที่เขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ
ทำไมพี่ทศถึงได้หล่อและดูดีทุกระเบียดนิ้วแบบนี้นะ
ในอกของฉันปั่นป่วนไปหมดเลยตอนนี้ รู้สึกหายใจได้ไม่ทั่วท้องเลยจริงๆ ประโยคนั้นของพี่ทศมันหมายความว่ายังไง หรือเขาจะรู้ว่าฉันแอบชอบเขาอยู่
“ชะ…ชอบอะไรคะ…”
“ชอบฉันไง”
เฟลมิตาสตันท์ไปจนพูดอะไรไม่ออก ร่างกายเธอแข็งทื่อราวกับถูกแม่มดสาปก็ไม่ปาน เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอชอบ หรือเพราะที่ผ่านมาเธอแสดงออกมากเกินไป?
“เงียบแบบนี้แปลว่าใช่จริงๆ สินะ”
ทศราชกังขังคนตรงหน้าด้วยสายตาพิฆาตที่พยายามจะจับพิรุธของเธอ อันที่จริงแล้วเขาแค่พูดแกล้งเธอไปงั้น ไม่คิดเลยว่ามันจะกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา
ถึงเขาจะไม่ค่อยได้สนใจเพศตรงข้ามจนทำให้ไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ แต่นั่นไม่ใช่กับเฟลมิตา แววตาของเธอมันฟ้องทุกครั้งเวลาที่มองว่ากำลังคิดอะไรที่เกินเลยกับเขา
เพียงแค่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สนใจก็เท่านั้น
“คะ…คือเฟลม…เฟลม…” หญิงสาวได้แต่หลุบตามองพื้นไม่กล้าสู้หน้ากับเขา เธอทั้งเขินและทั้งไปต่อไม่ถูกเมื่อโดนจี้ถาม
“หึ” ร่างสูงแค่นเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะถอยออกห่างและเลิกมองเธอด้วยสายตาจับผิด จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
ก็คำตอบมันชัดเจนออกขนาดนี้ว่าเธอแอบชอบเขาอยู่
“มะ…หมายความว่ายังไงคะ?” เธอเงยหน้าขึ้นถามเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ก็หมายความว่าเธอชอบฉัน ไม่ต้องพูดก็รู้
“….” เฟลมิตาก้มหน้างุดอีกครั้ง เมื่อเขาพูดถึงเรื่องน่าอายอีกแล้ว
“แต่ฉันขอเตือนนะ” ทศราชเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ เขามีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยเพราะลึกๆ ก็ไม่ได้อยากที่จะพูดดับฝันคนตัวเล็ก แต่การตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะกระทำ
“ตัดใจซะเถอะ…เพราะฉันไม่ได้คิดอะไรกับเธอ”

