bc

เปิดเกมรุกปลุกเกมรัก

book_age18+
672
FOLLOW
3.6K
READ
sweet
bxg
kicking
like
intro-logo
Blurb

นักศึกษาหนุ่มหล่อมาดเซอร์ ตอนที่ย่าหยาเห็นเขาที่แรก เธอคิดว่าเขาเป็นกวางหนุ่มที่กำลังจะถูกเสืออย่างเธอล่า ทว่าเมื่อเธอกระโดดเข้าใส่ เขาดันกลายร่างเป็นนายพรานร้ายจับเธอเสียอย่างนั้น และกลายเป้นเธอที่หลงเขาจนไปไหนไม่รอด

chap-preview
Free preview
ย่าหยา
“พี่หยาคะ​ นี่เป็นเอกสารของน้องๆ ที่ส่งเข้ามาขอฝึกงานที่บริษัทเรานะคะ” เสียงเลขาสาวบอกกับหัวหน้าที่กำลังยุ่งกับกองเอกสารที่ต้องเซ็น ".........." ใบหน้าหวานมองไปที่คนพูดก่อนจะเปรยยิ้มอย่างอ่อนโยน ปากเรียวสีส้มอิฐเม้มเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อก้มกลับลงไปมองที่เอกสารอีกครั้ง “แล้วพี่หยาจะไปร่วมสัมภาษณ์กับ HR ด้วยไหมคะ” เลขาถามขึ้นพร้อมกับยืนรอคำตอบ “สัมภาษณ์เมื่อไหร่นะ” “วันศุกร์นี้ค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบจากเลขา​ตาคมที่แต้มด้วยอายแชโดว์สีทองเข้มเสริมความเฉี่ยวก็เหลือบมองที่ปฏิทินบนโต๊ะ แล้วนับวันเวลา “อีก 2 วัน​  อืม...ถ้าว่างจะไปนะ​ ยังไงก็เผื่อที่ให้พี่ด้วยแล้วกัน” “โอเคค่ะ งั้นหนูขอตัวนะคะ” ใบหน้านวลก้มลงให้ความสนใจกับเอกสารอีกครั้ง  เธอยุ่งเรื่อง​อื่น​เสียจนไม่มีเวลาเคลียร์งาน​  ทำให้เอกสารมันกองท่วมหัวจนแทบจะล้มลงมาทับตาย "เซฮายค่ะคุณย่า” ไม่นานเสียงเพื่อนสนิทก็ดังขึ้นปั่นประสาท​ พร้อมกับบานประตูห้องทำงานที่เปิดออกโดยไม่มีการเคาะก่อน 'ย่า'​ ที่เพื่อนเรียกนั้นมาจากชื่อเต็มคือ ‘ย่าหยา’ ชื่อดอกไม้งามที่พ่อแม่เลือกมาตั้งให้ลูกสาว “เข้ามาทำไมไม่เคาะประตูก่อนอีเวร มารยาทอะ​ การมีผัวรวยไม่ได้แปลว่ามึงจะไม่ต้องมีมารยาทนะคะ” นิ้วเรียววางปากกาลงทันทีที่เพื่อนเดินตรงมานั่งที่เก้าอี้ตรงหน้า เป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้วกับการจิกกัดกันระหว่างเธอทั้งสอง “มีค่ะ​ แต่ไม่ได้ใช้กับมึง” ผู้มาเยือนต่อปากต่อคำอย่างไม่ยอมกัน “มาทำไม ไม่อยู่นอนกกนอนก่ายคุณหมีผัวมึงโน่นล่ะ” “โอ๊ย!! ผัวกูเขาก็มีการมีงานทำไหมล่ะ กูอยู่บ้านเฉยๆ เบื่อมาป่วนออฟฟิศชะนีแก่นอนแผ่....อยู่บนคานดีกว่า” สาวอวบว่าก่อนจะเว้นวรรคปรายตามองต่ำให้อีกฝ่ายคิดเอาเองว่าแผ่อะไร “รำคาญค่ะ คนการงานไม่มีทำ วันๆ เอาแต่อ้า....ดักแมลงวัน” สกิลปากของสองคนนี้ถือว่าเหลี่ยมคนทันกันกินกันไม่ลง ‘กันทิมา’ หรือ เฟิร์นหุ้นส่วนรายใหญ่ของบริษัท​  อดีตกรรมการบริหารที่เพิ่งลาออกไปเป็นแม่บ้านหลังแต่งงานกับเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวจีน “นี่อะไรอะ” พอเพื่อนก้มหน้าทำงาน สาวอวบก็ต้องหาอะไรทำคั่นเวลา รอเพื่อนเลิกงานแล้วว่าจะลากไปหาอะไรกิน มืออวบหยิบเอาซองเอกสารจากกองที่เลขาเพิ่งเอามาวางออกมาคลี่ดู “ธิดารัตน์....ชื่อเล่นแอปเปิล ยื่นฝึกแผนกการตลาด...นี่เปิดรับนักศึกษาฝึกงานแล้วเหรอ” “อืม รุ่นแรก จะสัมฯ ศุกร์นี้แล้วสนใจไหมล่ะ" “ถ้ามีงานดีดีก็จะมา” เฟิร์นจีบปากจีบคอตอบ “ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง มึงมีผัวแล้วค่ะ” ย่าหยาว่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบอีกซองขึ้นมาเปิดดูบ้าง ‘คีตะวัน....คิล (คิว) ยื่นฝึกแผนกการตลาด’ ย่าหยาอ่านในใจ ตาคมกวาดมองใบสมัครอย่างละเอียดถี่ถ้วน โปรไฟล์เด็กคนนี้น่าสนใจเหลือเกิน ทั้งมหา'ลัยที่เรียน เกรดที่ได้​ ประสบการณ์ และความสามารถต่างๆ แต่สิ่งที่ดูจะเข้าตาแม่ประธานบริษัทที่สุดเห็นจะเป็น...หน้าตาที่หล่อเหลาคมคายของเขาเสียมากกว่า​  หนุ่มเซอร์หน้าตี๋ ผมยาวปะบ่า หนวดเคราบางๆ พอได้ชวนให้นึกถึงสัมผัสที่เคราลู่กับผิวมันคงจะสยิวจนดิ้นพล่านแน่​ ส่วนสูงและน้ำหนักที่เขียนมาในใบสมัครนั้น ใครจะคิดว่าประธานบริษัทคนนี้จะสามารถนำมาต่อยอดนึกถึงรูปร่างและสัดส่วนของเด็กคนนี้ได้เสียจนเห็นภาพเตลิดไปไกล “อีย่า!!เฮ้!! อีย่า!!” “อะไร!! มึงจะเสียงดังหาพระถังซัมจั๋งอะไรห๊า!! น่ารำคาญ มีผัวจีนเข้าหน่อยกลายเป็นคนขี้โวยวายไปเลยเหรอ” คนถูกเรียกโวยลั่น “หืมมม ว่ากูขี้โวยวาย กูย่าๆๆ จนปู่กูจะมาแทนแล้วมึงเหม่ออะไรก็ไม่รู้​ ทำหน้าทำตาเหมือนชะนีหิวกล้วยด้วย  ทำไมเจอเด็กงานดีเหรอเอามาดูหน่อย” มืออวบเอื้อมไปหมายกระชากใบสมัครจากมือเพื่อนสาว แต่ความไวก็ไม่มากพอที่จะแย่งเอาใบสมัครไปจากมือแม่ประธานบริษัทได้ “มึงจะมาสนใจอะไร รอเฉยๆ สิวะอย่ามาเล่นเอกสารกู เดี๋ยวก็หายหมด” “ไม่มีพิรุธอะไรเลยอะจริงๆ” เฟิร์นพูดทั้งที่สายตายังคงจ้องจับจังหวะจะแย่งเอาเอกสารจากมือเพื่อน “พิรุธอะไรของมึง” “เอามาดู!! อย่าให้ต้องแย่ง เอกสารจะขาดเอาเปล่าๆ” สาวอวบออกคำสั่ง “จะไปกินข้าวใช่ป่ะเนี่ยเดี๋ยวกูเก็บของ....” “ไม่ต้อง!! เอามา กูไม่รีบ เคลียร์งานของมึงให้หมด กูรอได้ เร็วๆ เอามา!!” แต่ไม่ว่าย่าหยาจะอ้างอะไรแม่กันทิมาก็จะเอาเอกสารให้ได้​  "..... อ๊ะ" สุดท้ายคุณประธานสาวก็ต้องยอมยื่นเอกสารให้กับเพื่อนแต่โดยดี​  “โอ๊ยยย กูว่าแล้ว!! หล่อดิบหล่อเถื่อน หล่อลากกระชากมดลูกกูไปเลยค่ะ” ทันทีที่เห็นเพียงรูปนักศึกษาที่แนบมากับใบสมัคร​ กันทิมาก็โวยลั่นทันที “แต่รูปแบบนี้มันผิดระเบียบป่ะ” กันทิมาถามก่อนจะหันหน้าใบสมัครให้เพื่อนดูพร้อมกับชี้ไปที่รูป “ไม่เห็นจะเป็นไร กูไม่ตัดสินคนที่ภายนอกหรอกน่า มึงอ่านประวัติที่กรอกมา ของดีมากค่ะ” “ตาลุกวาวเลยนะอีชะนีเฒ่า!! แล้วผัวเด็กคนเก่ามึงล่ะ” “ได้แล้วเบื่อ” ย่าหยาจีบปากจีบคอพูดอย่างไม่อายฟ้าอายดิน แต่คนเป็นเพื่อนนั้นรู้ดีว่าเพื่อน​มีนิสัย​แบบไหน​ "อย่าไปพลาด​ท่าให้เด็กไหนล่ะ​ เบื่อง่ายจริงมึง~~" แม่สาวอวบรู้ดีว่าเพื่อน​มี​ความ​หลัง​ใน​ใจกับ​คนรักเก่า​  ทำให้คนสวยอย่างย่าหยาครองโสดมาจนอายุ  29  จะแตะ 30 แบบนี้​ พร้อม​กับ​การ​สร้าง​ความ​สุข​ให้​ตัวเอง​ด้วยหญ้า​อ่อน​วัย​หอมหวาน​ที่​เธอ​จะ​เป็น​ฝ่าย​เลือก​เองเท่านั้น เรือนผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มถูกมัดรวบเป็นหางม้าหลวมๆไว้ด้านหลัง  ถูกผูกด้วยโบว์สีแดงสดสีเดียวกับชุดที่เธอสวมใส่  จั๊มสูทขายาวผ่าขากางเกงแหวกยาวขึ้นมาจนถึงโคนขาที่เนียนละเอียด  ด้านหลังปาดเว้าจนแทบถึงเอวเผยให้เห็นแผ่นหลังสีขาวนวลเนียนน่าจับต้อง   มือเรียวหยิบลิปสติกสีแดงเลือดนกขึ้นมาทาเติมบนริมฝีปากเรียวเป็นกระจับได้รูป  แม้จะแต่งหน้าจัดเต็มมาจากบ้านแล้วแต่เพราะเธอเป็นพรานมืออาชีพต้องเล็งอาวุธให้พร้อมสำหรับการล่าเหยื่อเสมอ  ผู้หญิงอย่างย่าหยาจึงใส่ใจรายละเอียดของการแต่งตัวเสมอ “พี่หยาเข้าสัมภาษณ์ด้วยใช่ไหมคะ” เลขาเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้ามาถาม คนสวยหันไปยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับเป็นคำตอบ  คนเป็นเลขาที่ตั้งคำถามรีบออกจากห้องไปบอกกับฝ่ายอื่นๆ  เพื่อการเตรียมความพร้อม ประธานคนสวยเข้าสัมภาษณ์ด้วยทุกอย่างต้องพร้อมและดูดีเสมอสำหรับประธานย่าหยา ฝั่งของคนเข้าสัมภาษณ์ผู้เป็นเป้าหมายของย่าหยาซึ่งไม่ได้กังวลอะไรมากนักต่อการมาสัมภาษณ์  ร่างสูงที่คร่อมอยู่บนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ถอดหมวกกันน็อกออกก่อนจะสะบัดผมยาวปะบ่าให้คลายตัว ใบหน้าคมมองดูกระจกเช็คความเรียบร้อยที่ไม่ได้มีความเรียบร้อยแม้แต่น้อยของตัวเอง  หน้าอกไม่ติดเข็มมหาลัย  ผมเผ้าปล่อยรุงรังไม่มัดรวบ รองเท้าผ้าใบสีขาวกับกางเกงยีนที่สวมมาทั้งที่รู้ว่ามันผิด  เหมือนกับว่าคีตะวันจะลืมไปแล้วว่าเขามาสัมภาษณ์เข้าฝึกงานที่นี่   ร่างสูงโปร่งเดินตรงไปที่ออฟฟิศตรงจุดประชาสัมพันธ์เพื่อสอบถามจุดสัมภาษณ์นักศึกษาฝึกงาน  เขาเรียกความสนใจต่อทุกสายตาได้เป็นอย่างดี ด้วยความสูงและหน้าตาหล่อเหลาที่ดึงดูดผู้มองได้ไม่ยาก “พี่ครับ นักศึกษาฝึกงานสัมภาษณ์ที่ไหนครับ” เขาตรงเข้าไปถามพนักงานที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ หญิงมีอายุกวาดตามองเด็กหนุ่มตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความสนใจ  ขยับแว่นดูอีกครั้งแต่ไม่โต้ตอบอะไรด้วยรู้ว่าแค่การแต่งตัวก็ไม่ผ่านการสัมภาษณ์แน่ๆ     คนถูกมองมองกลับด้วยความสงสัยเมื่อไม่ได้รับคำตอบ  ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีความท้าทายที่เขาสนใจมากกว่าเดิม “พี่ครับ..” “แต่งตัวแบบนี้คงไม่ผ่านหรอก กลับไปแต่งตัวใหม่ค่อยกลับมาเถอะ” กลับกลายเป็นว่าพนักงานคนนี้ตอบไม่ตรงคำถาม   “.......” เด็กหนุ่มมาดเซอร์ยืนมองอย่างนิ่งๆ ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นป้ายบอกทางไปห้องสัมภาษณ์  ปากหนากระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเลี่ยงไปตามป้ายไม่สนใจคนบอก “นี่!! เดี๋ยวสิ” “ครับ” เขาชะงักแล้วหันกลับไปหาพนักงานคนเดิม “จะไปไหน ที่พี่บอกเนี่ยเพราะหวังดีนะ  เรานะ...” “ผมก็หวังดีนะครับ ถ้าพี่อยากเป็นพนักงานที่ดี ตั้งใจทำงานเถอะนะครับ ทำอะไรที่เป็นหน้าที่...อะไรที่มันไม่ใช่หน้าที่ก็อย่าลำบากไปทำเลย”  คีตะวันพูดแล้วเดินหนีออกมาทันที ทิ้งแม่พนักงานสายใหญ่ให้ยืนงงงวยกับประโยคเมื่อสักครู่นี้อยู่คนเดียว เขาเดินขึ้นมาถึงชั้นสองก็พบห้องสัมภาษณ์ที่คนอื่นๆ มาถึงเยอะแล้ว  ดูแล้วทุกอย่างจะผิดคาดไปเสียหมดเมื่อเขาเข้าใจว่าที่นี่เป็นแค่บริษัทเล็กๆ คงไม่มีคนมาสมัครเยอะเท่าไหร่ ด้วยไม่ได้ยื่นสมัครที่อื่นเผื่อไว้เลย....หากไม่ได้ที่นี่เขาต้องยุ่งยากมากแน่ๆ  ‘ไอ้คิลนะไอ้คิล ดันแต่งตัวไม่เรียบร้อยมาด้วยอีก  ถ้าเข้าได้ก็คงฟลุ๊กน่าดู’ เขาด่าทอตัวเองในใจ “คิล...” เสียงใสของหญิงสาวร้องเรียกเขาจากที่นั่งข้างๆ  เมื่อหันไปก็พบว่าเป็นแอปเปิลเดือนร่วมคณะที่ตอนนี้เขาเองก็คุยๆ อยู่บ้าง  แต่แปลกไม่เห็นเคยบอกว่ายื่นฝึกที่นี่เหมือนกัน “จะฝึกที่นี่เหมือนกันเหรอ” เขาเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าวิตกกังวลของแอปเปิลทำให้เขารับรู้ได้เลยว่าเธอกำลังกดดันอยู่มากๆ “ใช่ เมื่อกี้เราเข้าไปสัม ฯ เราตอบอะไรได้ไม่ค่อยดีเลย กลัวจะไม่ได้จัง” “ถ้าอย่างแอปเปิลไม่ได้ ..แล้วเราล่ะ  อย่าคิดมากเลยนะ” คีตะวันพูดปลอบคนข้างๆ ทำให้รอยยิ้มแสนละมุนของใบหน้าสวยหวานที่ฉาบด้วยเครื่องสำอางบางเบาส่งกลับมาทันที “ขอบใจนะ แล้วคิลสัมภาษณ์คนที่เท่าไหร่” “ท้ายๆ เลยไปดูรายชื่อมาเมื่อกี้” “เชิญคุณคีตะวันค่ะ....” เสียงพนักงานที่ดูแลส่วนของการเรียกตัวนักศึกษาเดินออกมาเรียกชื่อคนที่ต้องเข้าสัมภาษณ์คนต่อไป ‘อะไรกัน ก็เช็กชื่อแล้วนี่หว่า....ไม่ได้ผิดสักหน่อย แล้วทำไม...’ แม้จะงงงันไปสักหน่อยแต่เจ้าของชื่อก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องสัมภาษณ์อย่างไม่รีรอ  เข้ามาถึงภายในห้องสายตาทุกคู่ของกรรมการสัมภาษณ์ต่างมองเขาเป็นตาเดียว  แน่นอนว่านั่นคือเรื่องของการแต่งตัวที่มันติสท์เสียจนขัดหูขัดตากรรมการรุ่นเดอะ  ความไม่เหมาะสมที่แทบไม่ต้องคาดเดาว่าเขาจะผ่านการคัดเลือกหรือไม่ “เชิญนั่งค่ะ” เสียงเข้มทรงพลังของหญิงสาวในชุดสีแดงสดดึงความสนใจของคีตะวันไปจนหมด เขามองดูคนสวยที่นั่งอยู่ตรงกลางของโต๊ะสัมภาษณ์ที่รัศมีนางพญาบ่งบอกถึงตำแหน่งที่สูงกว่าทุกคนในห้องโดยไม่ต้องเดา    คีตะวันก้มหัวแทนคำขอบคุณก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ทางบริษัทเตรียมให้ เขาเกร็งเล็กน้อยเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางสายตาของใครหลายคนที่ไม่รู้จักแม้จะเตรียมใจมาอย่างดี   แต่ก็แอบประหม่าเล็กน้อยกับสายตาคมเฉี่ยวของย่าหยาที่มองเป้าหมายอย่างไม่วางตา “แนะนำตัวสิ!!” ย่าหยาพูดขึ้นทั้งที่เธออ่านประวัติของเด็กคนนี้ซ้ำหลายรอบจนท่องจำได้   เธอเพียงอยากเห็นบุคลิกและความมั่นใจของเขาก็เท่านั้น  บุคลิกที่เป็นตัวบอกว่าเขาจะเป็นเหยื่อชั้นดีแค่ไหน “สวัสดีครับ ผมนายคีตะวัน เพียงภู ชื่อเล่นคิล เรียนอยู่มหาวิทยาลัย K เรียนการตลาดครับ รายละเอียดอื่นๆ ผมเขียนลงในเรซูเม่กับพอร์ตฟอริโอหมดแล้ว” เขาตอบอย่างกระชับและเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนคนอื่นที่พูดท่องจำมาพรีเซ็นต์งาน “มีแฟนหรือยัง” คำถามแรกจากย่าหยาพาให้ทั้งตัวคีตะวันและกรรมการงุนงงและพากันมองไปที่แม่นางพญาชุดแดงเพลิงโดยพร้อมเพรียงกัน

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

กระชากกาวน์

read
4.6K
bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
6.4K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
5.5K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
3.8K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
15.1K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
2.7K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.2K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook