bc

เด็กเลี้ยง

book_age18+
861
ติดตาม
5.9K
อ่าน
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
ปิ๊งรักวัยเด็ก
like
intro-logo
คำนิยม

ไม่ได้อยากเป็นเด็กเลี้ยง อยากเป็นเมีย!

เพราะพ่อ 'เธอ' ติดหนี้ 'เขา' และหาเงินมาจ่ายไม่ทัน เธอก็เลย 'ยก' ตัวเองให้เขาอย่างเต็มใจ

'เขา' อายุสามสิบ ไม่คิดที่จะกินเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่เพิ่งจะยี่สิบ แต่ 'เธอ' ดันแปลกดี โดยเฉพาะ 'ปาก' ที่เถียงฉอด ๆ ไม่ได้กลัวเขาที่เป็น 'เจ้าหนี้' เลยสักนิด

“เธอไม่อยากให้ฉันรักเธอหรือไง”

“อยาก”

“แล้วจะทำไง?” เหมือนเฮียสนุกสนานยังไงก็ไม่รู้ ตอนนี้สีหน้าเขามันบ่งบอกแบบนั้น “ผู้หญิงคนอื่นเข้าหาฉันมากมายหลายลีลา แต่ยังมัดใจฉันไม่ได้ แล้วเธอล่ะเด็กน้อย นอกจากจะไม่เข้าหาแล้วยังเถียงคำไม่ตกฟาก คิดว่ามันจะมัดใจฉันได้ไหม”

“ก็หนูไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นของเฮียไง หนูแตกต่าง” ว่าแล้วก็เชิดหน้าขึ้น “ออดอ้อนก็ยังทำให้เฮียรักไม่ได้ แล้วทำไมหนูต้องทำแบบนั้น มีค่าเหมือนเดิม”

“แล้วเธอจะทำยังไง”

“ไม่ทำไง ทำแบบนี้แหละ” สองตาจับจ้องเฮียนิ่ง แต่เมื่อคิดอะไรได้ก็เลยเอาเท้าไล้ขาเฮียเบา ๆ แล้วลากไปที่กลางเป้าของเขา “เฮียเคยอมนิ้วเท้าผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า”

“ไม่เคย” เฮียตอบในขณะที่สายตากำลังวาววับ

“แล้วทำไมเฮียถึงอมของหนู?” ทุกครั้งที่เราร่วมรักกัน ถ้าขาฉันพาดบ่าเฮียเมื่อไหร่ หรือถ้าเขามุดหน้าลงต่ำ นิ้วเท้าเล็ก ๆ จะโดนเฮียดูดเสมอ

“เด็กน้อย” เป็นจังหวะที่ไม่ทันได้ตั้งตัว อยู่ดี ๆ ร่างสูงใหญ่ก็ลุกออกจากเก้าอี้แล้วคร่อมทับตัวใส่ฉันกะทันหันจนต้องทิ้งตัวลงนอนราบไปกับโต๊ะทำงานของเขา ร่างหนาแทรกตัวเข้ามากลางขาที่อ้าตึงเพราะโดนกระโปรงรั้ง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ

“เฮียที่นี่ไม่ได้”

“ไม่อยากลองหรือไง เสียวนะ”

“ไม่เอา” ส่ายหน้าส่งไปให้เขา

“แต่ฉันจะเอา”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทที่ 1 ต่อรอง(1/2)
1.ต่อรอง ไม่รู้เป็นเพราะอากาศในประเทศไทยร้อนระอุเกินไป หรือเป็นเพราะ ‘เขา’ นั่งอยู่ตรงนั้นก็เลยทำให้ ‘เสี่ยฮง’ รู้สึกร้อนจนเหงื่อแตก ฝ่ามือเหี่ยวย่นยกขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผากออกก่อนที่จะเปิดปาก “ผมขอเวลาอีกสักเดือนได้ไหมครับ” แม้เสี่ยฮงจะอายุมากกว่า แต่ก็ต้องทำตัวนอบน้อมเพราะอีกคนมีอำนาจมากกว่าอายุ “เสี่ยเลื่อนมาหลายเดือนแล้วนะ” “ครั้งนี้ไม่เลื่อนจริง ๆ ครับ” เสี่ยฮงพูดด้วยน้ำเสียงปนอ้อนวอน “เห็นใจผมเถอะ ลูกสาวผมกำลังเรียนมหา’ลัย ถ้าผมคืนเงินก้อนนี้ ยัยหนูเรียนไม่จบแน่ ๆ” “ก็เพราะผมเห็นแก่ลูกสาวเสี่ย ก็เลยเลื่อนแล้วเลื่อนอีก” เพราะเขาก็มีน้องสาวกับน้องชายที่กำลังเรียนมหา’ลัยเหมือนกัน ก็เลยนึกเห็นใจเสี่ยฮง แต่ความเห็นใจมันก็มีขีดจำกัด แม้เขาจะไม่ได้ร้อนเงิน แต่ถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้ คนอื่นก็จะเอาเป็นตัวอย่าง ‘เธียร’ ไม่ได้ปล่อยเงินกู้ ไม่ได้ปล่อยเงินดอก แต่เขาแค่ช่วยเหลือเพื่อนที่เคยร่วมธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ ซึ่งมันก็มีไม่กี่คน และหนึ่งในนั้นก็มีเสี่ยฮงที่เขาให้ความช่วยเหลือตอนที่อีกฝ่ายกำลังลำบาก อีกทั้งเสี่ยฮงเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกับพ่อเขามาก่อน ทั้งคู่เป็นคู่ค้าที่ดีต่อกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาตลอด ก็เลยทำให้เขายอมช่วยมาจนถึงทุกวันนี้ “ขอโอกาสผมอีกสักเดือนเถอะครับ แล้วผมจะหาเงินมาคืนให้” “เอาแบบนี้ไหมเสี่ย ผมมีข้อเสนอให้” “ข้อเสนอ?” คนที่มีอายุเยอะกว่ามองหนุ่มรุ่นลูกอย่างสงสัย แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายทำหน้ายังไงเพราะแว่นตาสีดำบดบังดวงตาอีกฝ่ายเอาไว้ แต่ต่อให้ถอดแว่นออกก็เดาใจผู้ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ดี “ยกธุรกิจของเสี่ยให้ผม แล้วผมจะยกหนี้ให้” “แบบนั้นมันเหมือนตัดแขนตัดขาผมเลยนะ” ธุรกิจของเสี่ยฮงก็คือกิจการร้านทองขึ้นชื่อ มีประมาณยี่สิบสาขาภายในประเทศไทย แต่ถึงแม้จะมีเยอะก็หมุนเงินไม่ทันอยู่ดี เพราะเสี่ยฮงไม่ได้ติดหนี้แค่เธียรคนเดียว ยังมีเจ้าหนี้อีกหลายคนที่เขาไปหยิบยืมมา “เห็นใจผมเถอะ ที่ผมขอร้องคุณก็เพราะคุณเป็นคนเดียวที่ไม่อยากได้ลูกสาวผม ถ้าผมยกกิจการร้านทองให้คุณ ผมจะหาเงินจากไหนเอาไปจ่ายเจ้าอื่น ถ้าผมไม่มี ยัยหนูคง…” “พ่อมีแขกเหรอคะ” เสียงหวานดังขึ้นในขณะที่เสี่ยฮงกำลังจะเอ่ยประโยคสะเทือนใจ จากที่กำลังตึงเครียดก็ผ่อนความรู้สึกนั้นลงเพราะกลัวลูกสาวเป็นห่วง “ทำไมเสียมารยาทแบบนี้ พ่อคุยธุระอยู่นะหนูแฮม” “ธุระอะไรคุยเกือบทุกวัน” คนเป็นลูกทิ้งตัวนั่งลงข้างพ่อตัวเอง สองตากลมโตเหลือบมองผู้ชายใส่สูทที่นั่งเหมือนนายแบบอยู่ต่อหน้า “คุณมาทวงหนี้พ่อหนูอีกล่ะสิ” “พูดกับคุณเธียรดี ๆ เขาเป็นเจ้าหนี้เรานะ” คนเป็นพ่อเอ็ดลูกสาว “ทำไมต้องพูดดีด้วย” แล้วเธอก็เบะปากออกมา แน่นอนว่ามันทำให้คิ้วของเธียรกระตุกเข้าหากันได้ “ที่จริงคุณก็มีเงินเยอะ ไม่ได้ร้อนเงินอะไร ก็ผ่อน ๆ ให้หน่อยไม่ได้หรือไง พวกเราไม่ได้หนีสักหน่อย พ่อก็พยายามหามาคืนให้ เห็นใจกันหน่อยสิ” “ลูกสาวเสี่ยมีคนเดียวเหรอ” เขาไม่ได้สนใจกับคำพูดของเด็กอายุยี่สิบ แต่ดันถามกลับ ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา เพราะกำลังทดความรู้สึกนั้นไว้ในใจ “ครับ” เสี่ยฮงเหงื่อแตกมากกว่าเดิม “อย่าถือสายัยหนูเลยนะ แกยังเด็ก” “ไม่เด็กแล้วสักหน่อย หนูโตแล้ว” “หนูแฮม!” “ไม่ต้องดุลูกสาวหรอกเสี่ย ผมไม่ได้ถือสา” เธียรโบกไม้โบกมือไปมาบ่งบอกว่าไม่ได้ถือสาจริง ๆ “เด็กยี่สิบก็เป็นแบบนี้แหละ” “ขอโทษแทนยัยหนูอีกครั้งนะครับ” “ครับ” จากหน้าที่ไม่มีรอยยิ้มก็ยิ้มออกมา “แล้วตกลงเสี่ยจะคืนเงินผมได้ภายในวันไหน” “ผมขอเป็นเดือนหน้าเหมือนเดิม…” “เกรงว่าจะไม่ได้” เขาปรับท่านั่งให้สบายตัวขึ้น มองไปรอบบ้านอย่างพิจารณาก่อนที่จะหันกลับมามองเสี่ยฮงอีกครั้ง “เสี่ยเลือกเอาว่าจะยกอะไรให้ผม ระหว่างกิจการร้านทอง บ้านหลังนี้… หรือลูกสาวเสี่ย” ประโยคหลังทำให้เสี่ยฮงเหงื่อแตกมากกว่าเดิมหลายเท่า จากที่ร้อนอยู่แล้วก็ร้อนเข้าไปอีก ฝ่ามือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบหน้าเหมือนกำลังคิดหนัก เพราะไม่ว่าจะยกสิ่งไหนเธียร มันก็แย่อยู่ดี ตอนแรกผู้ชายคนนี้ไม่คิดสนใจลูกสาวของเขา แต่ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ถึงสนใจ อาจเป็นเพราะหนูแฮมโผล่หน้ามาให้เห็น พูดปากไม่มีหูรูดก็เลยทำให้เขาเปลี่ยนใจ เสี่ยฮงเดาใจเจ้าหนี้ตัวเองไม่ออกจริง ๆ “นี่คุณ ไม่คิดจะให้โอกาสคนอื่นบ้างเลยหรือไง” เสียงหวานดังขึ้นท่ามกลางความเครียด เธอไม่ได้นึกตกใจเพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหนี้พูดแบบนี้ เพียงแค่นึกโมโหที่อีกฝ่ายไม่ให้เวลาหาเงินซะเลย แต่ความโมโหนั้นก็ยังมีความรู้สึกอื่นปะปนซ่อนอยู่ แต่เธอก็พยายามฝังมันไว้ให้ลึกสุดใจเพราะกลัวอีกฝ่ายจะรู้ “เอาเป็นว่าผมยกบ้านให้คุณก็แล้วกัน” เพราะกลัวว่าลูกสาวจะทำพังไปมากกว่านี้ก็รีบพูดขึ้น แม้จะรักและมีความทรงจำมากมายเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ แต่ก็ต้องยอมยกให้อีกฝ่าย เขาไม่สามารถยกธุรกิจกับลูกสาวให้ใครได้จริง ๆ “ตกลงตามนั้น” “ไม่ตกลง แบบนี้ไม่โอเคเลย” หนูแฮมพูดขึ้นเสียงดังพร้อมมองหน้าเธียรเขม็ง “คุณไม่เห็นใจคนไม่มีบ้านอยู่หรือไง ถ้าพ่อยกบ้านให้คุณ แล้วพวกเราจะไปอยู่ไหน” “งั้นเธอก็มาอยู่กับฉันสิเด็กน้อย ทั้งบ้านและธุรกิจของพ่อเธอจะได้อยู่เหมือนเดิม” เธียรไม่ได้สะทกสะท้านต่อคำพูดนั้น เขายังอยู่ในท่าทีสบาย ๆ เหมือนเดิม ไม่ว่าอีกฝ่ายจะยกอะไรให้ เขาก็มีแต่ได้กับได้อยู่ดี “อยู่แล้วได้อะไร คุ้มหรือเปล่า” คำถามของหนูแฮมทำให้เจ้าหนี้นึกขัน มีเพียงเสี่ยฮงที่กำลังสั่นเทาด้วยความกลัว “อย่าใส่ใจยัยหนูเลยครับ” พูดกับเธียรแค่นั้นแล้วก็หันไปมองลูกสาว “ขึ้นห้องไป นี่ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” “หนูกำลังช่วยพ่ออยู่นะ บ้านเราติดหนี้ตั้งกี่ล้าน แถมไม่ได้มีแค่เจ้าเดียว มีเป็นสิบ ต่อให้พ่อยกบ้านให้คุณคนนี้ คนอื่นก็มายึดอย่างอื่นอยู่ดี สุดท้ายก็ไม่พ้นหนู” คำพูดของลูกสาวไม่สามารถทำให้เสี่ยฮงเถียงได้เพราะมันคือเรื่องจริง ในอนาคตข้างหน้า ถ้าหาเงินมาคืนเจ้าหนี้ไม่ได้ หนูแฮมก็คงจะเป็นรายต่อไป และเขาไม่รู้เลยว่าลูกสาวจะตกไปอยู่กับใคร “เอาไงดี” คนที่ไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องนี้ถามขึ้นท่ามกลางความเงียบและความตึงเครียดของบ้าน “แบบที่ลูกสาวเสนอก็ดีนะเสี่ย ไม่ต้องเสียอะไร ต่อให้เสี่ยยกลูกสาวให้ผม เธอก็ยังเป็นลูกเสี่ยอยู่ดี” “ตกลง หนูยกตัวเองให้คุณ” และนี่คือเสียงของหนูแฮมที่เอ่ยยกตัวเองให้เจ้าหนี้ แน่นอนว่าคำพูดของเธอทำให้เธียรนึกขำ ต่างจากคนเป็นพ่ออย่างชัดเจน ถ้าเสี่ยฮงเป็นโรคหัวใจ ป่านนี้ก็คงจะหัวใจวายตายไปแล้ว

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
48.0K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
18.7K
bc

หัวใจที่โหยหา

read
1K
bc

เมียลับอุ้มรัก

read
82.6K
bc

ร่านรัก จักรพรรดินี

read
1.8K
bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
33.8K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
55.4K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook